ทั่วโลก: แคมเปญ “Write for Rights” หรือ “เขียน เปลี่ยน โลก” ประจำปีของแอมเนสตี้แสดงถึงชัยชนะด้านสิทธิมนุษยชน

ท่ามกลางการขยายตัวของแนวทางแบบอำนาจนิยม วิกฤตสภาพภูมิอากาศ และการสั่นคลอนของกฎหมายระหว่างประเทศ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเปิดตัวแคมเปญ “Write for Rights” หรือ “เขียน เปลี่ยน โลก” ประจำปีในวันสิทธิมนุษยชนสากล (10 ธันวาคม) เพื่อสนับสนุนผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนและแสดงถึงชัยชนะของสิทธิมนุษยชน

แคมเปญปีนี้เชิญชวนผู้คนทั่วโลกให้ร่วมกันต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ศักดิ์ศรี และอนาคตที่เราร่วมกันสร้าง สนับสนุนผู้ที่ต้องเสียสละเพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนและพูดความจริงกับผู้มีอำนาจ ตั้งแต่ชนเผ่าพื้นเมืองที่เลี้ยงกวางเรนเดียร์ในนอร์เวย์ที่ต่อสู้เพื่อปกป้องผืนแผ่นดินของชุมชน นักข่าวที่ถูกจำคุกจากการรายงานเหตุการณ์พายุไซโคลนในเมียนมา ไปจนถึงเด็กชายตัวเล็กๆ ที่เสียชีวิตหลังจากตกลงไปในส้วมหลุมที่โรงเรียนอนุบาลในแอฟริกาใต้ ทุกเรื่องราวในแคมเปญปีนี้ล้วนเชื่อมโยงกันด้วยการละเมิดสิทธิมนุษยชน

แอกเนส คาลามาร์ด เลขาธิการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เผยว่า แม้สิทธิมนุษยชนกำลังเผชิญความท้าทายอันหนักหน่วง แอมเนสตี้ยังคงเห็นผู้คนนับไม่ถ้วนจากทั่วโลกมาร่วมกัน แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการเคลื่อนไหวและพลังแห่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน แคมเปญ “Write for Rights  หรือ “เขียน เปลี่ยน โลก” ในปีนี้นำเสนอเรื่องราวของผู้ที่อยู่แนวหน้าในวิกฤตสภาพภูมิอากาศ ต่อสู้เพื่อปกป้องชุมชนจากภัยแล้ง การเผาก๊าซ โครงการพัฒนา และมลพิษ ผู้ที่ต้องการให้พวกเราร่วมกันสนับสนุนอย่างเร่งด่วน

“เรามีทางเลือกที่ต้องตัดสินใจในช่วงประวัติศาสตร์ที่สำคัญนี้ ว่าจะยอมให้แนวทางแบบอำนาจนิยมกัดกร่อนเสรีภาพของเราต่อไป หรือจะร่วมกันต่อต้านและยืนหยัดเพื่อสิทธิมนุษยชน เพียงสละเวลาไม่กี่นาทีเพื่อเขียนจดหมาย โพสต์บนโซเชียลมีเดีย หรือลงนามในข้อเรียกร้อง ใครๆ ก็สามารถเปลี่ยนแปลงโลกและแม้กระทั่งช่วยชีวิตคนได้ เราจะร่วมกันพิสูจน์ว่าแม้ในสถานการณ์เลวร้ายที่สุด สิทธิมนุษยชนจะต้องชนะ”

การสนับสนุนผู้ที่ตกอยู่ในความเสี่ยง

ในปีนี้ แคมเปญ “เขียน เปลี่ยน โลก” เชิญชวนผู้คนนับล้านให้มาร่วมกันเปลี่ยนชีวิตของผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิทั่วโลก

บุคคลในแคมเปญของปีนี้มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • ดามิซัว (Damisoa) จากมาดากัสการ์ ต่อสู้เพื่อผู้คนที่พลัดถิ่นจากวิกฤตสภาพภูมิอากาศในประเทศ
  • อูเนเซโบม โบเตนี (Unecebo Mboteni) เด็กชายวัย 3 ขวบจากแอฟริกาใต้ เสียชีวิตหลังจากตกลงไปในส้วมหลุมที่โรงเรียนอนุบาล
  • ฮวน โลเปซ (Juan López) จากฮอนดูรัส ถูกยิงเสียชีวิตหลังต่อสู้เพื่อปกป้องแม่น้ำในท้องถิ่นและอุทยานแห่งชาติจากโครงการเหมืองและพลังงาน
  • สมาชิกจากกลุ่มพระแม่ธรรมชาติแห่งกัมพูชา (Mother Nature Cambodia) ถูกจำคุกจากการปกป้องสิ่งแวดล้อมของกัมพูชา
  • ไซ ซอว์ แต็ก (Sai Zaw Thaike) นักข่าวที่ถูกจับกุมและถูกตัดสินจำคุก 20 ปี พร้อมใช้แรงงานหนักจากการรายงานเหตุการณ์หลังพายุไซโคลนในเมียนมา
  • เอลลินอร นุตทอร์ม อุตซี (Ellinor Guttorm Utsi) ต่อสู้เพื่อให้เสียงของชาวซามีในนอร์เวย์ได้รับการรับฟังและเคารพสิทธิของพวกเขา
  • โซเนีย (Sonia) ทนายความชาวตูนิเซียที่ทุ่มเทชีวิตให้กับการปกป้องสิทธิมนุษยชน และต้องโทษจำคุกหลายปีจากการแสดงความคิดเห็น
  • กลุ่มผู้หญิงนักต่อสู้เพื่อผืนป่าแอมะซอน (Guerreras por la Amazonía) จากเอกวาดอร์ ปกป้องชุมชนของตนจากการเผาก๊าซที่สร้างควันพิษและความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมในผืนป่าแอมะซอนของเอกวาดอร์

