กรอบยุทธศาสตร์ระดับสากลของเรา
สรุปประเด็นเร่งด่วนหลักของเราสำหรับปี 2565-2573
ข้อ 4 ในธรรมนูญของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลกำหนดว่า “แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลต้องมีเป้าหมายเชิงยุทธ์ศาสตร์เป็นแนวทางของขบวนการตลอดเวลา” นอกจากนี้ ข้อ 13 กำหนดว่า “ส่วนต่างๆ ต้องปฏิบัติตามคุณค่าหลักและวิธีการของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล และต้องเป็นไปตามมาตรฐานหลักตลอดจนเป้าหมายเชิงยุทธ์ศาสตร์ใดๆ”
กรอบยุทธศาสตร์ระดับสากล (2565-2573) คือประเด็นเร่งด่วนที่ตกลงร่วมกันซึ่งเป็นแนวทางในการทำงานของแอมเนสตี้ในช่วงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึง 31 ธันวาคม 2573 โดยเป็นการเปลี่ยนแปลงที่แอมเนสตี้ในฐานะขบวนการต้องการที่จะมีส่วนร่วม สามารถอ่านกรอบกลยุทธ์ฉบับเต็มได้ที่นี่ ซึ่งมีทั้งที่เป็นภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส และสเปน
กรอบยุทธศาสตร์ระดับสากลได้รับการเสนอโดยคณะกรรมการสากลและปฏิบัติตามกระบวนการปรึกษาหารืออย่างรอบด้าน ซึ่งได้รับการอนุมัติจากสมัชชาสากล สมัชชาสากลเป็นหน่วยงานกำกับดูแลที่มีอำนาจสูงสุดในการกำหนดเป้าหมายเชิงยุทธ์ศาสตร์ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล รวมถึงยุทธ์ศาสตร์ทางการเงิน
ประเด็นเร่งด่วนด้านสิทธิมนุษยชนของเรา
ในโลกที่มีแต่ความไม่แน่นอนด้วยวิกฤตสภาพอากาศที่กำลังเกิดขึ้น และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์อย่างกว้างขวางได้ขยายความเหลื่อมล้ำและความอยุติธรรมให้มากยิ่งขึ้น แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล จะยืนหยัดในฐานะขบวนการเคลื่อนไหวระดับโลกที่สามารถเชื่อมโยงกับบริบทในแต่ละพื้นที่ การทำงานร่วมกันกับบุคคลและขบวนการต่างๆ ที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนจะทำให้เราประสบความสำเร็จในการชักจูงผู้มีบทบาทที่ทรงพลังทั้งที่เป็นรัฐและไม่ใช่รัฐให้ยอมรับและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
เพื่อจุดประสงค์ดังที่กล่าวมา แอมเนสตี้จะระดมทรัพยากรและผนึกกำลังทำการรณรงค์ในสัดส่วนที่มีนัยสำคัญสำหรับ 2 ประเด็นเร่งด่วน ดังนี้
ประเด็นเร่งด่วน 1 – สิทธิในเสรีภาพการแสดงออกและพื้นที่ของภาคประชาสังคม
1.1 – สร้างความเข้มแข็งให้กับสิทธิในเสรีภาพการแสดงออก
1.2 – สร้างหลักประกันสิทธิในเสรีภาพการชุมนุมประท้วงสำหรับทุกคน
ประเด็นเร่งด่วน 2 – ความเสมอภาคและการไม่เลือกปฏิบัติ
2.1 – การส่งเสริมความยุติธรรมทางเพศและจัดการกับปัญหาอัตลักษณ์ทับซ้อน
2.2 – การส่งเสริมสิทธิด้านสุขภาพ ที่อยู่อาศัย และหลักประกันทางสังคม
2.3 – การดำเนินการเพื่อรับรองความเป็นธรรมด้านสภาพภูมิอากาศ
2.4 – การปกป้องสิทธิของผู้ลี้ภัยและผู้อพยพและสิทธิของผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาวะวิกฤติ
งานในประเด็นสิทธิมนุษยชนอื่นๆ
นอกเหนือจากงานเกี่ยวกับประเด็นเร่งด่วนระดับโลก 1 และ 2 แล้ว ส่วนงานต่างๆ ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลอาจใช้ทรัพยากรมากถึง 20% ในการทำงานในประเด็นสิทธิมนุษยชนอื่นๆ ซึ่งเป็นปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนที่ได้รับเลือกเพื่อตอบสนองต่อข้อกังวลด้านสิทธิมนุษยชนที่มีความเร่งด่วนอื่นๆ ในพื้นที่ เช่น การยกเลิกโทษประหารชีวิต การเข้าถึงความยุติธรรมและการเยียวยา และการป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชนในระบบยุติธรรมทางอาญา
ประเด็นเร่งด่วนระดับโลก
80%
สิทธิในเสรีภาพการแสดงออกและพื้นที่ของภาคประชาสังคม และความเสมอภาคและการเลือกปฏิบัติ
งานในประเด็นสิทธิมนุษยชนอื่นๆ
