สิทธิมนุษยชนรอบโลกประจำสัปดาห์ 17-23 กุมภาพันธ์ 2567

28 กุมภาพันธ์ 2567

Amnesty International Thailand

 

รัสเซีย: ทางการต้องส่งมอบศพของอเล็กเซ นาวาลนี และยอมให้มีการสอบสวนสาเหตุการเสียชีวิตอย่างอิสระ

23 กุมภาพันธ์ 2567

 

สืบเนื่องจากรายงานที่มารดาของอเล็กเซ นาวาลนีได้รับแจ้งว่าจะไม่มีการส่งมอบศพของลูกชาย ยกเว้นสำหรับการฝังศพอย่างลับๆ

แอกเนส คาลามาร์ด เลขาธิการ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เผยว่า นี่เป็นความพยายามอย่างโจ่งแจ้งของทางการรัสเซียในการทำให้แม่ที่โศกเศร้าต้องทุกข์ทรมานมากขึ้นด้วยการปฏิเสธโอกาสให้เธอฝังศพลูกชายอย่างมีศักดิ์ศรีและเป็นไปตามความต้องการของเธอเองเกี่ยวกับงานศพในที่สาธารณะหรือส่วนตัว ซึ่งเห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังซ่อนสิ่งที่ทำลงไปโดยอ้างว่าต้องตรวจพิสูจน์ศพของเขาในทางนิติวิทยาศาสตร์

“ไม่ต้องสงสัยเลย การเสียชีวิตของอเล็กเซ นาวาลนีเกิดจากทางการรัสเซีย ในไม่ช้าก็เร็วเราจะรู้ความจริงทั้งหมด และผู้รับผิดชอบทุกคนจะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม แต่ในระหว่างที่พยายามซ่อนหลักฐานอาชญากรรมของตน ทางการรัสเซียกลับกำลังปฏิบัติอย่างโหดร้ายและเพิ่มความทุกข์ทรมานให้กับครอบครัวและผู้เป็นที่รักของนาวาลนี

“การปฏิเสธสิทธิของแม่ของนาวาลนีในการรับศพของลูกชายและจัดงานศพตามที่ครอบครัวเลือก แสดงให้เห็นความขี้ขลาดของรัฐบาลรัสเซียได้ชัดเจน ซึ่งไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าอุบายตื้นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้สนับสนุนของนาวาลนีมาแสดงความเคารพและใช้สิทธิในการแสดงความเห็นต่างอย่างสงบเพื่อต่อต้านรัฐบาลที่ได้แสดงการปฏิบัติต่อเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างไร้ความปราณี

“เราขอเรียกร้องให้ทางการรัสเซียส่งมอบศพของอเล็กเซ นาวาลนีให้กับครอบครัวทันที และยอมให้มีการสอบสวนสาเหตุการเสียชีวิตอย่างอิสระ โดยให้ครอบครัวของเขามีส่วนร่วมด้วย นอกจากนี้เรายังเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกควบคุมตัวเพียงเพราะแสดงความอาลัยหรือชุมนุมโดยสงบในทันที”

 

อ่านต่อ: https://bit.ly/3OYWYLS

 

-----

 

 

อิสราเอล: ต้องยุติการยึดครองปาเลสไตน์เพื่อหยุดเติมเชื้อไฟให้กับการแบ่งแยกเชื้อชาติและการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบ

19 กุมภาพันธ์ 2567

 

อิสราเอลจะต้องยุติการยึดครองอย่างโหดร้ายในฉนวนกาซาและเวสต์แบงก์ รวมถึงเยรูซาเลมตะวันออก ซึ่งยึดครองมาตั้งแต่ปี 2510 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลกล่าวในขณะที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เริ่มการพิจารณาคดีเพื่อตรวจสอบผลทางกฎหมายของการยึดครองที่ยืดเยื้อของอิสราเอล

การพิจารณาคดีจัดขึ้นที่กรุงเฮกระหว่างวันที่ 19-26 กุมภาพันธ์ หลังจากที่สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติได้มีมติในเดือนธันวาคม 2565 เพื่อขอความเห็นเชิงปรึกษาจาก ICJ เกี่ยวกับความชอบด้วยกฎหมายของนโยบายและแนวปฏิบัติของอิสราเอลในดินแดนปาเลสไตน์ที่ถูกยึดครอง (OPT) และผลที่ตามมาของการกระทำต่อรัฐอื่นๆ และสหประชาชาติของอิสราเอล ประเทศต่างๆ มากกว่า 50 ประเทศ สหภาพแอฟริกา สันนิบาตอาหรับ และองค์การความร่วมมืออิสลามมีกำหนดเข้าร่วมในการดำเนินคดีนี้

