ดื่มด่ำ 'พระอาทิตย์' สู่...เมนูน้ำซาบซ่า ชื่อว่า 'อิสรภาพ' เครื่องดื่มไม่ธรรมดา ที่ต้องการปลดแอกชีวิตมนุษย์ธรรมดา คุยกับ : อ้อมดาว ลอยสุวรรณ์ ผู้ก่อตั้ง Hom : Localcraft - ดื่มด่ำ คราฟต์โคล่า

6 ธันวาคม 2566

Amnesty International Thailand

“เราน่าจะมีเครื่องดื่มที่สามารถดื่มด่ำในวันพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตก ที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีคาเฟอีน“

”ถ้า…น้ำซ่าชื่อว่า ‘อิสรภาพ‘ เกิดจากนักศึกษาที่ชนแก้วเบียร์ เวลาคุณดื่ม คุณจะรู้สึกว่ามีพลังที่อยากปลดแอกอิสรภาพให้กับตัวเอง แต่มันต้องปลดล็อกจิตใจภายในให้ได้ก่อน“

“อยากให้ทุกคนดื่มด่ำกับชีวิตเวลาดูพระอาทิตย์ แม้ในช่วงเวลาทุกข์ยาก หนักหนาสาหัส ก็อยากให้ทุกคนดื่มด่ำกับชีวิตตัวเอง เอ็นจอย มีความสุขกับทุกขณะของตัวเอง”

 

 

หากวันหนึ่งเราต้องการปลดเปลื้องพันธนาการจากอะไรบางอย่าง ที่มีผลกระทบกับชีวิตและจิตใจ นอกจากการหาสิ่งที่ทำให้หัวใจชุ่มฉ่ำ ไม่ว่าจะเป็นการทำอาหาร อยู่บ้าน ดูหนัง ฟังเพลง หรือก้าวเท้าออกจากที่พักอาศัยไปเจอโลกกว้าง อีกทางเลือกอาจเป็นการเฟ้นหา ‘เครื่องดื่ม’ สักหนึ่งแก้วในร้านลับหรือบาร์ลับ มาเป็นเพื่อนข้างกายในวันที่ชีวิตต้องการความกระชุ่มกระชวยชั่วขณะหนึ่ง

เมื่อนึกถึงเครื่องดื่มสักเมนู หลายคนคงมีเมนูโปรดเหมือนคนโปรดในดวงใจ แต่รู้หรือไม่ว่าบนโลกใบนี้มีเครื่องดื่ม ที่บ่มเพาะมาจากการใช้สายตาลิ้มรสธรรมชาติระหว่างรอดูพระอาทิตย์ตกดิน ผู้คิดค้นสูตรต้องการสร้างสรรค์ให้เป็นเมนูที่ทุกคนมา ‘ดื่มด่ำ’ น้ำซาบซ่าอย่างสดชื่น เพื่อให้ได้มีคืนวันที่ได้ปลดแอกชีวิต ปลดล็อกความรู้สึก หลังจากการได้ดื่มด่ำน้ำชนิดนี้ได้ทุกแก้ว เพราะต้องการทำให้ทุกคนสัมผัสกับคำว่าอิสรภาพอีกรูปแบบ ที่คุณไม่มีวันรู้จนกว่าจะได้ดื่มมัน

 

 

และนี่คือเรื่องราวของ อ้อมดาว ลอยสุวรรณ์  : ผู้ก่อตั้ง Hom : LocalCraft - ดื่มด่ำ คราฟต์โคล่า ผู้หญิงที่ต้องการทำให้การดูพระอาทิตย์ตกดิน เป็นการดื่มด่ำรสชาติของเครื่องดื่มที่สร้างความสุขและความสนุกได้ แม้จะเป็นน้ำที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีคาเฟอีน ให้ได้สัมผัสและลิ้มรสเหมือนร้านทั่วๆไป แต่มันคือเครื่องดื่มที่ส่งเสียงเรื่องสิทธิมนุษยชนที่ดังก้องไปทั่วโลกได้