สำหรับเอลลินอร นุตทอร์ม อุตซี การสนับสนุนที่ได้รับจากแคมเปญ “เขียน เปลี่ยน โลก” ได้มอบความหวังให้เธอ ผืนดินและวิถีชีวิตของคนเลี้ยงกวางเรนเดียร์กำลังตกอยู่ในความเสี่ยง เนื่องจากรัฐบาลนอร์เวย์มีแผนจะสร้างกังหันลมหลายร้อยต้น ซึ่งจะรบกวนเส้นทางการเลี้ยงกวางเรนเดียร์

แม้เอลลินอรจะพยายามเรียกร้องให้ยุติโครงการกังหันลมเหล่านี้เพื่อปกป้องผืนดินและวัฒนธรรม แต่ก็ยากที่ผู้หญิงวัย 60 ปีจะทำเพียงลำพัง

“ฉันรู้สึกดีใจมากที่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล องค์กรที่ให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหว สนับสนุนแคมเปญของฉันในวันนี้ ฉันมีความสุขที่ได้รับแรงสนับสนุนจากผู้คนที่ทำงานนี้ในทุกๆ วัน” เอลลินอร กล่าว “นี่คือวิถีชีวิตของเรา ฉันไม่รู้จักวิถีอื่นใดอีก เราต้องสู้เพื่อผืนดินของเรา เพื่อปกป้องคนรุ่นต่อไป”

การเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คน

ตั้งแต่แคมเปญ “เขียน เปลี่ยน โลก” เริ่มต้นในปี 2544 ผู้คนนับล้านได้ร่วมกันเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้ที่ถูกพรากสิทธิมนุษยชนไป มากกว่า 100 คนในแคมเปญนี้ได้รับผลลัพธ์ที่เป็นบวกในกรณีของพวกเขา

ในปี 2566 ร็อกกี้ ไมเออร์ส (Rocky Myers) ชายผิวดำที่มีความบกพร่องทางสติปัญญาได้เข้ามาอยู่ในแคมเปญ ”เขียน เปลี่ยน โลก” ร็อกกี้ใช้เวลากว่า 3 ทศวรรษบนแดนประหารในรัฐแอละแบมาจากคดีฆาตกรรม ซึ่งถูกตัดสินความผิดจากคำให้การที่ไม่สอดคล้องกันและข้อกล่าวหาเกี่ยวกับแรงกดดันจากตำรวจ ผู้สนับสนุนแอมเนสตี้หลายแสนคนได้เรียกร้องให้ปล่อยตัวร็อกกี้ โดยเขียนจดหมายเรียกร้องให้ผู้ว่าการรัฐแอละแบมาลดโทษและเปลี่ยนโทษประหารชีวิต จนในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ข้อเรียกร้องนี้ก็ได้รับการอนุมัติ

แม้การต่อสู้ของร็อกกี้จะยังไม่จบ เพราะเขากำลังทวงความยุติธรรมสำหรับการละเมิดในคดีของเขา แต่ภัยคุกคามจากการประหารชีวิตได้ยุติลงแล้ว

“แคมเปญนี้ไม่เพียงช่วยให้ผู้คนรับรู้ถึงคดีของเขา แต่ยังเป็นการให้เกียรติร็อกกี้ในฐานะมนุษย์ พ่อ และปู่ของครอบครัว” มิเรียม แบงค์สตัน สมาชิกทีมกฎหมายของร็อกกี้กล่าว

“ฉันรู้ว่าการสนับสนุนที่หลั่งไหลเข้ามามีความหมายอย่างยิ่งต่อร็อกกี้ และการที่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนมากรู้สึกว่าต้องลงมือปฏิบัติการเป็นแรงบันดาลใจอย่างแท้จริง”

เข้าร่วมแคมเปญของปีนี้ และเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่สร้างโลกที่ยุติธรรมและมีมนุษยธรรมมากขึ้น เข้าร่วมแคมเปญ “Write for Rights” หรือ “เขียน เปลี่ยน โลก”