แอกเนส คาลามาร์ด เลขาธิการ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เผยว่า การยึดครองปาเลสไตน์ของอิสราเอลถือเป็นการยึดครองทางทหารที่ยาวนานที่สุดและเป็นหนึ่งในการยึดครองทางทหารที่รุนแรงที่สุดในโลก เป็นเวลาหลายทศวรรษแล้วที่เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อชาวปาเลสไตน์อย่างกว้างขวางและเป็นระบบ การยึดครองดังกล่าวยังเปิดทางและฝังรากระบบการแบ่งแยกเชื้อชาติที่ใช้กับชาวปาเลสไตน์ของอิสราเอล”


“ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การยึดครองทางทหารของอิสราเอลได้พัฒนาไปสู่การยึดครองอย่างถาวรโดยละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน

“ความขัดแย้งในปัจจุบันที่โหมกระหน่ำในฉนวนกาซาที่ถูกยึดครอง ซึ่ง ICJ ตัดสินว่ามีความเสี่ยงของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่ใกล้จะเกิดขึ้นจริง ได้ให้ความสำคัญกับหายนะที่ตามมาจากการปล่อยให้อาชญากรรมระหว่างประเทศของอิสราเอลใน OPT เกิดขึ้นโดยไม่ต้องรับโทษเป็นเวลานานเกินไป โลกต้องตระหนักว่าการยุติการยึดครองที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของอิสราเอลเป็นเรื่องที่จำเป็นในการหยุดการละเมิดสิทธิมนุษยชนซ้ำๆ ในอิสราเอลและ OPT”

 

อ่านต่อ: https://bit.ly/3TeE1Hj

 

-----

 

 

อัฟกานิสถาน: กลุ่มตาลีบันต้องยุติการประหารชีวิตทั้งหมดและยกเลิกโทษประหารชีวิต

23 กุมภาพันธ์ 2567

 


สืบเนื่องจากการประหารชีวิตต่อหน้าสาธารณชน 2 ครั้งโดยกลุ่มตาลีบันเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ลิเวีย ซัคคาร์ดี รักษาการรองผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียใต้ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เผยว่า เราต่อต้านการประหารชีวิตทั้งหมดเพราะเป็นการละเมิดสิทธิในการมีชีวิต กลุ่มตาลีบันได้ทำการประหารชีวิตต่อหน้าสาธารณชนหลายครั้ง ซึ่งเป็นการดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์อย่างร้ายแรง รวมถึงเป็นการละเมิดกฎหมายและมาตรฐานระหว่างประเทศ และไม่สามารถยอมรับได้

“แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลขอย้ำว่ารัฐบาลโดยพฤตินัยของกลุ่มตาลีบันต้องหยุดการประหารชีวิตทั้งหมดทันที และยกเลิกโทษประหารชีวิตและการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีอื่นๆ การประหารชีวิตต่อหน้าสาธารณชนยิ่งเพิ่มความโหดร้ายของโทษประหารชีวิตให้มากขึ้น และส่งผลลดทอนความเป็นมนุษย์ต่อเหยื่อและส่งผลกระทบที่ทารุณโหดร้ายต่อผู้ที่เป็นพยานในการประหารชีวิต ในขณะเดียวกัน การคุ้มครองสิทธิในการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรมภายใต้รัฐบาลโดยพฤตินัยของกลุ่มตาลีบันยังคงเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่ง

“ถึงเวลาแล้วที่ประชาคมระหว่างประเทศและสหประชาชาติจะสร้างแรงกดดันต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างโจ่งแจ้งโดยกลุ่มตาลีบัน และช่วยประกันว่าความคุ้มครองระหว่างประเทศได้รับการเคารพในอัฟกานิสถาน”

 

อ่านต่อ: https://bit.ly/3STEltL

 

----- 

 

สหภาพยุโรป/โลก: คณะกรรมาธิการยุโรปสอบสวน TikTok เพื่อช่วยปกป้องผู้ใช้ที่เป็นเด็ก

16 กุมภาพันธ์  2567

 

สืบเนื่องจากการตัดสินใจของคณะกรรมาธิการยุโรปในการสอบสวน TikTok เกี่ยวกับข้อกังวลว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียออนไลน์อาจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย Digital Services Act (DSA) ของกลุ่มโดยไม่ได้ดำเนินการเพื่อปกป้องผู้ใช้ที่เป็นเด็กอย่างเพียงพอ ดามินี สาติจา ผู้อำนวยการฝ่ายแผนงาน แอมเนสตี้ เทค กล่าวว่า:

“เรายินดีกับการตัดสินใจของคณะกรรมาธิการยุโรปในการสอบสวน TikTok เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ TikTok จะละเมิดกฎหมาย DSA โดยไม่ได้ปกป้องเด็กและเยาวชน ผลกระทบด้านสุขภาพจิตที่เกิดขึ้นกับเด็กและเยาวชนจากยักษ์ใหญ่โซเชียลมีเดียยังคงเป็นข้อกังวลที่มีมาอย่างยาวนาน