 

● ชุมชน - ความหลากหลาย - ประชาธิปไตย ที่มาเครื่องดื่มเมนู ‘อิสรภาพ’

“เราเชื่อเรื่องความหลากหลาย ความเป็นประชาธิปไตย แต่ในเบื้องหลังเรื่องราวเหล่านี้ มันมีเรื่องชุมชนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จึงเป็นที่มาของการทำน้ำเมนูดื่มด่ำ ‘อิสรภาพ’ ที่ส่งต่อรายได้ให้ชุมชนไปกับเราด้วย”

อ้อมดาว ลอยสุวรรณ์ เรียนจบปริญญาโท หลักสูตรวารสารศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หลังเรียนจบประมาณ 6 ปี เธอย้ายไปเป็นครูสอนโยคะที่เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี จากนั้นไม่นานต้องเจอกับพิษโควิด – 19 ทำให้การท่องเที่ยวหยุดชะงักและสัญญาในที่ทำงานสิ้นสุดลง แม้จะเป็นปัญหาที่ทับซ้อนในตอนนั้น แต่นั่นเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เธอกล้าก่อตั้งร้าน Hom : LocalCraft - ดื่มด่ำ คราฟต์โคล่า ขึ้นมา

เพราะสนใจเรื่อง ‘ชุมชน’ และเห็นศักยภาพและความเก่งกาจของ ‘เกษตรกร’ ในประเทศไทย ทำให้ร้าน Hom : LocalCraft - ดื่มด่ำ คราฟต์โคล่า ใช้วัตถุดิบส่วนหนึ่งที่ได้จากชุมชน มาสร้างสรรค์ใส่ลงไปในเครื่องดื่มเมนูชนิดต่างๆ เพื่อเป้าหมายเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่ในหัวใจของเธอ นั่นคือการที่ได้ทำธุรกิจที่เชื่อมประสานและส่งต่อรายได้ให้กับชุมชน

แม้จะรู้ดีว่าการทำธุรกิจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ไม่มีเลยสักครั้งที่เธอจะท้อแท้ในสิ่งที่กำลังทำอยู่ เพราะฝันที่ยิ่งใหญ่กว่าการได้กระจายรายได้สู่ชุมชน คือการทำให้เครื่องดื่มในร้านของเธอ ได้เป็นที่รู้จักของคนในประเทศไทย และอนาคตถ้าเป็นไปได้ เธอต้องการขยายฐานลูกค้าไปยังแดนไกลในต่างประเทศ เพื่อให้เครื่องดื่มร้านของเธอ เป็นตัวแทนของเมนูที่ให้ความหมายของคำว่าอิสรภาพอีกรูปแบบหนึ่ง นอกจากการใช้ศิลปะ อาหาร หรือการใช้สิทธิในการแสดงออกส่งเสียงเรื่องนี้ออกมา

“เราเห็นศักยภาพของชุมชนแต่ละที่ โดยเฉพาะเกษตรกรไทยที่มีความเก่งกาจ เราจึงอยากใช้จุดแข็งนี้ของพวกเขาร่วมในวงจรธุรกิจของเรา ยอมรับว่าไม่ได้ยึดเป็นหลักการอะไรมาก แต่ถ้าเลือกได้และทำได้เราจะเลือกวัตถุดิบที่มาจากผลิตภัณฑ์ในชุมชนเป็นส่วนผสมเสมอ”

 

● ที่มาของร้าน Hom : LocalCraft - ดื่มด่ำ คราฟต์โคล่า และทำไมต้องใช้คำว่า 'ฮม' และ 'โคล่า'

 

 

