โปรไฟล์ในเฟซบุ๊กระบุว่า วันเฉลิมอยู่ระหว่างลี้ภัย เนื่องจากเขาสนับสนุนประชาธิปไตย ทางการไทยได้แจ้งข้อหาต่อเขา ครั้งสุดท้ายคือการแจ้งข้อหาในปี 2561 ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ กล่าวหาว่าเขาโพสต์ข้อความต่อต้านรัฐบาลในกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ “กูต้องได้ 100 ล้านจากทักษิณแน่ ๆ” และมีรายงานว่าทางการไทยเคยติดต่อทางการกัมพูชา เพื่อให้ส่งตัววันเฉลิมกลับมาในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน ทั้งยังแจ้งข้อหาต่อเขาเนื่องจากไม่ไปรายงานตัวตามคำประกาศเมื่อปี 2557 ซึ่งนักกิจกรรมและนักการเมืองหลายคนได้รับคำสั่งให้ไปรายงานตัวภายหลังรัฐประหารในเดือนพฤษภาคมปีดังกล่าว
ในวันที่ 9 มิถุนายน 2563 ทางการกัมพูชากล่าวต่อสื่อมวลชนว่า จะเริ่มการสอบสวนต่อการหายตัวไปของวันเฉลิม ทั้งที่ก่อนหน้านี้ได้แจ้งต่อสื่อมวลชนว่าไม่ทราบถึงกรณีที่เกิดขึ้นกับเขา และจะไม่สอบสวนการอุ้มหายตามที่กล่าวหา
วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์ เป็นหนึ่งในนักกิจกรรมทางการเมืองหลายสิบคนจากไทย ซึ่งลี้ภัยไปอาศัยในประเทศเพื่อนบ้าน ภายหลังการชุมนุมทางการเมืองในประเทศในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา หลายคนตัดสินใจเดินทางออกนอกประเทศ หลังกองทัพทำรัฐประหารยึดอำนาจเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 และมีคำสั่งเรียกตัวนักการเมืองฝ่ายค้านและนักกิจกรรมให้มารายงานตัว เพื่อสอบปากคำและเพื่อควบคุมตัวโดยพลการ ที่ผ่านมาทางการไทยยังได้ร้องขอรัฐบาลประเทศเพื่อนบ้านหลายครั้ง ให้ส่งตัวบุคคลเหล่านี้เพื่อนำมาดำเนินคดีอาญาในประเทศไทย ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการใช้สิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออกออนไลน์ของพวกเขา
มีข้อกังวลอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยของผู้ลี้ภัยชาวไทยในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งทางการไทยได้ร้องขอให้ส่งตัวกลับในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน ช่วงหลายปีที่ผ่านมา นักกิจกรรมชาวไทยและสมาชิกพรรคฝ่ายค้านอย่างน้อยแปดคนหายตัวไป หรือถูกสังหารในประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งผู้ที่จัดทำรายการและออกอากาศระหว่างลี้ภัย ซึ่งแสดงความเห็นที่ต่อต้านรัฐบาลหรือราชวงศ์ นักกิจกรรมทั้งแปดคนเป็นบุคคลที่ทางการไทยร้องขอให้ส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนมาตลอด รวมทั้งการอ้างเหตุผลว่าพวกเขาจัดรายการที่ออกอากาศจากประเทศลาวมาสู่ไทย ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงแห่งชาติ
รัฐบาลประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งลาวและเวียดนาม ไม่ได้ใช้กระบวนการอันควรเพื่อจัดให้มีการสอบสวนต่อการลักพาตัวพลเมืองไทยอย่างเป็นระบบ โดยบุคคลเหล่านี้เป็นผู้ที่ทางการไทยร้องขอให้ส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ หลายคนยังคงหายตัวไป ยกเว้นสองคนซึ่งกลายเป็นศพที่ถูกพบในแม่น้ำโขง โดยมีการโบกปูนในท้องศพเหล่านี้เมื่อเดือนธันวาคม 2561 แม้มีข้อสงสัยว่าเจ้าหน้าที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ที่ผ่านมาไม่มีการระบุตัวผู้กระทำผิด และไม่มีการสอบสวนอย่างเป็นอิสระ รอบด้าน หรืออย่างมีประสิทิภาพต่อกรณีเหล่านี้เลย
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลยังกังวลว่า มีความเป็นไปได้ที่ทางการในประเทศเพื่อนบ้าน รวมทั้งกัมพูชา ร่วมมือกับทางการไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เพื่อบังคับส่งกลับบุคคลที่มีหมายจับไปยังประเทศที่เกี่ยวข้อง อันจะเป็นเหตุให้พวกเขาถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนเมื่อเดินทางกลับไปประเทศของตน รวมทั้งชาวกัมพูชาที่หลบหนีจากการดำเนินคดี อันเนื่องมาจากการใช้สิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออกอย่างสงบ ซึ่งต่อมาได้ถูกบังคับส่งตัวกลับจากไทยไปกัมพูชา
ควรเขียนจดหมายในภาษา: อังกฤษ/กัมพูชา หรือภาษาของท่านเอง
โปรดดำเนินการโดยเร็วสุด ขยายเวลาถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2563
กรุณาตรวจสอบกับเจ้าหน้าที่ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชันแนลในประเทศของท่าน หากท่านส่งจดหมายหลังวันที่ที่ระบุไว้ข้างต้น
ควรสะกดชื่อและใช้สรรพนามดังนี้: [วันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธิ์] (เขา)