“ในปี 2566 ผลการวิจัยของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลแสดงให้เห็นว่า TikTok สามารถดึงบัญชีของเด็กๆ เข้าไปสู่อันตรายของเนื้อหาที่ทำให้การร้ายตัวเองและฆ่าตัวตายเป็นสิ่งสวยงามภายในเวลาไม่ถึง 1 ชั่วโมงหลังจากสมัครแพลตฟอร์ม เด็กและเยาวชนยังรู้สึกว่าการใช้ TikTok ส่งผลต่อเวลาในการทำการบ้านและเข้าสังคมกับเพื่อนๆ และชักจูงให้พวกเขาเลื่อนดูฟีดจนดึกแทนที่จะนอนให้เพียงพอ”

 

อ่านต่อ: https://bit.ly/3UXcsnf

 

----- 

 

โลก: การจัดตั้งคณะกรรมการกองทุนเพื่อผู้ที่ได้รับอันตรายจากภาวะโลกร้อนที่ล่าช้าบ่อนทำลายสิทธิมนุษยชน

21 กุมภาพันธ์  2567

 

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเรียกร้องให้ดำเนินงานและจัดหาทุนให้กับกองทุนชดเชยความสูญเสียและเสียหายระหว่างประเทศอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อเยียวยาความเสียหายของชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศรุนแรงที่สุด หลังจากประเทศที่มีรายได้สูงซึ่งมีส่วนสำคัญทำให้เกิดวิกฤตสภาพภูมิอากาศไม่ได้เสนอชื่อตัวแทนของตนเข้าสู่คณะกรรมการภายในเวลาที่กำหนด

หลังจากปีที่ร้อนที่สุดเท่าที่เคยบันทึกไว้ทั่วโลก ความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการสูงขึ้นอย่างฉับพลัน แต่กลับล้มเหลวในการดำเนินการอย่างรวดเร็วตามข้อตกลงที่การประชุมสุดยอดสภาพภูมิอากาศ COP ในเดือนพฤศจิกายน เพื่อดำเนินการต่อไปและสร้างกองทุนชดเชยความสูญเสียและเสียหายที่ทำงานได้ซึ่งเริ่มแรกจะจัดการโดยธนาคารโลก เป็นการบ่อนทำลายสิทธิมนุษยชนของชุมชนซึ่งต้องการทรัพยากรอย่างเร่งด่วนเพื่อจัดการกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

“การดำเนินงานเต็มรูปแบบของกองทุนชดเชยความสูญเสียและเสียหายที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินอย่างเพียงพออาจเป็นเรื่องความเป็นความตายของผู้คนหลายล้านคนทั่วโลกที่เผชิญกับผลกระทบที่ร้ายแรงที่สุดจากภาวะโลกร้อน เช่น ความแห้งแล้ง น้ำท่วม ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ทะเลเป็นกรด การกลายสภาพเป็นทะเลทราย และการสูญเสียหนทางการดำรงชีวิต ความล่าช้าในการเบิกจ่ายเงินทุนที่จำเป็นต้องใช้จะเป็นภัยคุกคามต่อสิทธิของผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากสภาพอากาศรุนแรงและความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นจากสภาพภูมิอากาศที่ร้อนขึ้น” แอน แฮร์ริสัน ที่ปรึกษาด้านความยุติธรรมทางสภาพภูมิอากาศ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว

“เมื่อปีที่แล้วประเทศที่ ‘พัฒนาแล้ว’ โต้กลับข้อกังวลของนักเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของธนาคารโลก โดยโต้แย้งว่าการจัดกองทุนของธนาคารจะช่วยประกันการปฏิบัติงานที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ประเทศเหล่านี้ได้รับสิ่งที่ต้องการ แต่ส่งผลกระทบกับความคืบหน้า ชุมชนที่เป็นแนวหน้าของวิกฤตสภาพภูมิอากาศไม่ควรต้องรอเพราะชีวิตและระบบนิเวศกำลังสูญเสียไป ในขณะที่ประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ทะเลาะกันเรื่องที่นั่งในคณะกรรมการ”

“ข้อเท็จจริงที่ขณะนี้มีผู้หญิงเพียง 2 คนเท่านั้นที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นคณะกรรมการที่มี 26 คน ทั้งที่มีข้อกำหนดให้สร้างดุลยภาพทางเพศ นี่เป็นเรื่องที่น่าตกใจและควรได้รับการแก้ไขเช่นกัน ผู้หญิงเป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดและรุนแรงที่สุดจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศ และควรมีตัวแทนที่เท่าเทียมกันมากขึ้นในการกำกับดูแลกองทุน”

คณะกรรมการของกองทุนมีกำหนดจัดการประชุมครั้งแรกในเดือนมกราคม แต่ความล่าช้าอย่างต่อเนื่องในขณะนี้ส่งผลกับกำหนดเวลาทั้งหมดในปี 2567 ของกองทุน รวมถึงกำหนดเวลาในเดือนมิถุนายนสำหรับธนาคารโลกในการยืนยันความเต็มใจที่จะจัดการกองทุนภายใต้เงื่อนไขที่กำหนดไว้ในการประชุม COP ครั้งล่าสุด

 

อ่านต่อ: https://bit.ly/3V28qu5