คุยกับ แม่เปี่ยม” เรื่องชาวบ้านดงมะไฟและการต่อสู้เพื่อที่ดินทำกิน

4 ธันวาคม 2562

Amnesty International Thailand

เรื่องและภาพ : artnonz

เป็นเวลากว่า 25 ปี ที่ตอนนี้บริเวณใกล้กับที่อยู่ของ “แม่เปี่ยม สุวรรณสนธ์” หนึ่งในชาวบ้านที่อาศัยในพื้นที่หมู่บ้านโชคชัย ต.ดงมะไฟ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภู กำลังประสบปัญหากับการทำเหมืองหินปูน ซึ่งส่งผลกระทบที่ไม่ดีให้กับเธอและคนอื่นๆ ที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียงกัน

 

จากการพูดคุยกับแม่เปี่ยม เธอเล่าว่า ทางบริษัทเอกชนได้มาบอกกับพวกเขาว่าจะมาขอทำสัมปทานเหมืองหินปูนที่นี่ ซึ่งเป็นเพียงแค่การบอกกล่าว ยังไม่ได้มีการทำประชาพิจารณ์กับชาวบ้านในพื้นที่ จึงทำให้ชาวบ้านลุกขึ้นยืน เพื่อคัดค้านการทำเหมืองหินปูนนี้ โดยมีการวบรวมหลักฐานในการยื่นคัดค้านและมีทนายกับกลุ่มนักปกป้องสิทธิเข้ามาช่วยชาวบ้านด้วย จึงทำให้การขอทำสัมปทานถูกเพิกถอนไป ต่อมา ก็ได้มีการขอทำสัมปทานทำเหมืองหินปูนอีกครั้ง ทางชาวบ้านก็ลุกขึ้นมาคัดค้านอีกครั้งอีกเช่นกัน แต่สำหรับครั้งนี้ ทางตำรวจก็ได้มีการใช้ความรุนแรงกับชาวบ้านที่ออกมาคัดค้านการทำเหมืองนี้ ทำให้ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บกันหลายคน

 

สำหรับความสำคัญของบริเวณโดยรอบ เธอบอกว่า ที่แรกคือ “ภูผายา” เป็นภูเขาหินปูนที่มีการค้นพบวัตถุโบราณและภาพเขียนทางประวัติศาสตร์ ซึ่งทางกรมศิลปากรได้ทำการขึ้นทะเบียนที่แห่งนี้ให้เป็นแหล่งสำคัญทางโบราณคดีแล้ว

 

ที่ต่อมาคือ “ภูผาน้ำลอด” เป็นภูเขาหินปูนที่มีถ้ำอยู่หลายที่ด้วยกันเช่น “ถ้ำศรีธน” ที่มีคนเล่าว่ามีพระพุทธรูปทองคำประดิษฐานอยู่ภายใน แต่ตอนนี้เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปมากกว่า 5000 องค์ และมีหินสะท้องแสง ที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “หินประกายเพชร” ส่วนอีกที่หนึ่งที่น่าสนใจคือ “ถ้ำบาดาล” ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของคนในประเทศและชาวต่างชาติ มาเพื่อชมความงดงามของหินประกายเพชรและความยิ่งใหญ่ของหินปูนที่อยู่ภายในถ้ำ

 

และที่ที่สำคัญที่สุดคือ “ผาฮวก” ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวน เป็นแหล่งต้นน้ำที่สำคัญของคนในหมู่บ้าน ในการนำมาใช้อยู่อาศัย นำมาทำเกษตรกรรม แต่ตอนนี้ได้ปรับเปลี่ยนกลายมาเป็นที่ทำเหมืองหินปูนเรียบร้อยแล้ว

 

สำหรับปัญหาที่เธอและชาวบ้านคนอื่นๆ กำลังพบเจออยู่ คือที่เหมืองหินปูนนี้ กำลังทำการเบียดเบียนที่อยู่และที่ทำกินของพวกเขา มีชาวบ้านหลายคนอาศัยอยู่ใกล้บริเวณนั้น ส่งผลทำให้พวกเขาขาดแหล่งน้ำ ไม่สามารถทำการเกษตรกรรมได้ และทำให้ชาวบ้านต่างกลัวว่า วันใดวันหนึ่ง พวกเขาเอง อาจจะได้รับอันตรายจากการทำเหมืองหินนี้ 

 

เธอบอกว่า สิ่งพวกเธอและชาวบ้านต้องการคือความสุขทางใจ ความสุขที่ได้มีแหล่งทำกิน ความสุขที่ได้เห็นนักท่องเที่ยวในประเทศและต่างชาติมาเยี่ยมชมแหล่งธรรมชาติที่นี่ จึงอยากฝากบอกทางรัฐบาลว่า ถ้าเป็นไปได้ เธออยากให้ยกเลิกการทำเหมืองหินปูนและให้ออกจากพื้นที่นี้ไป เพราะว่าเธอและชาวบ้านไม่ได้ต้องการเหมืองหินปูนนี้ หรือถ้าต้องการที่จะทำเหมืองที่นี่จริงๆ ก็อยากให้มาเริ่มต้นกันใหม่มานั่งพูดคุยกัน ทำประชาพิจารณ์กันก่อนให้เป็นไปตามลำดับขั้นตอน

 

ปัจจุบัน ประทานบัตรของการทำเหมืองหินปูนนี้กำลังจะหมดอายุในปีหน้า ซึ่งทางบริษัทกำลังทำเรื่องขอต่ออายุประทานบัตรใหม่อีก 10 ปี ถ้าทำการอนุมัติสำเร็จ อาจจะส่งผลกระทบหรือเกิดความเสียหายต่อบริเวณแหล่งท่องเที่ยวโดยรอบและความเป็นอยู่ชาวบ้านได้

 

ทุกคนมีความคิดเห็นกันอย่างไรกับเรื่องนี้ สามารถแสดงความคิดเห็นกันได้ครับ