20%
ปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องและเกิดขึ้นใหม่
มุมมองร่วม
ในงานทั้งหมดที่เราทำ ไม่ว่าจะอยู่ภายใต้ประเด็นเร่งด่วนระดับโลกหรืองานในประเด็นสิทธิมนุษยชนอื่นๆ แอมเนสตี้จะวิเคราะห์ วางแผน และประเมินผลงานด้านสิทธิมนุษยชนของเราผ่านมุมมองร่วมดังต่อไปนี้
- บุคคลและชุมชนที่มีความเสี่ยง – การทำงานกับ/และเพื่อบุคคลและชุมชนที่มีความเสี่ยงโดยตรงต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน
- อัตลักษณ์ทับซ้อน การบูรณาการประเด็นเพศภาวะเข้าสู่กระแสหลัก และการต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ – มุ่งเน้นอย่างจริงจังไปที่ผู้คนที่ถูกเลือกปฏิบัติทางโครงสร้างจากหลายสาเหตุที่ทับซ้อน รวมถึงเนื่องจากอัตลักษณ์ทางเพศ เชื้อชาติ ชาติพันธุ์ ชนชั้นและรูปแบบอื่นๆ ของความเป็นมาทางสังคม วรรณะ เอกลักษณ์ของชนเผ่าพื้นเมือง และรสนิยมทางเพศ วิเคราะห์ผลกระทบต่อสิทธิมนุษยชนของการเลือกปฏิบัติ และรวมสิ่งที่ค้นพบไว้ในเอกสาร คำแนะนำ และข้อเรียกร้องในการรณรงค์อย่างชัดเจน
- ความรับผิดรับชอบของบรรษัท รวมถึงภาคส่วนเทคโนโลยี – วิเคราะห์บทบาทของผู้มีบทบาทในองค์กร และทำงานบนพื้นฐานดังกล่าวเพื่อประกันว่ารัฐจะออกข้อกำหนดในการตรวจสอบด้านสิทธิมนุษยชนที่จำเป็นสำหรับองค์กร เอาผิดกับองค์กรที่มีส่วนในการละเมิดสิทธิมนุษยชน และให้การเยียวยาต่อผู้เสียหายหรือเหยื่อ
การเสริมสร้างศักยภาพของแอมเนสตี้
ภายในช่วงของกรอบยุทธศาสตร์ 2565-2573 เพื่อสนับสนุนประเด็นเร่งด่วนด้านสิทธิมนุษยชน แอมเนสตี้จะเสริมสร้างและพัฒนาความสามารถของเราเพื่อการเปลี่ยนแปลงด้านสิทธิมนุษยชน ดังนี้
มุมมองของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
เราต้องทำอะไรร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียบ้างเพื่อให้บรรลุผลลัพธ์นั้นๆ
- การแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับบุคคลและชุมชนที่เผชิญกับปัญหาท้าทายด้านสิทธิมนุษยชนและสนับสนุนข้อเรียกร้องของพวกเขา
- การโน้มน้าวและช่วยให้ผู้รับผิดชอบสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างถูกต้องทั้งในทางกฎหมายและในทางปฏิบัติ
- การโน้มน้าวและช่วยให้องค์กรสามารถจำกัดผลกระทบเชิงลบต่อสิทธิมนุษยชน และสำรวจวิธีการต่างๆ ในการมีส่วนร่วม
มุมมองด้านศักยภาพ
เราจะสร้างสรรค์นวัตกรรมและระดมทรัพยากรเพื่อมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างไรบ้าง
- การขับเคลื่อนงานด้านสิทธิมนุษยชนศึกษา
- การเสริมสร้างงานวิจัยด้านสิทธิมนุษยชน
- การพัฒนางานรณรงค์กับภาครัฐและบรรษัทให้นําไปสู่ผลลัพธ์
- การเสริมสร้างความเข้มแข็งของขบวนการเคลื่อนไหวที่มาจากพลังของประชาสังคมและทำให้แอมเนสตี้เป็นที่รู้จัก
- การเสริมสร้างงานของเราร่วมกับพาร์ทเนอร์หรือองค์กรพันธมิตร
มุมมองด้านกระบวนการภายในและการเรียนรู้
อะไรจะช่วยให้เรามีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
- การอ้างอิงงานของเรากับกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศและนโยบายของแอมเนสตี้
- การเสริมสร้างความเข้มแข็งของขบวนการเคลื่อนไหวของเราโดยการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและกระบวนการ
- การระดมทรัพยากรเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของสมาชิกและเจ้าหน้าที่ของเรา และในด้านความเสมอภาคและการมีส่วนร่วม
- การเพิ่มและปรับปรุงความเข้าใจของเราเกี่ยวกับผลกระทบและการตัดสินใจตามหลักฐาน
มุมมองด้านการเงิน
เราจะเพิ่มทรัพยากรของเราอย่างยั่งยืนได้อย่างไร
การเพิ่มทรัพยากรและรายได้ของเรา จะได้มีความยั่งยืนทางการเงินที่สอดคล้องตามหลักคุณค่าของเรา