ตำรวจฮ่องกงที่บุกทำร้ายผู้ชุมนุมอย่างสงบต้องถูกสอบสวน

2 กันยายน 2562

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล

ถ่าม หม่าน-เก ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ฮ่องกง เปิดเผยถึงการปะทะกันระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วงในฮ่องกงเมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา รวมทั้งการที่ตำรวจบุกเข้าไปภายในสถานีรถใต้ดินปริ้นส์เอ็ดเวิร์ด และทุบตีทำร้ายผู้คนในรถไฟว่า

 

“เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถอ้างความรุนแรงที่กระทำต่อพวกเขาในวันเสาร์ มาเป็นเหตุผลให้ไปลงมือทำร้ายผู้คนในที่อื่น ภาพอันน่าตกใจในสถานีรถใต้ดินปริ้นส์เอ็ดเวิร์ด ที่คนทั่วไปถูกรุมทำร้ายในระหว่างความโกลาหล สะท้อนให้เห็นการปฏิบัติหน้าที่ที่ต่ำกว่ามาตรฐานสากลด้านการรักษาความสงบเรียบร้อย

 

“ภาพจากในวิดีโอ ตำรวจบุกเข้าไปในขบวนรถไฟ ใช้ไม้กระบองไล่ตีผู้คนซึ่งดูเหมือนจะไม่สามารถก่อภัยคุกคามใดๆ แล้ว ทั้งยังฉีดสเปรย์พริกในขบวนรถไฟ ทั้งๆ ที่ผู้โดยสารไม่มีช่องทางหลบหนีไปไหนได้แล้ว เจ้าหน้าที่ยังสั่งห้ามไม่ให้หน่วยพยาบาลเข้ามาในสถานี ที่น่าตกใจคือดูเหมือนตำรวจจะเล็งเครื่องยิงระเบิดฟองน้ำในระยะประชิดใส่ผู้คนที่อยู่ภายในรถไฟ ยุทธวิธีที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของตำรวจเช่นนี้ แทนที่จะช่วยลดความตึงเครียด จะยิ่งเร่งให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น

 

“เรายังต้องการตั้งคำถามอย่างจริงจังกับการส่งกำลังเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ แฝงตัวในหมู่ผู้ประท้วง ซึ่งน่าสงสัยว่าพวกเขามีบทบาทในการยุยงให้เกิดความรุนแรงหรือไม่ เจ้าหน้าที่ไม่ควรทำตัวเป็นผู้แฝงตัวเพื่อยุยงให้เกิดความรุนแรง เพราะจะยิ่งทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจและความหวาดระแวง ทำให้เกิดความแตกแยกในบรรดาผู้ซึ่งมีสิทธิที่จะรวมตัวชุมนุมและรวมตัวเป็นองค์กร

 

“นี่เป็นครั้งแรกที่ตำรวจใช้ปืนฉีดน้ำผสมสี เพื่อฉีดพ่นโดยไม่เลือกหน้าใส่ประชาชนจำนวนมาก ทำให้ทั้งคนทั่วไปและผู้สื่อข่าวเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำผสมสีและถูกระบุตัวได้ ยุทธวิธีเหล่านี้เป็นภัยคุกคามอย่างแท้จริงต่อเสรีภาพในการแสดงออก การชุมนุมอย่างสงบ และสิทธิที่จะได้รับการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม ปฏิบัติการของตำรวจเมื่อวันเสาร์ยิ่งเน้นให้เห็นความจำเป็นเร่งด่วน ที่จะต้องมีการสอบสวนอย่างเป็นอิสระและเหมาะสม ต่อการใช้ตำรวจเพื่อควบคุมสถานการณ์การประท้วง”