Monday for human rights: ‘ครูแฮรี่’ เส้นทางสมาชิกแอมเนสตี้จากห้องเรียนสู่การปกป้องสิทธิหลังสมรสเท่าเทียมผ่าน
“เรามีตัวตน ไม่ก้มหัวศิโรราบ ลุกขึ้นเปล่งเสียงเพื่อทุกอัตลักษณ์ทางเพศ”
“เรามีตัวตน ไม่ก้มหัวศิโรราบ ลุกขึ้นเปล่งเสียงเพื่อทุกอัตลักษณ์ทางเพศ”
กฎหมายสมรสเท่าเทียมของไทยที่มีผลบังคับใช้ในวันที่ 23 มกราคม 2568 นับเป็นหมุดหมายสำคัญในประวัติศาสตร์ของการรับรองสิทธิบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTI) อย่างไรก็ตาม บทวิเคราะห์นี้จะเจาะลึกข้อจำกัดในปัจจุบัน และเสนอแนวทางการปฏิรูปที่ครอบคลุมตามมาตรฐานสิทธิมนุษยชนสากล เพื่อก้าวข้าม “ความเท่าเทียมบนกระดาษ” ไปสู่ความเสมอภาคที่แท้จริง
บรรยากาศของเดือน Pride กำลังอบอวลไปด้วยกลิ่นไอของความรัก กำลังใจ และการส่งเสริมพลังให้กันและกันของผู้คนในชุมชน LGBTI หากแต่เมื่อเราสำรวจดู เหลือสิ่งที่ต้องร่วมกันลงมือทำอีกพอสมควร และยังมีผู้คนหลากหลายกลุ่มที่กำลังส่งเสียงเรียกร้องในอีกหลายประเด็นด้วยเช่นกัน วันนี้เราจึงได้ชวนตัวแทนจากกลุ่มเยาวชน มาส่งเสียงของพวกเขากันดูว่า ในขณะที่โลกกำลังเริ่มต้นที่จะโอบรับความหลากหลาย แต่ก็ยังเผชิญกับภัยคุกคามสิทธิมนุษยชนครั้งใหญ่ โดยเฉพาะแนวโน้มของการเมืองโลกที่หันไปสู่หลักการอำนาจนิยมที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เมื่อคลื่นอำนาจนิยมฉุดรั้งสิทธิ LGBTI: จาก “ทรัมป์ 2.0” ถึงยุคสมรสเท่าเทียมในไทย ดังนั้น การรับฟังเสียงจากเยาวชน จึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะในโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเช่นนี้ ซึ่งพวกเขา จะต้องเป็นผู้ที่มารับช่วงต่อไปในอนาคต
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สังคมโลกได้เผชิญกับแรงสั่นสะเทือนด้านสิทธิมนุษยชน เมื่อกระแสอำนาจนิยมกลับมาเคลื่อนไหวอย่างชัดเจนภายใต้การเรียกขานว่า “ทรัมป์ 2.0” การลดทอนความคุ้มครองและการเลือกปฏิบัติต่อผู้มีความหลากหลายทางเพศในสหรัฐฯ ได้ทิ้งรอยแผลลึกต่อชุมชน LGBTI และสร้างแรงสั่นสะเทือนที่ไหลบ่าไปยังภูมิภาคอื่นๆ ทั่วโลก เหตุการณ์เหล่านี้ไม่เพียงท้าทายความก้าวหน้าทางกฎหมาย แต่ยังกระตุ้นให้ต้องทบทวนบทบาทของภาคประชาสังคมในการผลักดันความเท่าเทียมและเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ในยุคที่กระแสแบ่งแยกและกลไกเผด็จการกลับมาโหมกระพือ
“การกำหนดเพศคือสิทธิมนุษยชน”
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ส่ง “รายงานคู่ขนาน” (Shadow Report) ต่อคณะกรรมการแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ (CEDAW) โดยการประชุมครั้งนี้จัดขึ้นสมัยที่ 91 ณ กรุงเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ นอกจากนั้นยังรายงานอีกกว่า 24 ฉบับ จากองค์กรภาคประชาสังคมต่างๆ ที่ร่วมกันส่งเสียงแทนผู้หญิงหลากหลายกลุ่มในประเทศไทย เพื่อสะท้อนสิ่งที่รัฐอาจยังไม่เห็นหรือไม่อยากเห็นจากการลงพื้นที่พูดคุยกับผู้ได้รับผลกระทบในสถานการณ์จริง
เครื่องมือทางดิจิทัล รวมทั้งแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและแอปส่งข้อความ ต่างมีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อนักกิจกรรมในประเทศไทย แต่พื้นที่ออนไลน์ไม่ได้ปลอดภัยสำหรับผู้หญิงและผู้มีความหลากหลายทางเพศ พวกเขาต้องตกเป็นเหยื่อการสอดแนมข้อมูลอย่างมีเป้าหมาย การคุกคามทางออนไลน์ และความรุนแรง ทั้งในทางออนไลน์และออฟไลน์
คำเตือนเกี่ยวกับเนื้อหา: บทความนี้มีเนื้อหากล่าวถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งอาจกระทบกระเทือนจิตใจได้ เราเผยแพร่ข้อมูลเหล่านี้เพื่อเป็นพยานต่อประสบการณ์ของผู้เสียหาย และเพื่อเรียกร้องการเปลี่ยนแปลง
วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2568 ในงาน Media Awards 2024 เป็นเหมือน แสงเทียนของคนทำงานสื่อ ที่ยังเชื่อในพลังของการบอกเล่าเรื่องราว งานนี้จัดขึ้นโดย แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เพื่อยกย่องสื่อมวลชนที่ยังทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงให้กับประชาชน โดยเฉพาะผู้คนที่เสียงของพวกเขาถูกทำให้เงียบหายไป ไม่ว่าด้วยความรุนแรง การข่มขู่ หรือโครงสร้างอำนาจที่ทำให้พวกเขาไม่มีที่ยืน
กว่า 10 ปีที่ต่อสู้ กว่า 10 ปีที่รอคอย วันนี้ความฝันและความหวังกลายเป็นความจริงแล้ว เพราะประเทศไทยในวันนี้มี “กฎหมายสมรสเท่าเทียม” บังคับใช้อย่างเป็นทางการแล้ว แม้จะมีข้อท้าทายหลายอย่างตามมาจากนี้ แต่นับเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่เรื่องสิทธิมนุษยชนที่ส่งพลังชีวิตที่ดีขึ้นให้กับผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ เพราะกฎหมายนี้จะเป็นหลักประกันให้กับทุกความรักของทุกคน