สหรัฐอเมริกา: การส่ง “กองกำลังป้องกันชาติ” เพื่อรับมือการชุมนุมประท้วงที่ลอสแอนเจลิสเป็นเรื่องอันตราย

สถานการณ์ชุมนุมประท้วงต่อต้านนโยบายจัดการและควบคุมผู้อพยพในสหรัฐฯ เกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลสั่งลาดตระเวนเพื่อตรวจสอบและจับกุมผู้อพยพผิดกฎหมายในพื้นที่อย่างเข้มงวด ทำให้คนในพื้นที่ไม่พอใจและออกมาชุมนุมคัดค้านการดำเนินคดีต่อผู้อพยพดังกล่าว และรัฐบาลทรัมป์ส่งกองกำลังป้องกันชาติ (national guards) ออกมาปราบปรามการชุมนุมประท้วงดังกล่าว

พอล โอไบรเอน ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล สหรัฐอเมริกาแถลงหลังจากที่รัฐบาลทรัมป์ส่งกองกำลังป้องกันชาติ (National Guards) หรือกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิของสหรัฐฯ ไปยังลอสแอนเจลิสว่า การที่ประธานาธิบดีทรัมป์ส่งกองกำลังป้องกันชาติไปยังลอสแอนเจลิสเพื่อตอบโต้การชุมนุมประท้วงที่ต่อต้านการจู่โจมของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐอเมริกา (U.S. Immigration and Customs Enforcement -ICE) ถือเป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างยิ่ง สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลทรัมป์พร้อมที่จะทำทุกวิถีทาง – รวมถึงการใช้กำลังทหาร – เพื่อกำจัดและลงโทษผู้ที่ออกมาปกป้องสิทธิมนุษยชน

“นี่ไม่ใช่การปกป้องชุมชน แต่เป็นการบดขยี้ผู้คัดค้านและสร้างความหวาดกลัว ทหารติดอาวุธไม่ควรอยู่ในพื้นที่ที่อยู่อาศัยของเรา การใช้กำลังทหารในการบังคับใช้กฎหมายคนเข้าเมืองและเพื่อตอบโต้ประชาชนที่ใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกนั้น จะต้องไม่มีที่ยืนในประเทศที่อ้างว่าให้ความสำคัญกับความยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน

“สมาชิกชุมชนในลอสแอนเจลิสได้ออกมาบนท้องถนนเพื่อยืนหยัดเคียงข้างเพื่อนและเพื่อนบ้านผู้อพยพของพวกเขา ในขณะที่เจ้าหน้าที่ ICE ติดอาวุธและสวมหน้ากากได้บุกเข้าจู่โจมชุมชนของพวกเขา จับกุมประธานสหภาพแรงงานบริการระหว่างประเทศ (SEIU) ประจำรัฐแคลิฟอร์เนีย โดยไม่ได้แสดงหมายจับแต่อย่างใด

“การนำกองกำลังป้องกันชาติเข้ามาโดยไม่ได้รับการร้องขอจากหน่วยงานท้องถิ่น ยิ่งทำให้การละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางอยู่แล้วภายใต้รัฐบาลทรัมป์เลวร้ายลงไปอีก ซึ่งรวมถึงการจับกุมที่มิชอบด้วยกฎหมาย การควบคุมตัวและการเนรเทศจำนวนมาก การขับไล่ไปยังเรือนจำที่อันตรายในประเทศอื่น การปราบปรามสิทธิในเสรีภาพการแสดงออก การพรากครอบครัวออกจากกัน และการปฏิเสธกระบวนการทางกฎหมายที่ถูกต้อง

“เราทราบดีถึงอันตรายของการใช้เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของรัฐบาลกลางในการควบคุมการชุมนุมประท้วง เหตุการณ์การใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมที่สวนลาฟาแยตเต (Lafayette Park) ในเดือนมิถุนายน 2563 เป็นคำเตือนที่น่าสะพรึงกลัวถึงผลที่ตามมาเมื่อทหารและเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกลางที่ไม่ได้รับการฝึกฝนในด้านการควบคุมการชุมนุมประท้วงแต่กลับถูกส่งไปจัดการกับพลเรือน เจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคงไม่ได้รับการฝึกฝนด้านการควบคุมฝูงชนหรือการลดความตึงเครียด และไม่ควรถูกนำมาใช้เพื่อวัตถุประสงค์เหล่านี้

“การจู่โจมของ ICE เองนั้นมีรากฐานมาจากการเลือกปฏิบัติ การแบ่งแยกทางเชื้อชาติ และการละเมิดสิทธิอย่างเป็นระบบ ประชาชนมีสิทธิที่จะชุมนุมประท้วงต่อต้านความไม่เป็นธรรมเหล่านี้ การปราบปรามสิทธิเหล่านี้ด้วยกำลังทหารเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน

“รัฐบาลสหรัฐฯ ต้องทำให้ดีกว่านี้ เราขอเรียกร้องอย่างเร่งด่วนให้ทางการลดความตึงเครียด ยุติการส่งกองกำลังป้องกันชาติ และเคารพสิทธิในการชุมนุมประท้วงโดยสงบ เรายังเรียกร้องให้รัฐบาลทรัมป์ยุติการเนรเทศผู้คนจำนวนมากที่กำลังสร้างความแตกแยกในชุมชน ทางออกที่แท้จริงคือการสร้างระบบตรวจคนเข้าเมืองที่มีความเป็นธรรม มีมนุษยธรรม และเคารพสิทธิ ซึ่งเป็นระบบที่ส่งเสริมศักดิ์ศรีของทุกคน รับรองความปลอดภัย และเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ชุมชน” พอลกล่าวทิ้งท้าย