แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดตัวแคมเปญระดับโลก “Write for Rights – เขียน เปลี่ยน โลก” ประจำปี 2568 เชิญชวนทุกคนใช้ “พลังของตัวอักษร” เพื่อปกป้องผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนทั้งในไทยและทั่วโลก เพราะเพียงหนึ่งข้อความจากเรา อาจเป็นความหวังที่ยิ่งใหญ่สำหรับใครสักคนที่กำลังต่อสู้กับความอยุติธรรมและเป็นการย้ำว่าพวกเขาไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง
แคมเปญ “Write for Rights – เขียน เปลี่ยน โลก” จัดขึ้นในเดือนธันวาคมของทุกปีเป็นกิจกรรมรณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชนที่มีผู้เข้าร่วมมากที่สุดในโลก แอมเนสตี้ได้เห็นถึงพลังของการเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าโลกกำลังเผชิญกับความโหดร้ายทารุณก็ตาม ท่ามกลางแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของอำนาจเผด็จการ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา วิกฤตสภาพภูมิอากาศที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก และพื้นที่ภาคประชาสังคมที่กำลังหดตัวลง แคมเปญนี้จึงเป็นการรวมพลังและส่งเสียงของคนธรรมดาเพื่อยืนหยัดเคียงข้างผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิทั้งในไทยและทั่วโลก

เพชรรัตน์ ศักดิ์ศิริเวทย์กุล ผู้จัดการฝ่ายแคมเปญ แอมเนสตี้ ประเทศไทยกล่าวถึงจุดกำเนิดของกิจกรรมนี้ว่า เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 24 ปีก่อนที่กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ เมื่อกลุ่มเพื่อนที่ตัดสินใจเขียนจดหมายมาราธอนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเฉลิมฉลองวันสิทธิมนุษยชนสากลซึ่งตรงกับวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี และเพื่อส่งเสียงสนับสนุนผู้ถูกละเมิดสิทธิ จากกิจกรรมเล็กๆ ครั้งนั้น ขยายกลายเป็นภารกิจกรรมรณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชนประจำปีที่ใหญ่ที่สุดของแอมเนสตี้ในวันนี้
“แคมเปญ ‘เขียน เปลี่ยน โลก’ เชิญชวนให้ผู้คนนับล้านคนทั่วโลกร่วมกันเปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน แคมเปญนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า แม้ในเวลาที่เรารู้สึกว่าทุกอย่างดูหนักหนาสาหัสเกินไป แต่เราก็ยังสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้ด้วยการลงมือทำสิ่งเล็กๆ เช่น การเขียนจดหมาย โพสต์ข้อความลงบนโซเชียลมีเดีย หรือลงชื่อเรียกร้อง คุณก็สามารถช่วยเปลี่ยนแปลงโลกและช่วยชีวิตใครสักคนได้
“การเข้าร่วมแคมเปญนี้เป็นเรื่องง่าย และเราสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า การส่ง การโพสต์ หรือการเขียนจดหมายแค่เพียงฉบับเดียวก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างมหาศาลให้กับผู้คนที่เราได้ช่วยเหลือและสนับสนุน หลายคนได้ส่งคำขอบคุณจากใจจริงของพวกเขากลับมาให้เราทุกปี เพราะคุณช่วยให้พวกเขาได้รับอิสรภาพ หรือแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับการต่อสู้ของพวกเขา”
“การร่วมเป็นส่วนหนึ่งในแคมเปญนี้สำคัญตรงที่ว่า ไม่ได้มีเสียงของเราเพียงคนเดียว แต่คือเสียงของเพื่อนเรา คนรอบตัวเรา และผู้คนอีกมากมายที่อยากเห็นโลกนี้ดีขึ้น ตัวอักษรเล็กๆ เมื่ออยู่รวมกัน อาจกลายเป็นพลังที่ใหญ่พอจะปลอบใจใครสักคน หรือแม้แต่ขยับเขยื้อนความไม่เป็นธรรมให้เปลี่ยนไปได้จริง โปสต์การ์ดหนึ่งฉบับอาจดูเล็ก แต่เมื่อรวมกันหลายพันหลายแสนฉบับกลายเป็นความหวังได้” เพชรรัตน์กล่าวทิ้งท้าย

สำหรับแคมเปญปีนี้ มีเรื่องราวของ พายุ โสภณ นักกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม ผู้ยืนหยัดปกป้องสิทธิชุมชนจากโครงการอุตสาหกรรมที่ทำลายสิ่งแวดล้อม และต่อต้านนโยบาย “ฟอกเขียว” ของทางการไทย แต่การต่อสู้เพื่อความยุติธรรมกลับทำให้พายุต้องสูญเสียดวงตาข้างขวาไปตลอดกาล จากความรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐระหว่างการชุมนุม APEC เมื่อปี 2565 จนถึงวันนี้เขายังไม่ได้รับความเป็นธรรม นอกจากนั้นยังมีอีก 10 กรณีทั่วโลกที่ต้องการเสียงสนับสนุนของทุกคน เช่นกรณีของ
• ไซ ซอว์ แต็ก ช่างภาพข่าวชาวเมียนมาถูกจับกุมขณะรายงานผลกระทบของไซโคลนโมคาในปี 2566 ศาลทหารตัดสินจำคุก 20 ปี และเขาต้องเผชิญกับการทุบตีและการขังเดี่ยวระหว่างถูกคุมขัง
• กลุ่มพระแม่ธรรมชาติแห่งกัมพูชา (Mother Nature Cambodia) กลุ่มสิ่งแวดล้อมในกัมพูชา ที่ทำงานอย่างกล้าหาญมาตั้งแต่ปี 2556 ถูกจับกุมและดำเนินคดีซ้ำซ้อน ปี 2567 สมาชิก 6 คนถูกตัดสินจำคุก 6–8 ปี หนึ่งคนต้องลี้ภัย ส่วนอีก 5 คนถูกคุมขังและอยู่ในสภาพเรือนจำที่โหดร้าย

• กลุ่มผู้หญิงนักต่อสู้เพื่อผืนป่าแอมะซอน ในเอกวาดอร์ที่ยืนหยัดต่อต้านการเผาแก๊สและมลพิษอุตสาหกรรม แม้ศาลจะตัดสินในปี 2564 ว่าการเผาแก๊สละเมิดสิทธิมนุษยชนและต้องยุติ แต่เปลวไฟยังคงลุกโชนและพวกเธอยังถูกข่มขู่คุกคามจากการเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องชุมชนของตัวเอง
ทุกจดหมาย ทุกลายเซ็น คือสัญลักษณ์ว่าโลกใบนี้ยังไม่ยอมจำนนต่อความอยุติธรรม ร่วม “เขียน เปลี่ยน โลก” กับเราในปีนี้ 👉 https://bit.ly/48ukQA2 เพื่อส่งต่อความหวัง… และเปลี่ยนชีวิตของผู้คนจริงๆ ไปด้วยกัน่



