
สืบเนื่องจากข่าวที่ว่า ทางการรัสเซียประกาศว่า แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเป็น “องค์กรที่ไม่พึงปรารถนา” เท่ากับเป็นการเอาผิดทางอาญาต่อการดำเนินกิจการ และการติดต่อกับหน่วยงานของเราในรัสเซีย แอกเนส คาลามาร์ด เลขาธิการสากลของแอมเนสตี้ กล่าวว่า
“การตัดสินใจเช่นนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามโดยรวมของรัฐบาลรัสเซียที่จะปิดปากผู้เห็นต่าง และกีดกันภาคประชาสังคม ในประเทศที่นักกิจกรรมและผู้เห็นต่างจำนวนมากถูกคุมขัง ถูกสังหาร หรือต้องลี้ภัย ทั้งยังมีการใส่ร้ายป้ายสี การปิดกั้น และการบังคับให้สื่อมวลชนอิสระต้องเซ็นเซอร์ตัวเอง และในประเทศที่มีการออกกฎหมายทำให้หน่วยงานภาคประชาสังคมเป็นหน่วยงานผิดกฎหมาย หรือต้องประกาศชำระบัญชีเพื่อปิดองค์กร แสดงว่าสิ่งที่เราทำเป็นสิ่งที่ถูกต้อง จึงเป็นเหตุให้ทางการรัสเซียต้องสั่งห้ามไม่ให้เราทำงาน
“เป็นความเข้าใจผิดอย่างลึกซึ้งของทางการที่ไปเชื่อว่า การตีตราว่าหน่วยงานของเรา “ไม่พึงปรารถนา” จะทำให้เรายุติการทำงานเพื่อเก็บข้อมูลและเปิดโปงการละเมิดสิทธิมนุษยชน ในทางตรงกันข้าม เราจะไม่ยอมอ่อนข้อให้กับการคุกคามเช่นนี้ และเราจะยังคงทำงานต่อไปอย่างไม่หวั่นไหว เพื่อประกันให้ประชาชนในรัสเซียสามารถเข้าถึงสิทธิมนุษยชนได้โดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ เราจะยังคงเก็บข้อมูลและประชาสัมพันธ์ไปทั่วโลก เพื่อให้ทราบถึงอาชญากรรมสงครามที่รัสเซียกำลังก่อขึ้นในยูเครน เราจะยิ่งเพิ่มความพยายามที่จะเปิดโปงการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเลวร้ายของรัสเซีย ทั้งในประเทศตนเองและต่างประเทศ
“เราจะไม่ยุติการต่อสู้เพื่อให้ปล่อยตัวนักโทษด้านความคิด ซึ่งถูกควบคุมตัวเพราะยืนหยัดต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชน หรือการต่อสู้เพื่อให้ยกเลิกกฎหมายเผด็จการ ซึ่งขัดขวางไม่ให้ประชาชนในรัสเซียสามารถพูดเพื่อต่อต้านความอยุติธรรมได้ เราจะยังคงทำงานต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อประกันว่าบุคคลทุกคนที่รับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ในรัสเซีย ยูเครน หรือที่อื่นใด จะต้องถูกนำตัวมาลงโทษ กล่าวโดยสรุป การโจมตีแบบอำนาจนิยมใด ๆ ก็จะไม่สามารถหยุดยั้งการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมของเราได้ แอมเนสตี้จะไม่ยอมท้อถอยหรือไม่ยอมยุติการต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนในรัสเซียและที่อื่น ๆ”
การโจมตีแบบอำนาจนิยมใด ๆ ก็จะไม่สามารถหยุดยั้งการต่อสู้เพื่อความยุติธรรมของเราได้
แอมเนสตี้จะไม่ยอมท้อถอยหรือไม่ยอมยุติการต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนในรัสเซียและที่อื่น ๆ
ข้อมูลพื้นฐาน
