สืบเนื่องจากคำพิพากษาศาลชั้นต้น ตัดสินจำคุก ชลธิชา แจ้งเร็ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เป็นเวลา 4 ปี และลดโทษเหลือเป็นเวลา 2 ปี 8 เดือน จากการโพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ซึ่งมีเนื้อหาแสดงความคิดเห็นต่อสถาบันกษัตริย์ โดยทนายความได้ยื่นต่อศาลอุทธรณ์เพื่อขอประกันตัว คาดว่าศาลจะพิจารณาในช่วงบ่ายวันนี้
เพชรรัตน์ ศักดิ์ศิริเวทย์กุล ผู้จัดการฝ่ายรณรงค์ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เผยว่า การพิพากษาในวันนี้ เป็นการตอกย้ำถึงการจำกัดสิทธิในเสรีภาพการแสดงความคิดเห็น ซึ่งตลอดหลายปีนับตั้งแต่การชุมนุมประท้วงปี 2563 ประชาชน นักกิจกรรม และนักปกป้องสิทธิมนุษยชนจำนวนมาก ถูกดำเนินคดีอาญาและพิพากษาลงโทษเพียงเพราะใช้เสรีภาพในการแสดงออก นี่เป็นความล้มเหลวโดยสิ้นเชิงของทางการไทยในการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
“หากมีการปฏิเสธคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวในคดีนี้ ถือเป็นการกระทำที่ไม่อาจยอมรับได้ภายใต้กฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ที่ไม่ควรมีใครต้องถูกพรากเสรีภาพและถูกควบคุมตัวเพียงเพราะการแสดงความคิดเห็นของตนเอง”
“การคุกคามอย่างต่อเนื่องของทางการไทยต่อผู้เห็นต่าง เป็นภาพสะท้อนที่ย้อนแย้งกับคำมั่นสัญญาที่ไทยประกาศบนเวทีโลก ในฐานะสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ทางการไทยต้องยุติการใช้กฎหมายเป็นอาวุธเพื่อข่มขู่และคุกคามผู้วิจารณ์ และนักปกป้องสิทธิมนุษยชน”
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เรียกร้องให้รัฐไทยปฏิบัติตามพันธกรณีตามกฎหมายระหว่างประเทศในการเคารพ ปกป้อง และส่งเสริมการใช้สิทธิในเสรีภาพการแสดงออกโดยสงบ
ข้อมูลพื้นฐาน
วันที่ 8 ก.ย. 2568 เวลา 10.00 น. ศาลอาญามีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 4 (3) จากการโพสต์จดหมายเปิดผนึกถึงสถาบันกษัตริย์บนเฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 ในกิจกรรม #PeoplesMessage
ศาลมีคำพิพากษาจำคุก 4 ปี โดยลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน เนื่องจากให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี ปัจจุบันทนายความได้ยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวต่อศาลอุทธรณ์ คาดว่าศาลจะพิจารณาในช่วงบ่ายวันนี้ หากศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว จะทำให้ น.ส.ชลธิชาต้องถูกควบคุมตัว ส่งผลให้สิ้นสุดสถานภาพการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทันที