แอมเนสตี้ แสดงความเสียใจ เหตุกราดยิงห้างดัง เรียกร้องรัฐบาลเร่งเยียวยาผู้เสียหาย

4 ตุลาคม 2566

Amnesty International Thailand

แอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนลประเทศไทย แสดงความเสียใจต่อเหตุกราดยิงในห้าสรรพสินค้าเมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมาเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งเยียวยาผู้เสียหายทุกคน  

 

จากกรณีที่มีเหตุกราดยิงในห้าสรรพสินค้าส่งผลให้มีผู้เสียชีวิ 2 คนและมีผู้บาดเจ็บ 5 คนแอมเนสตี้อินเตอร์เนชันแนลประเทศไทยขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อครอบครัวและผู้เป็นที่รักของผู้เสียชีวิตพร้อมถึงแสดงความห่วงใยต่อผู้ได้รับผลกระทบทางสภาพจิตใจ 

 

อย่างไรก็ตาม ภายหลังเหตุการณ์มีการเผยแพร่ส่งต่อภาพของผู้บาดเจ็บรวมถึงภาพและข้อมูลส่วนตัวของผู้ก่อเหตุวัย 14 ปีอย่างแพร่หลายในสังคมออนไลน์โดยมิได้คำนึงถึงสิทธิในความเป็นส่วนตัว   

 

จากการติดตามสถานการณ์ตั้งแต่เมื่อวานจนถึงปัจจุบันพบการเผยแพร่ส่งต่อภาพเหตุการณ์ข้อมูลส่วนบุคคลที่เปิดเผยอัตลักษณ์ของผู้ก่อเหตุที่มีอายุเพียง14 ปีในสื่อสังคมออนไลน์แอมเนสตี้จึงขอเป็นส่วนหนึ่งในการเรียกร้องให้สื่อสังคมออนไลน์หยุดส่งต่อหยุดแชร์ และหยุดเผยแพร่ข้อมูลที่เปิดเผยอัตลักษณ์บุคคลของผู้ก่อเหตุและครอบครัว และขอให้สื่อมวลชนและบุคคลทั่วไปทบทวนการเผยแพร่ข้อมูลที่อาจละเมิดสิทธิในความเป็นส่วนตัวของเด็ก  จนทำให้ถูกตีตราและถูกตัดสินจากสังคมไปตลอดชีวิต  

 

การคุ้มครองเด็กมีกระบวนการยุติธรรมและกฎหมายควบคุม ดังนี้  

อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กแห่งสหประชาชาติ 

เด็กทุกคนมีสิทธิได้รับความเป็นส่วนตัวกฎหมายต้องให้ความคุ้มครองเด็กจากการถูกละเมิดชื่อเสียงความเป็นส่วนตัวหรือการดูหมิ่นเด็กมีสิทธิได้รับการคุ้มครองจากการแสวงประโยชน์ทุกรูปแบบี้ 

 

พ.ร.บ. คุ้มครองเด็กพ.ศ. 2546 

มาตรา27 ห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาหรือเผยแพร่ทางสื่อมวลชนหรือสื่อสารสนเทศประเภทใด ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับตัวเด็กหรือผู้ปกครองโดยเจตนาที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่จิตใจชื่อเสียงเกียรติคุณหรือสิทธิประโยชน์อื่นใดของเด็กหรือเพื่อแสวงหาประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ 

 

ตามกฎหมายดังกล่าว ยังมีบทบัญญัติให้การคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กและเยาวชนที่เป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยเพื่อให้เป็นไปตามอนุสัญญาสิทธิเด็ก ดังนั้นผู้ที่มีหน้าที่ปฏิบัติการเกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีเด็กและเยาวชน เช่นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจพนักงานสอบสวนฯลฯจะต้องคำนึงถึงการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กและเยาวชน 

 

"แอมเนสตี้ ประเทศไทยขอให้รัฐบาลให้ความช่วยเหลือและเยียวยาแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บและผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวโดยเร็วและทั่วถึง พร้อมทั้งเพิ่มมาตรการคุ้มครองความปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะให้แก่ประชาชน ทั้งนี้ต้องมีการรับประกันความปลอดภัยและความมั่นคงของคนทุกคน ไม่ควรมีใครตกอยู่ในอันตรายเพียงเพราะพักผ่อนหรือทำงานในห้างสรรพสินค้าา และดำเนินการฟื้นฟูขวัญกำลังใจของประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้สามารถกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุขได้ในเร็ววัน"