วันที่ 19 พฤษภาคม 2568 สำนักงานอัยการสูงสุดของรัสเซียประกาศว่า แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเป็น “องค์กรที่ไม่พึงปรารถนา” ตามกฎหมายรัสเซีย พ.ศ. 2558 ที่มีเนื้อหาเผด็จการ ซึ่งอนุญาตให้ทางการใช้ดุลพินิจในการสั่งห้ามไม่ให้หน่วยงานต่างชาติดำเนินงาน และสามารถเอาผิดทางอาญากับการดำเนินงานของพวกเขาในรัสเซียได้ ในคำประกาศดังกล่าว ได้มีการกล่าวหาแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลว่า ส่งเสริม “โครงการที่สร้างความหวาดกลัวต่อรัสเซีย” และระบุว่าเป็นผลมาจากการทำงานของหน่วยงานเราเกี่ยวกับเสรีภาพในการแสดงออกและการสมาคมในรัสเซีย และการเก็บข้อมูล และการเปิดโปงอาชญากรรมตามกฎหมายระหว่างประเทศที่เกิดขึ้นจากกองกำลังของรัสเซียในยูเครน การตัดสินใจเช่นนี้ เป็นการใช้อำนาจตามกฎหมายของรัสเซีย ซึ่งมีเนื้อหาละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และเนื้อหาในคำสั่งก็ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง โดยมีการกล่าวหาแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเกี่ยวกับนโยบายขององค์กร ทั้งที่ตามนัยของกฎหมายและนโยบาย สำนักงานอัยการไม่มีอำนาจในการกล่าวหาเช่นนั้น
การถูกจัดประเภทองค์กรครั้งนี้เกิดขึ้นสามปี หลังจากทางการรัสเซียปิดกั้นการเข้าถึงเว็บไซต์ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลในรัสเซีย และเพิกถอนการจดทะเบียนองค์กร ซึ่งเท่ากับเป็นการปิดสำนักงานของหน่วยงานเราที่อยู่ในกรุงมอสโคว การจัดประเภทองค์กรครั้งนี้ยังทำให้เกิดความเสี่ยงที่หน่วยงานภาคีและผู้สนับสนุน นักข่าว และบุคคลอื่น ๆ ซึ่งทำงานร่วมกับองค์กรของเราในรัสเซีย อาจตกเป็นเป้าหมายการดำเนินคดี และจะถูกทางการมองว่าให้ความสนับสนุน หรือส่งเสริมหน่วยงานของเรา
ตามกฎหมายรัสเซีย การเข้าร่วมกับกิจกรรมของ “องค์กรที่ไม่พึงปรารถนา” เป็นความผิดที่มีโทษตามกฎหมาย สำหรับ “ความผิด” ที่เกิดขึ้นครั้งแรก อาจเป็นเหตุให้ถูกปรับเป็นเงิน 15,000 รูเบิล (ประมาณ 6,161 บาท) หากกระทำผิดซ้ำ หรือหากยังคงให้ทุนสนับสนุน หรือบริหารงานหน่วยงานเช่นนั้น อาจทำให้เกิดความผิดอาญา และอาจนำไปสู่โทษจำคุกไม่เกินหกปี ที่ผ่านมามีการใช้อำนาจตามกฎหมายนี้เพื่อเอาผิดกับการกระจายและการจัดสรรสิ่งของใด ๆ ขององค์กรที่ถูกจำแนกประเภทดังกล่าว รวมทั้งการเคลื่อนย้ายสิ่งพิมพ์และการใส่ไฮเปอร์ลิงก์ที่โยงไปถึงองค์กรนั้น แม้ก่อนที่องค์กรนั้นจะถูกจัดประเภทว่าเป็นองค์กร “ไม่พึงปรารถนา” ก็ตาม
การจัดประเภทองค์กรครั้งนี้ ส่งผลให้แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลอยู่ในกลุ่มของเอ็นจีโอและสำนักข่าวอิสระอีกหลายสิบองค์กร ซึ่งตกเป็นเป้าหมายในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเป็นผลมาจากการรณรงค์อย่างกว้างขวางเพื่อปราบปรามผู้เห็นต่าง และทำลายภาคประชาสังคมในรัสเซีย และขัดขวางไม่ให้หน่วยงานตรวจสอบและพันธมิตรระดับสากล สามารถให้ความสนับสนุนหรือแสดงความเป็นเอกภาพกับหน่วยงานเหล่านั้นได้ การดำเนินงานเช่นนี้ถือเป็นแบบแผนหลักที่ทางการรัสเซียนำมาใช้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติแบบอำนาจนิยม เพื่อปิดปากผู้แสดงความเห็น ทำลายการตรวจสอบ และกระชับอำนาจของตนเอง
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ:
Press Service
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล
อีเมล: [email protected]
โทรศัพท์: +44 (0) 20 7413 5566