Thai Political Tarot: วาดความหวัง ในวันที่ฤดูร้อนยังมาไม่ถึง
วันที่คุยกับ Thai Political Tarot คือวันที่เรารู้ว่า ประเทศไทยจะยังไม่มีนิรโทษกรรมประชาชน
วันที่คุยกับ Thai Political Tarot คือวันที่เรารู้ว่า ประเทศไทยจะยังไม่มีนิรโทษกรรมประชาชน
แอมเนสตี้ ประเทศไทย ชวนทุกคนย้อนกลับไปดูวงเสวนา “Unchained Voices: เมื่อศิลปะและเสรีภาพมาบรรจบกัน” ที่เราจัดขึ้นเพื่อตอกย้ำถึงความสำคัญของ ‘จดหมาย’ และ ‘โปสการ์ด’ ในฐานะเครื่องมือที่หล่อเลี้ยงความหวัง และเป็นการฟังเสียงสะท้อนจากผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงและผู้ที่ใช้ศิลปะเป็นเครื่องมือในการต่อสู้
ความก้าวหน้าเกิดขึ้นเมื่อเรามารวมตัวกันเพื่อเรียกร้องการเปลี่ยนแปลง เราควรจะสามารถทำสิ่งนี้ได้ โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกทำร้าย ถูกทำให้บาดเจ็บ หรือแม้แต่ถูกฆ่า จากการใช้อุปกรณ์ควบคุมฝูงชนในทางที่ผิด ถึงเวลาที่ต้องช่วยกันเรียกร้องให้รัฐบาล สนับสนุนสนธิสัญญากำกับดูแลการค้าอุปกรณ์ควบคุมฝูงชน้ เพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์เหล่านี้ตกอยู่ในกำมือของกองกำลังตำรวจที่ประพฤติมิชอบ
3 กรกฎาคม 2568 – เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนางสาวชนก จันทาทอง รองประธานวิปรัฐบาล คนที่ 3 เนื่องในโอกาสเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1ในกิจกรรม “ไปบอกสภาว่าเราเอานิรโทษกรรมประชาชน” โดยมีเป้าหมายเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลผลักดันให้ประเทศไทยผลักดันนิรโทษกรรมประชาชนอย่างเร่งด่วน พร้อมย้ำ 3 ข้อเรียกร้องเพื่อคืนความยุติธรรมให้กับประชาชนที่ใช้สิทธิในเสรีภาพการแสดงออกและการชุมนุมประท้วงโดยสงบ นับตั้งแต่หลังรัฐประหารปี 2549 เป็นต้นมา
ตลอดไตรมาสแรกของปี 2568 (มกราคม–มีนาคม) การชุมนุมของประชาชนในประเทศไทยยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง แม้จำนวนจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การเปลี่ยนผ่านทางการเมืองที่หลายคนคาดหวังว่าจะนำไปสู่การเปิดพื้นที่ประชาธิปไตย กลายเป็นว่ายังถูกไม่สะท้อนออกมาอย่างชัดเจนในเรื่องสิทธิในการรวมตัวและการแสดงออก มีการชุมนุมทั้งหมดเกิดขึ้น 19 ครั้งทั่วประเทศ โดยส่วนใหญ่เป็นการชุมนุมขนาดเล็ก ตัวเลขนี้มีการชุมนุมที่ปักหลักค้างคืน 6 การชุมนุม หากนับการชุมนุมปักหลักค้างคืน 1 วันเป็น 1 ครั้งจะมีการชุมนุมที่เกิดขึ้นรวมทั้งหมด 83 ครั้งทั่วประเทศ ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงเมื่อเทียบในช่วงเวลา 3 เดือนหรือ 90 วันโดยประมาณ
สถานการณ์ชุมนุมประท้วงต่อต้านนโยบายจัดการและควบคุมผู้อพยพในสหรัฐฯ เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลสั่งลาดตระเวนเพื่อตรวจสอบและจับกุมผู้อพยพผิดกฎหมายในพื้นที่อย่างเข้มงวด ทำให้คนในพื้นที่ไม่พอใจและออกมาชุมนุมคัดค้านการดำเนินคดีต่อผู้อพยพดังกล่าว และรัฐบาลทรัมป์ส่งกองกำลังป้องกันชาติ (national guards) ออกมาปราบปรามการชุมนุมประท้วงดังกล่าว
สืบเนื่องจากข่าวที่ว่า ทางการรัสเซียประกาศว่า แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเป็น “องค์กรที่ไม่พึงปรารถนา” เท่ากับเป็นการเอาผิดทางอาญาต่อการดำเนินกิจการ และการติดต่อกับหน่วยงานของเราในรัสเซีย แอกเนส คาลามาร์ด เลขาธิการสากลของแอมเนสตี้ กล่าวว่า
เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2532 กองกำลังความมั่นคงของจีนได้ใช้กำลัง “สลายการชุมนุมโดยสงบ” ที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน กรุงปักกิ่ง ผู้ชุมนุมเป็นนักศึกษาและคนงานที่เรียกร้องการปฏิรูปทางการเมืองและเศรษฐกิจ รวมถึงการยุติการทุจริต การเซ็นเซอร์ และการจำกัดสิทธิมนุษยชนเบื้องต้น
ในปี 2532 กองกำลังทหารเข้าปราบผู้ประท้วงหลายพันคน ที่ยืนหยัดเรียกร้องการปฏิรูปเศรษฐกิจ สังคมโดยสงบ รอบจัตุรัสเทียนอันเหมิน ปัจจุบัน รัฐบาลจีนยิ่งปราบปรามผู้คนที่ออกมาใช้สิทธิในเสรีภาพการแสดงออก โดยเฉพาะการพูดถึงเหตุการณ์เทียนอันเหมิน กระบวนการที่เป็นระบบเหล่านี้ทำให้ความทรงจำถึงเหตุการณ์นั้นจึงใกล้เลือนหายไปทุกวัน
PROTEST FOR TOMORROW : คู่มือการจัดการการชุมนุมโดยสงบเพื่อความหวังของพรุ่งนี้