“เดิน...เทใจให้เทพา หยุดโรงไฟฟ้าถ่านหิน เดินหา...นายก หยุดทำลายชุมชน”
21 May 2019
Amnesty International Thailand
ธงสีเขียวที่คุณเห็นอยู่นั้นเคยสะบัดไหวกลางกระแสลมครั้งสุดท้ายหน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลาเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 ก่อนที่เพื่อนของพวกเรา 16 คนจะถูกจับกุมตัวขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าสลายการชุมนุมเรียกร้องให้ยุติการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินในอำเภอเทพา จังหวัดสงขลา
“เดิน...เทใจให้เทพา หยุดโรงไฟฟ้าถ่านหิน เดินหา...นายก หยุดทำลายชุมชน”
ในวันที่ 24 พฤศจิกายน เราในนามกลุ่มชาวบ้านเครือข่ายคนสงขลา-ปัตตานีออกเดินเท้าจากอำเภอเทพามุ่งหน้าไปยังมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตสงขลาเพื่อยื่นหนังสือคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาต่อหัวหน้า คสช. ซึ่งจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ในวันที่ 28 พฤศจิกายน ที่นั่น
ทุกคนสวมเสื้อสีเขียวสกรีนข้อความ “No Coal” (ไม่เอาถ่านหิน) พร้อมธงสีเขียว เดินเท้าไปจนถึงมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลาในบ่ายของวันที่ 27 พฤศจิกายน มีตำรวจควบคุมฝูงชนยืนเป็นกำแพงกีดขวางไม่ให้พวกเราเดินต่อไปได้ มีการเจรจาต่อรองระหว่างแกนนำชุมนุมของพวกเรากับเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูง แต่ไม่เป็นผล เพียงสามชั่วโมงถัดมา เวลา 16.00 น. ตำรวจควบคุมฝูงชนเข้าจับกุมเพื่อนของพวกเราไป 16 คน หนึ่งในนั้นเป็นเยาวชนชายวัย 16 ปี
เพื่อนของเราทั้ง 16 คนถูกควบคุมตัวไปที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลาและถูกคุมขัง 1 คืน เจ้าหน้าที่แจ้งว่าเราไม่แจ้งการชุมนุมก่อนตามกฎหมายกำหนด แม้พวกเรายืนยันว่าได้แจ้งแล้วก็ตาม วันรุ่งขึ้นทั้ง 16 คนถูกส่งตัวไปฝากขังที่ศาล และได้รับการประกันตัวในเวลาถัดมา
วันที่ 12 มกราคม 2561 อัยการจังหวัดสงขลามีความเห็นสั่งฟ้องเพื่อนของเรา ในข้อหาขัดขวางการจับกุม ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่รัฐ กีดขวางการจราจร ฝ่าฝืนพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ และพกพาอาวุธในที่สาธารณะ ซึ่งหมายถึงคันธงที่เราใช้ถือในการเดินขบวน
วันที่ 27 ธันวาคม 2561 ศาลพิพากษาลงโทษปรับเพื่อนของเรา 2 คน คนละ 5,000 บาท เหตุไม่แจ้งการชุมนุมตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ* ส่วนข้อหาอื่นยกฟ้อง
แม้ว่าสุดท้ายจะไม่มีใครต้องติดคุก แต่เจ้าหน้าที่รัฐได้ใช้กฎหมายกีดขวางการชุมนุมอย่างสงบเพื่อเรียกร้องความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชนของพวกเรา
แอมเนสตี้กดดันทางการคุ้มครองสิทธิของชาวเทพา
เมื่อเดือนธันวาคม 2560 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ออกปฏิบัติการด่วนเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนร่วมกดดันให้นายกรัฐมนตรียุติการดำเนินคดีต่อชาวบ้านที่เคลื่อนไหวซึ่งใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมอย่างสงบ
*พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 มาตรา 10 ต้องแจ้งการชุมนุมก่อนไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง โดยระบุวัตถุประสงค์ วัน ระยะเวลา และสถานที่ชุมนุม หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
รวบรวมข้อมูลจาก
ศูนย์ข้อมูลกฎหมายและคดีเสรีภาพโดย ไอลอว์
หมายเหตุ : ข้อความข้างต้นมิใช่เป็นคำพูดของนักปกป้องสิทธิมนุษยชน หากแต่คณะผู้จัดทำเรียบเรียงขึ้นจากข้อเท็จจริงทุกประการที่รวบรวมจากรายงานข่าวและการบันทึกเหตุการณ์ขององค์กรพัฒนาเอกชน