ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของสิทธิมนุษยชน ปี 2018

19 ธันวาคม 2561

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล

ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา สมาชิกแอมเนสตี้กว่าเจ็ดล้านคนได้รวมพลังกันในหลายรูปแบบ ทั้งการชุมนุม เขียนจดหมาย และยื่นคำร้อง เพื่อปกป้องและผลักดันสิทธิมนุษยชนในทุกพื้นที่ทั่วโลก และผลลัพธ์ของมันก็ยิ่งกว่าคุ้มค่า เพราะผู้ถูกกักขังอย่างมิชอบได้เป็นอิสระ กฎหมายได้รับการเปลี่ยนแปลง และผู้คนก็ได้แรงบันดาลใจให้ยืนหยัดอย่างกล้าหาญมาร่วมเติมเต็มแรงบันดาลใจของคุณไปกับสรุปชัยชนะครั้งสำคัญของสิทธิมนุษยชนแห่งปี 2018

 

กุมภาพันธ์

 

-      ธีโอโดรา เดล คาร์เมน วาสเกซ จากเอลซาวาดอร์ ได้รับการปล่อยตัวหลังถูกตัดสินจำคุกกว่า 30 ปีในข้อหาทำแท้ง เพราะลูกของเธอเสียชีวิตในครรภ์ ทางแอมเนสตี้ได้รณรงค์ให้ปล่อยตัวเธอตั้งแต่ปี 2015 และจะยังคงรณรงค์ต่อไปหลังจากคดีของเธอยุติจนกว่าผู้หญิงชาวเอลซาวาดอร์จะไม่ตกเป็นเหยื่อกฎหมายการเจริญพันธุ์ที่ไม่ชอบธรรมอีกต่อไป

-       เซอจิโอ แซนเชส จากเม็กซิโก ได้เป็นอิสระหลังถูกจำคุกมานาน 8 ปีจากคำตัดสินคดีฆาตกรรมที่อิงจากหลักฐานเท็จที่ไม่ปะติดปะต่อกัน โดยทนายของเขาเชื่อว่าการชุมนุมและแสดงพลังของชาวแอมเนสตี้คือส่วนสำคัญที่ทำให้เขาได้ออกจากคุก

-       การปล่อยตัวนักโทษทางความคิดจำนวนหนึ่งในเอธิโอเปีย ซึ่งประกอบไปด้วยนักกิจกรรม, นักข่าว, และบล็อคเกอร์ รวมไปถึงนายเอสกินเดอร์ เนกา นักข่าวชื่อดังที่เป็นเคสสำคัญที่แอมเนสตี้ให้ความช่วยเหลือในขณะนั้น โดยนายเอสกินเดอร์ได้กล่าวถึงจดหมายนับไม่ถ้วนที่ชาวแอมเนสตี้ส่งถึงเขาว่า

 

“ผมได้รับจดหมายสนับสนุนจากแอมเนสตี้ผ่านครอบครัวของผม มันทำให้ผมยังมีกำลังใจและมันช่วยให้ครอบครัวผมยังมีพลัง”

 

-       รัฐบาลยูเครนได้ร่างหลักสูตรระดับประถมศึกษาใหม่ โดยเพิ่มสิทธิมนุษยชนศึกษาลงไปด้วย หลังจากแอมเนสตี้ยูเครนได้สนับสนุนและเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตรอย่างไม่ลดละ

-       ประเทศเบนินได้ประกาศเปลี่ยนโทษประหารชีวิตใน 14 คดีหลังการรณรงค์จากแอมเนสตี้ โดยการตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังประเทศแกมเบียประกาศพักการตัดสินโทษประหารชีวิต

 

มีนาคม

 

ในเดือนนี้เราได้เห็นการรวมพลังครั้งใหญ่ของชาวแอมเนสตี้ในยูเครน หลังจากทางตำรวจเพิกเฉยต่อกลุ่มคนที่ข่มขู่และใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมเพื่อสิทธิสตรีในวันสตรีสากล โดยพวกเขาได้กล่าวหาอย่างเลื่อนลอยว่าหนึ่งในผู้จัดงาน โอเลน่า เชฟเชนโก ได้ละเมิดระเบียบการชุมนุมด้วยการใช้ป้ายชุมนุม “ที่ยั่วยุ” ซึ่งถือโดยผู้ชุมนุมบางส่วน เมื่อเธอไปขึ้นศาลในวันที่ 15 มีนาคม คำประกาศขอความช่วยเหลือของแอมเนสตี้ ยูเครนบนโลกออนไลน์ทำให้มีผู้มาแสดงตัวให้กำลังใจเธอนับพัน และห้องพิจารณาคดีต้องคราคร่ำไปด้วยผู้สื่อข่าว ผู้สนับสนุน และผู้สังเกตการณ์จากสถานทูตของหลายประเทศ ท้ายที่สุดศาลได้ตัดสินยกฟ้อง

 

เมษายน

 

-       การนิรโทษกรรมนักโทษทางความคิด 8,000 คนในประเทศเมียนมา โดยรวมอยู่ในนั้นมีนักโทษสามรายที่ทางแอมเนสตี้ได้เคลื่อนไหวให้ปล่อยตัวมาก่อนแล้วคือบาทหลวงชาวยะไข่ดัมดอว์ นอว์ง ลัต, แลงจอว์ กัม เซง, และลาห์ไปย์ แกม

-       ในประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา ศาลรัฐธรรมนูญได้ตัดสินให้ผู้ตกเป็นเหยื่อการข่มขืนและอาชญากรรมต่อพลเรือนช่วงสงครามไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมศาลในกรณีที่การเรียกร้องค่าชดเชยถูกยกเลิก หลังจากที่แอมเนสตี้และองค์กรไทอัล อินเตอร์เนชั่นเนล ร่วมกันผลักดันให้ยกเลิกการเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าว และหวังว่าความเปลี่ยนแปลงนี้จะทำให้ผู้รอดชีวิตคนอื่นๆกล้าที่จะเรียกร้องความยุติธรรมมากขึ้น

 

พฤษภาคม

 

-       ผลประชามติครั้งสำคัญของไอร์แลนด์ทำให้กฎหมายห้ามทำแท้งถูกยกเลิกนับเป็นชัยชนะสำคัญของสิทธิสตรี หลังจากการรณรงค์อย่างยาวนานจากนักกิจกรรมหลายภาคส่วน รวมถึงแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นเนล ที่เคยเผยแพร่รายงานสำคัญ ประเทศไอร์แลนด์:เพราะเธอไม่ใช่อาชญากร -- ผลกระทบของกฎหมายห้ามทำแท้ง ไว้เมื่อปี 2015 และในปี 2018 นี้ ก็เป็นอีกครั้งที่พลังของสามัญชนได้แสดงให้เห็นอีกครั้งเมื่อชาวไอร์แลนด์จากทุกสารทิศเดินทางกลับภูมิลำเนาเพื่อลงประชามติครั้งนี้

 

แคทริโอน่า เกรแฮม นักเคลื่อนไหวสิทธิสตรีคนสำคัญในไอร์แลนด์ ได้กล่าวว่า

นี่คือการเคลื่อนไหวแห่งความหวัง นี่คือการตระหนักและให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและสุขภาพของผู้หญิง และข้อเท็จจริงนั้นโดยตัวมันเองก็เป็นจุดเปลี่ยนที่มหัศจรรย์ที่สุด

-       การปล่อยตัวผู้นำฝ่ายค้านและนักโทษทางความคิด อันวาร์ อิบราฮิม ในประเทศมาเลเซียนับเป็นจุดสำคัญในประวัติศาสตร์สิทธิมนุษยชนมาเลเซีย หลังนายนาจิบ ราซักพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งให้แก่อดีตครูการเมืองของตน มหาเธร โมหะหมัด

-       รัฐสภาเบอร์กินา ฟาโซได้ยกเลิกโทษประหารชีวิต

-       กระทรวงศึกษาธิการประเทศโมลดีวาได้บรรจุสิทธิมนุษยชนศึกษาลงในหลักสูตรชั้นประถมและมัธยมศึกษา หลังการทดสอบหลักสูตรในนักเรียน 700 คนจาก 22 โรงเรียนเป็นผลสำเร็จ

 

มิถุนายน

 

-       หลังจากการรณรงค์อย่างไม่หยุดยั้งกับกรณีประเทศซีเรีย ทางกองทัพพันธมิตรสหรัฐได้ประกาศรื้อการพิจารณาคดีว่าด้วยผลกระทบต่อพลเรือนกลับขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่ทางกองทัพปฏิเศษและประนามรายงานความเสียหายต่อพลเรือนที่แอมเนสตี้จัดทำขึ้น จนกระทั่งมีการค้นพบหลักฐานใหม่ โดยหลังการพิจารณาดังกล่าว ทางกองทัพยอมรับผิดทั้งหมด 77 คดีจาก 79 คดีที่แอมเนสตี้รายงาน ซึ่งทำให้ยอดเสียชีวิตพลเรือนของทางกองทัพเพิ่มขึ้น 300% แต่อย่างนั้นทางแอมเนสตี้เชื่อว่าข้อมูลที่พบเป็นเพียงส่วนปลายเล็กๆของความเสียหายที่แท้จริงเท่านั้น ทางแอมเนสตี้จึงร่วมมือกับอีกหลายภาคส่วนโดยเฉพาะกลุ่มแอร์วอร์ เพื่อถอดรหัสหาข้อมูลความเสียหายที่แท้จริงในโปรเจค “สไตรค์ แทร็คเกอร์” โดยการรวบรวมข้อมูลดังกล่าวคาดว่าจะพร้อมเผยแพร่ต้นปี 2019

-       แอมเนสตี้ได้เปิดเผยรายงานสำคัญที่เปิดโปงอาชญากรรมต่อมนุษยชาติที่กระทำต่อชาวโรฮิงยาในเมียนมา โดยได้มีการระบุหน่วยทหารที่กระทำผิด รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูง 13 คนที่มีส่วนสำคัญในอาชญากรรมครั้งนี้

 

กรกฎาคม

 

-       หลังจากการการเคลื่อนไหวโดยแอมเนสตี้ร่วมกับกลุ่มพีอีเอ็นเมื่อต้นปีที่ผ่านมา นางหลิว เซีย ภรรยาของนักเคลื่อนไหวชาวจีนหลิว เสี่ยวโป ก็ได้เดินทางออกจากประเทศจีนไปสู่เยอรมัน หลังจากถูกกักบริเวณในบ้านนานแปดปี หลังสามีของเธอได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพเมื่อปี 2010

-       อาเฮ็ด ธามีมี นักกิจกรรมอายุ 17 ปีชาวปาเลสไตน์ได้รับการปล่อยตัวหลังถูกจำคุกเกือบแปดเดือน หลังศาลทหารในเขตเวสท์ แบงค์ที่ปกครองโดยอิสราเอลตัดสินว่าเธอเป็นภัยต่อทหารที่มีอาวุธครบมือ

-       สองนักเคลื่อนไหวต่อต้านระบบทาสในประเทศมอริเตเนียได้รับการปล่อยตัวหลังจากถูกจำคุกไปแล้วสองปีจากโทษสามปี

-       สมัชชาแห่งชาติประเทศบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาได้ผ่านร่างกฎหมายคุ้มครองเหยื่ออาชญากรรมสงคราม ซึ่งจะยอมรับการมีตัวตนและช่วยเหลือผู้ถูกข่มขืน ทรมาน และเหยื่อความรุนแรงทางเพศในช่วงสงคราม หลังจากที่แอมเนสตี้และหลายๆกลุ่มในประเทศได้เรียกร้องกฎหมายนี้มาอย่างยาวนาน

 

สิงหาคม

 

-       หลังถูกกักขังมา 735 วัน นางเทพ วันนี นักปกป้องสิทธิมนุษยชนและพื้นที่ทำกินได้รับการปล่อยตัว พร้อมๆกับนักกิจกรรมและผู้ประท้วงจำนวนมากที่ได้รับอภัยโทษ โดยชาวแอมเนสตี้กว่า 200,000 คนได้มีส่วนร่วมในการเรียกร้องอิสระภาพของเธอ

 

กันยายน

 

-       หลังจากการจับกุมหมู่ชาวมุสลิมอุยกูร์ คาซัค และชนกลุ่มน้อยอื่นๆเข้าค่ายกักกันโดยทางการจีน ผู้สนับสนุนกว่า 38,000 คนได้ร่วมลงชื่อออนไลน์เรียกร้องให้ปล่อยตัวทันทีหลังแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นเนลประกาศเรื่องดังกล่าวไปเพียงไม่กี่วัน โดยชาวคาซัคคนหนึ่งในเขตคาซัคสถานได้บอกกับทางแอมเนสตี้ว่าเธอมั่นใจว่าหลานสาววัย 13 ปีได้รับการปล่อยตัวจากค่ายเพราะแรงผลักดันของผู้สนับสนุนทุกคน ในขณะเดียวกัน ชายชาวอุยกูร์ที่ถูกทางสหรัฐอาหรับเอมิเรทกักกันเตรียมส่งกลับจีนที่แอมเนสตี้จับตาอยู่ก็ได้รับการปล่อยตัวเช่นกัน

-       หลังจากการต่อสู้อย่างยาวนาน ศาลฎีกาประเทศอินเดียก็ได้ยกเลิกกฎหมายที่ลงโทษการร่วมเพศในผู้ใหญ่โดยสมัครใจ และเพิ่มเติมให้การเลือกปฏิบัติเพราะเพศสภาพถือเป็นการละเมิดสิทธิของประชาชนที่คุ้มครองโดยรัฐธรรมนูญ

-       การวิจัยและรณรงค์กับปัญหาด้านการละเมิดแรงงานในการ์ตาโดยแอมเนสตี้ยังคงดำเนินต่อไป โดยในเดือนนี้ทางการ์ตาได้ยกเลิกการขอใบอนุญาตออกนอกประเทศของแรงงานข้ามชาติ หลังระเบียบดังกล่าวบังคับให้แรงงานต่างชาติต้องขออนุญาตนายจ้างเพื่อออกนอกประเทศ โดยการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นการปฏิรูปร่วมกันระหว่างการ์ตาและองค์การแรงงานระหว่างประเทศ หลังจากทางแอมเนสตี้ได้รวบรวมหลักฐานและเปิดโปงปัญหาการละเมิดแรงงานอย่างกว้างขวางในการ์ตามาหลายปี

-       สภาสหภาพยุโรปได้ผ่านร่างกฏหมายห้ามประดิษฐ์ ผลิต และใช้งานระบบอาวุธอัตโนมัติหลังจากทางแอมเนสตี้ได้เคยเรียกร้องไว้ โดยระบบอาวุธอัตโนมัติได้รับการต่อต้านเพราะอาวุธดังกล่าวสามารถเลือกเป้าและปลิดชีพได้โดยที่มนุษย์ไม่มีส่วนควบคุมใดๆ

-       ในรวันดา ผู้นำฝ่ายค้าน วิกตัวร์ อินกาไบร์ และนักร้องชื่อดัง กิซิโตะ มิฮิโก ได้รับการปล่อยตัวหลังประธานาธิบดีคากาเมได้อภัยโทษให้ แม้ทั้งสองจะยังต้องอยู่ภายใต้ข้อจำกัด ทางแอมเนสตี้ก็ยอมรับว่าเป็นความเปลี่ยนแปลงที่ดี โดยคดีของวิกตัวร์ได้เป็นหัวข้อเรียกร้องของแอมเนสตี้มาระยะหนึ่งแล้ว เพราะเธอถูกดำเนินคดีจากการเรียกร้องสิทธิในการแสดงออก

 

ตุลาคม

 

-       เนื่องในวันต่อต้านการประหารชีวิตโลก รัฐบาลมาเลเซียที่พึ่งชนะการเลือกตั้งได้ประกาศถึงแผนการยุติโทษประหารชีวิต หลังการรณรงค์อย่างยาวนานตั้งแต่ในรัฐบาลก่อนหน้า และในวันต่อๆมา รัฐวอร์ชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ประกาศให้การประหารชีวิตผิดต่อกฎหมายของรัฐ ทำให้วอร์ชิงตันกลายเป็นรัฐที่ 20 ที่ยกเลิกการประหารชีวิต

-       แม นำ หรืออีกชื่อคือ แม่เห็ด บล็อคเกอร์ชาวเวียดนามที่เรียกร้องการอนุรักษ์ต้นน้ำและสิทธิมนุษยชนจนถูกตัดสินจำคุก 10 ปี ได้รับการปล่อยตัวในเดือนนี้ และแม้การปล่อยตัวของเธอจะเป็นสัญญาณที่ดีขึ้นของเวียดนาม แต่เธอก็ยังคงถูกเนรเทศและมีนักโทษทางความคิดจำนวนมากในคุกที่ถูกจับเพราะแสดงความเห็นบนโลกออนไลน์

 

พฤศจิกายน

 

-       หลังจากรณรงค์กันมาหลายปี ในที่สุดศาลก็ตัดสินไม่อนุญาตให้รัฐบาลแอฟริกาใต้ออกใบอนุญาตทำเหมืองไทเทเนียมในเขตโซโลเบนีจนกว่าจะได้รับความยินยอมจากชาวพื้นเมือง ซึ่งเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่ในที่สุดพวกเขาก็มีสิทธิเหนือแผ่นดินของบรรพชนพวกเขา

-       ชาวสวิตเซอร์แลนด์ได้แสดงพลังสนับสนุนสิทธิมนุษยชนด้วยการลงประชามติที่มีผลล้มล้างข้อเสนอที่จะทำให้กฎหมายภายในประเทศสวิสเซอร์แลนด์มีอำนาจเหนือกฎหมายระหว่างประเทศ

 

ธันวาคม

 

-       ในเดือนนี้ ทางแอมเนสตี้ได้เผยแพร่ รายงานผลกระทบที่ยังไม่มากพอ เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จที่เราได้รับในปีที่ผ่านมา รวมถึงผู้คนที่ทำให้ความสำเร็จนี้เป็นจริง แต่ที่สำคัญก็คือรายงานนี้จะสะท้อนให้เราเห็นว่าปัญหาที่เรายังต้องแก้ให้สำเร็จคืออะไร และผู้คนที่ยังคงดิ้นรนกับความอยุติธรรมเหล่านั้น

-       นอกจากนี้ เดือนนี้เรายังปล่อยโครงการ เขียนเปลี่ยนโลก ซึ่งเป็นกิจกรรมเขียนจดหมายที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยในปีนี้เราให้ความสำคัญกับนักปกป้องสิทธิมนุษยชนหญิงที่ถูกกักขัง ทรมาน หรือกระทั่งสังหารเพราะภารกิจของพวกเธอ เราต้องการแสดงให้เห็นว่าพวกเธอเหล่านี้ไม่ได้เดียวดาย เพราะยังมีผู้คนมากมายทั่วโลกที่รับรู้และจุดประกายแรงบันดาลใจจากการกระทำของพวกเธอ และสำหรับพวกคุณที่ได้ร่วมยืนหยัดกับพวกเธอและเขียนจดหมายส่งกำลังใจนับไม่ถ้วน ทางแอมเนสตี้ไม่อาจจะกล่าวคำขอบคุณได้เพียงพอสำหรับการสนับสนุนของพวกคุณทุกคน ทั้งทางจดหมายและการแสดงพลัง เพราะมันได้เปลี่ยนแปลงโลกจริงๆ