ก่อนที่สภาผู้แทนราษฎรแห่งประเทศไทยจะมีการลงมติร่างพระราชบัญญัติทั้งห้าฉบับเพื่อนิรโทษกรรมความผิดทางอาญาที่เกี่ยวเนื่องกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง
ชนาธิป ตติยการุณวงศ์ นักวิจัยประจำประเทศไทย แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เผยว่า นับแต่ปี 2563 ได้มีการใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติและกฎหมายอาญาหลายฉบับเป็นอาวุธ เพื่อริดรอนสิทธิเสรีภาพจากผู้ชุมนุมประท้วงโดยสงบในประเทศไทย เพียงเพราะพวกเขาได้ใช้สิทธิในเสรีภาพการแสดงออกเท่านั้น ปัจจุบันถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลไทยจะต้องแก้ไขข้อผิดพลาดในอดีต
“ในการลงมติครั้งสำคัญนี้ สมาชิกรัฐสภาของไทยต้องประกันว่ากฎหมายใหม่ฉบับนี้ จะส่งผลให้มีการยกเลิกการดำเนินคดีอาญาทั้งหมดกับผู้ชุมนุมประท้วงโดยสงบ ไม่เว้นแม้แต่ความผิดฐานหมิ่นประมาทกษัตริย์
“กฎหมายฉบับนี้ยังควรเป็นโอกาสที่สมาชิกรัฐสภาของไทย จะรับประกันว่า เจ้าหน้าที่รัฐซึ่งเคยละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อผู้ชุมนุมประท้วง จะไม่ถูกยกเว้นความผิด จากการถูกดำเนินคดีตามความผิดทางอาญาของพวกเขา”
ข้อมูลพื้นฐาน
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 สภาผู้แทนราษฎรแห่งประเทศไทยได้เริ่มเปิดการอภิปรายร่างพระราชบัญญัติห้าฉบับ ที่มีเนื้อหาเพื่อนิรโทษกรรมความผิดที่เกี่ยวเนื่องกับการเคลื่อนไหวทางการเมือง หนึ่งในร่างกฎหมายนั้นจัดทำขึ้นโดยเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงานภาคประชาสังคมรวม 20 องค์กร ที่ประสงค์จะให้มีการนิรโทษกรรมกับบุคคลที่ถูกดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาทกษัตริย์ด้วย โดยมีผู้ลงชื่อสนับสนุนร่างกฎหมายฉบับนี้กว่า 36,000 คน โดยสมาชิกรัฐสภาจะลงมติร่างพระราชบัญญัติทั้งห้าฉบับ ในวันที่ 16 กรกฎาคมนี้
ประเด็นหลักซึ่งเป็นที่ถกเถียงกันมาก รวมไปถึงการที่กฎหมายฉบับนี้ควรครอบคลุมคดีตามมาตรา 112 ของประมวลกฎหมายอาญาหรือไม่ ซึ่งบทบัญญัติดังกล่าวกำหนดโทษจำคุกตั้งแต่สามปี ถึง 15 ปี สำหรับบุคคลใดที่หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ (ทั้งหมดถือเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทกษัตริย์)
ร่างกฎหมายบางฉบับยังเป็นการนิรโทษกรรมแบบเหมารวมให้กับกองกำลังความมั่นคงและเจ้าหน้าที่ซึ่งต้องรับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการใช้กำลังอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมายต่อผู้ชุมนุมประท้วง
ตามข้อมูลของศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนพบว่า นับแต่การชุมนุมประท้วงต่อต้านรัฐบาลที่มีเยาวชนเป็นแกนนำเริ่มต้นขึ้นในปี 2563 มีผู้ถูกดำเนินคดีที่เกี่ยวเนื่องกับการชุมนุมประท้วงทางการเมือง 1,974 คน ในจำนวนนี้ มีผู้ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายหมิ่นประมาทกษัตริย์รวมกัน 280 คน มีผู้ถูกคุมขังอย่างน้อย 50 คน รวมทั้ง 32 คนที่ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายหมิ่นประมาทกษัตริย์
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลได้เรียกร้องอย่างต่อเนื่องให้ทางการไทย ยกเลิกข้อหาทั้งหมดต่อผู้ชุมนุมประท้วงโดยสงบทันทีและอย่างไม่มีเงื่อนไข รวมถึงผู้ที่ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายหมิ่นประมาทกษัตริย์ และให้ปล่อยตัวผู้ที่ถูกควบคุมตัวจากกฎหมายดังกล่าวด้วย