Hom อ่านว่า ฮม ในพจนานุกรมภาษาอีสานให้ความหมายไว้ว่า ‘อาบด้วยกลิ่นหรือควัน’ แต่สำหรับชื่อร้านของอ้อมดาวในฐานะคนที่ก่อตั้งร้าน เธอให้ความหมายว่า ‘ฮม’ คือ ‘ความร่มเย็น’ บวกกับที่เธอชอบไปเดินดูพระอาทิตย์ตกดินริมทะเลเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานีกับคนรู้ใจที่อยู่ข้างกาย ทำให้ในจิตใต้สำนึกที่อยู่ในหัวสมองของเธอตอนนั้น ผุดคำว่า ‘ดื่มด่ำ’ ขึ้นมา เป็นส่วนผสมส่วนหนึ่งที่อยู่ในชื่อร้านของเธอด้วย

ส่วนจุดยืนตอนร้านในช่วงแรก เธอให้คำนิยามในแบบฉบับของเธอว่าเป็น Weekend Business คือการเอาเวลาว่างในวันหยุดมาใช้หารายได้ ที่ร้าน Hom : LocalCraft - ดื่มด่ำ คราฟต์โคล่า เพราะคิดเพียงว่าจะทำร้านเป็นอาชีพเสริมที่เอาไว้นั่งดื่มช่วงเสาร์ - อาทิตย์หรือวันหยุดหยาว แต่เมื่อทำไปสักพัก จากความสนุกกลายเป็นเรื่องท้าทายและอยากต่อยอด เพราะได้ลองทำน้ำสูตรต่างๆ และมีลูกค้าประจำเพิ่มขึ้น เธอจึงตัดสินใจพลิกโฉมร้านขนาดเล็กในเกาะพะงัน ย้ายเข้าสู่เมืองหลวง กรุงเทพมหานคร เพราะต้องการส่งต่อความสุขในทุกขณะของช่วงชีวิต ให้กับผู้คนได้ลิ้มรสเครื่องดื่มที่ร้านของเธอมากขึ้น

“เวลาทุกข์ยาก หนักหนาสาหัส อยากให้ทุกคนดื่มด่ำน้ำซ่าเมนูอิสรภาพของทางร้าน ให้กับชีวิตตัวเอง เราอยากให้ทุกคนเอ็นจอยกับมัน มีความสุขกับทุกขณะของชีวิต ไม่ว่าจะดีหรือร้ายมากแค่ไหน”

‘โคล่า’ เป็นอีกหัวใจหลักของชื่อร้าน อ้อมดาว เปิดใจว่า ในตอนนั้นไม่รู้ว่าจะขายอะไร รู้เพียงจุดยืนเดียวในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง คือเครื่องดื่มต้องไม่มีแอลกอฮอล์ ไม่มีคาเฟอีน จึงได้มาเจอแบรนด์คราฟต์โคล่าแห่งแรกของโลกกว่า 100 ปี ชื่อว่า ‘อิโยชิ โคล่า’ ที่มีคุณ ‘โคล่า โคบายาชิ’ เป็นผู้สืบทอด ควบคู่กับการใช้ความรู้เรื่องอายุรเวทเป็นศาสตร์ การแพทย์ของชาวอารยันหรือชาวฮินดู ที่ใช้สมุนไพรฤทธิ์ร้อน ฤทธิ์เย็นมาเป็นส่วนผสมขับความสกปรกออกจากร่างกาย ลดอาการโรค เพิ่มภูมิคุ้มกัน และคลายความกังวล จึงทำให้เธอศึกษาและร่วมพัฒนาโคล่าให้มีสูตรเฉพาะตัวของร้าน

“เราเป็นคนกล้า นิสัยซ่าๆ จึงให้เครื่องดื่มในร้านมีเมนูโคล่าอยู่ในนั้นด้วยทั้งน้ำ ทั้งชื่อร้าน เพราะคิดว่าเหมาะกับบุคลิกของเรา แต่เอาจริงๆ ใจอยากต้มเบียร์ แต่ข้อกฎหมายมันยาก เลยทำเป็นโคล่าให้คล้ายเขาแทน ตอนแรกทำเล่นๆ กินอยู่บ้าน ไปๆมาๆ ทำเป็นอาชีพหลักไปแล้ว และมีความสุขมากด้วย”

 

● รู้จัก Hom : LocalCraft - ดื่มด่ำ คราฟต์โคล่า ร้านเครื่องดื่มที่ไม่ใช่สายสุขภาพ 100%

ด้วยความที่เป็นคนรักสนุกและสนุกสนาน อ้อมดาว ผู้ก่อตั้งร้านย้ำว่า ร้าน Hom : LocalCraft - ดื่มด่ำ คราฟต์โคล่า ไม่ต้องการให้คนเข้าใจแบรนด์ของเธอ ว่าเป็นเครื่องดื่มสำหรับคนรักสุขภาพ เพราะโฆษณาชวนเชื่อว่ากินแล้วเฮลตี้ (Healthy) กินแล้วสุขภาพดี แต่เธออยากให้เรียกแบรนด์ของเธอว่า Semi Healthy แบรนด์ที่ทุกคนเข้าใจ เข้าถึงประโยชน์ มีความสุขไปกับมัน โดยที่ไม่ต้องใช้ความคิด หรือออกความเห็นอะไรให้ซับซ้อนมากเกินไป

“แบรนด์ของเราไม่อยากให้ดูเป็นสายรักสุขภาพแบบ 100% เพราะเวลาไปโฟกัสว่าสิ่งที่กินหรือดื่มเข้าไปดีต่อสุขภาพ ทุกคนจะใช้ความคิดเวลากินเข้าไป เพราะคิดว่าเป็นยา แต่เราอยากให้ทุกคนสนุกไปกับการดื่มด่ำควบคู่ไปกับการช่วยชุมชน และมีสุขภาพดีไปพร้อมๆ กัน”

 

 

สำหรับเมนูเครื่องดื่มน้ำซ่า เมนู “อิสรภาพ” มีส่วนประกอบหลักจากเสาวรส ได้เเรงบันดาลใจจากประวัติศาสตร์การก่อตั้งองค์กรของแอมเนสตี้ที่นักศึกษาชาวโปรตุเกสสองคนถูกรัฐบาลเผด็จการจับติดคุกเพียงเพราะดื่มเบียร์เเละชนแก้วสดุดีเสรีภาพ ส่วนสีน้ำเสาวรสได้เลียนเเบบคล้ายสีเบียร์ ผสมกับขิงเพื่อเพิ่มรสชาติให้ร้อนเเรง มีพลัง แต่งรสเปรี้ยวด้วยมะนาว เเละใส่เครื่องเทศอบเชย กานพลู กระวาน ตกแต่งด้วยใบโหระพา ได้เเรง บันดาลใจจากเนื้อซัลโมแและแกงเหงาหงอดหรือบุยยาเบส (Bouillabaisse) ในสำรับอาหารไทย-โปรตุเกส

“ถ้าน้ำอิสรภาพเกิดจากการที่นักศึกษาชนแก้วเบียร์ เวลาคุณดื่มคุณจะรู้สึกมีพลังที่อยากปลดแอกอิสรภาพให้กับตัวเอง แต่ก่อนอื่นคุณต้องปลดล็อกจิตใจตัวเองก่อนจะทำให้”

 

 

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ชวนทุกคนพบกันเครื่องดื่มประเภทน้ำซ่า (Sparkling Water) รสอิสรภาพ น้ำที่จะทำให้ทุกคนได้ลิ้มลองรสชาติอิสรภาพในเเบบของแอมเนสตี้ ประเทศไทย พร้อมตั้งคำถามสำรวจความหมายของคำว่าอิสรภาพของผู้ดื่ม ผ่านการพูดคุยเเละเขียนข้อความบนแก้วหรือบนขวดน้ำได้ตามงานต่างๆ ของแอมเนสตี้ เพราะเรื่องสิทธิมนุษยชน เป็นเรื่องของทุกคน ที่เราสามารถช่วยกันขับเคลื่อนให้เกิดความยุติธรรมและการเคารพซึ่งกันและกันได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีการแบบใด