ประวัติศาสตร์ที่ถูกปิดบังของการชุมนุมประท้วงในจีน

2 มิถุนายน 2566

Amnesty International

4 มิถุนายน 2532 ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นวันที่ทางการจีนปราบปรามอย่างไร้ความปรานีต่อการชุมนุมประท้วงโดยสงบ

กองกำลังทหารจีนได้ยิงประชาชนเสียชีวิตหลายร้อยคนหรืออาจจะหลายพันคน ซึ่งได้ลงไปเดินบนถนนในจัตุรัสเทียนอันเหมินของกรุงปักกิ่งและบริเวณโดยรอบเพื่อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปการเมือง ไม่มีใครทราบจำนวนผู้เสียชีวิตที่แท้จริง เนื่องจากการพูดคุยเกี่ยวกับการปราบปรามดังกล่าวถูกเซ็นเซอร์อย่างหนักจนถึงทุกวันนี้

34 ปีผ่านไป สิทธิในเสรีภาพการชุมนุมโดยสงบยังคงถูกจำกัดอย่างเข้มงวดในจีนแผ่นดินใหญ่ ทางการระบุว่าการชุมนุมประท้วงและการชุมนุมสาธารณะถือเป็น “การขัดขวางความสงบเรียบร้อย” และภายใต้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง การจำกัดยิ่งเข้มงวดมากขึ้น ทำให้การแสดงออกผ่านการชุมนุมประท้วงในที่สาธารณะนั้นเกิดขึ้นน้อยมาก

แต่ผู้คนที่กล้าหาญบางกลุ่มก็ยังรวมตัวกันเพื่อแสดงออกแม้จะเสี่ยงกับการถูกจับกุมก็ตาม

หนึ่งในตัวอย่างล่าสุดคือช่วงปลายปี 2565 เมื่อผู้คนทั่วประเทศจีนจำนวนหลายพันคนออกมาแสดงความโกรธแค้นเกี่ยวกับข้อบังคับในการควบคุมโรคโควิด-19 ในเวลานั้น การชุมนุมประท้วงทั่วประเทศ ซึ่งเกิดจากเหตุเพลิงไหม้ที่อาคารอพาร์ตเมนต์ที่มีมาตรการล็อกดาวน์ในเมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือของอุรุมชี ถือเป็นการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศในรอบหลายปี

แต่ในความเป็นจริง นักกิจกรรมชาวจีนมีประวัติศาสตร์การชุมนุมประท้วงที่ยาวนานหลังจากเหตุการณ์เทียนอันเหมิน แม้จะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีการปราบปรามอย่างหนักก็ตาม

 

2565: การชุมนุมประท้วงด้วย 'กระดาษเปล่า'

ในเดือนพฤศจิกายน 2565 วิดีโอที่แชร์บนโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นการชุมนุมประท้วงที่เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัยและเมืองต่างๆ ทั่วประเทศจีน รวมถึงในปักกิ่ง กวางตุ้ง เซี่ยงไฮ้ และอู่ฮั่น ผู้ชุมนุมประท้วงโดยสงบร่วมไว้อาลัยเหยื่อเหตุไฟไหม้ในอุรุมชี และเรียกร้องให้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ หลายคนเรียกร้องให้ยุติการเซ็นเซอร์ และบางคนเรียกร้องให้ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงลงจากตำแหน่ง

ขนาดและความดุเดือดที่ไม่คาดคิดของการชุมนุมประท้วงแสดงให้เห็นว่าผู้คนจำนวนมากในจีนเต็มใจที่จะเผชิญกับความเสี่ยงสูงที่จะถูกดำเนินคดีเพียงเพื่อแสดงออก โดยมีผู้ประท้วงจำนวนมากถูกจับกุมหลังจากนั้น

พื้นที่สำหรับการชุมนุมประท้วงอย่างอิสระในระดับดังกล่าวในจีนแทบไม่มีอยู่จริง แต่การชุมนุมประท้วงด้วยการชู "กระดาษเปล่า" แสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญของผู้คนในจีน

 

2561: ขบวนการแรงงาน Jasic

ในเดือนกรกฎาคม 2561 คนงานของ Jasic Technology ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องเชื่อมในเมืองทางตอนใต้ของเซินเจิ้นในจีน พยายามจัดตั้งสหภาพแรงงาน หลายวันต่อมา คนงาน 3 คนถูกจับ

นักศึกษามหาวิทยาลัย ผู้สนับสนุนสิทธิแรงงาน และคนงานอื่นๆ ถูกควบคุมตัวหรือถูกคุกคามเนื่องจากมีส่วนร่วมในการชุมนุมประท้วงต่อต้านการจับกุมดังกล่าว กลุ่มมาร์กซิสต์ในมหาวิทยาลัยหลายกลุ่มที่เคลื่อนไหวในขบวนการ Jasic ถูกยุบหรือถูกบังคับให้ปรับโครงสร้างในที่สุด

 

การชุมนุมประท้วงต่อต้านนโยบายโควิดเป็นศูนย์ในเซี่ยงไฮ้ในเดือนพฤศจิกายน 2565 (Getty Images)

 

2555-2563: ขบวนการพลเมืองใหม่

ขบวนการพลเมืองใหม่ (New Citizens’ Movement) เป็นเครือข่ายหลวมๆ ของนักกิจกรรมชาวจีนที่ก่อตั้งโดย สวี่ จื้อหย่ง (Xu Zhiyong) นักวิชาการด้านกฎหมายในปี 2555 เพื่อส่งเสริมความโปร่งใสของรัฐบาลและเปิดโปงการทุจริต

นักกฎหมายและนักกิจกรรมหลายสิบคนที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายตกเป็นเป้าหมายหลังจากเข้าร่วมการชุมนุมอย่างไม่เป็นทางการที่จัดขึ้นที่เมืองเซี่ยเหมินทางชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของจีนในเดือนธันวาคม 2562 กลุ่มดังกล่าวซึ่งรวมถึงสวี่ ได้ประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ภาคประชาสังคมและสถานการณ์ปัจจุบันในจีน

ต่อมาในเดือนนั้น ตำรวจทั่วประเทศเริ่มออกหมายเรียกหรือควบคุมตัวผู้เข้าร่วมการชุมนุมที่เมืองเซี่ยเหมิน สวี่และติง จยาสี่ (Ding Jiaxi) ทนายความสิทธิมนุษยชน ถูกตัดสินจำคุก 14 และ 12 ปีตามลำดับในเดือนเมษายน 2566

 

2555-2558: ขบวนการสตรีนิยม

นับตั้งแต่สี จิ้นผิง ขึ้นสู่อำนาจในปี 2555 พื้นที่ในการใช้สิทธิในเสรีภาพการแสดงออกและการชุมนุมโดยสงบที่จำกัดอยู่แล้วก็ลดน้อยลงไปอีก กลายเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สำหรับนักกิจกรรมและกลุ่มต่างๆ ในการขับเคลื่อนชุมนุมประท้วงในที่สาธารณะ เนื่องจากการเซ็นเซอร์ออนไลน์ที่เข้มข้นขึ้นและการเพิ่มการควบคุมองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) เช่น ผ่าน 'กฎหมาย NGO ต่างชาติ'

อย่างไรก็ตาม ผู้คนยังคงชุมนุมประท้วงอยู่ ตัวอย่างเช่น ขบวนการสตรีนิยมใหม่ที่เกิดขึ้นในปี 2555 ซึ่งเป็นที่รู้จักจากกิจกรรมบนท้องถนนและการชุมนุมประท้วงเพื่อสิทธิสตรี "ระดับอะตอม" ซึ่งบางครั้งมีคนเพียงคนเดียวที่ทำการประท้วง

รัฐบาลจีนได้เริ่มปราบปรามขบวนการสตรีนิยมอย่างเป็นระบบ กลยุทธ์ต่างๆ รวมถึงการรณรงค์สร้างภาพที่เลวร้ายและการคุกคามสมาชิกสตรี การปิดกลุ่มเพศต่างๆ ในมหาวิทยาลัย และการเซ็นเซอร์การสนทนาออนไลน์เกี่ยวกับเพศและสิทธิสตรี ในปี 2558 สมาชิกคนสำคัญ 5 คนของกลุ่มถูกจับกุมและควบคุมตัว

ทุกวันนี้ นักกิจกรรมสตรีนิยมชาวจีนยังคงทำงานต่อไปด้วยการจัดแบบออฟไลน์และการเคลื่อนไหวในต่างประเทศ

 

2554: 'การปฏิวัติดอกมะลิ' การชุมนุมประท้วงเพื่อประชาธิปไตย 

การชุมนุมประท้วง 'อาหรับสปริง' ในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ เริ่มต้นจาก 'การปฏิวัติดอกมะลิ' ของตูนิเซียในปลายปี 2553 ทำให้เกิดการเรียกร้องออนไลน์สำหรับชุมนุมการประท้วงในจีน สื่อของรัฐระบุว่าการชุมนุมและการประท้วงเป็น “การรขัดขวางความสงบเรียบร้อย” และอ้างว่าสื่อต่างประเทศล้อเลียนการชุมนุมประท้วงว่าเป็น “ศิลปะการแสดง”

นักกิจกรรมมากกว่า 100 คน ซึ่งจำนวนมากเคลื่อนไหวบนทวิตเตอร์และบล็อก ถูกควบคุมตัว หรือถูกสอดแนมข้อมูลหรือกักตัวในบ้านอย่างผิดกฎหมาย บางส่วนยังคงสูญหายไป ตั้งแต่นั้นมา คำว่า "ศิลปะการแสดง" ก็ถูกใช้โดยนักกิจกรรมเพื่อหลบเลี่ยงการเซ็นเซอร์

 

2542: ฝ่าหลุนกงชุมนุมประท้วงในปักกิ่ง

สมาชิกกลุ่มฝ่าหลุนกงกว่า 10,000 คน ชุมนุมประท้วงเงียบในปักกิ่ง เพื่อต่อการที่รัฐบาลคุกคามสมาชิกของขบวนการด้านจิตวิญญาณนี้ ซึ่งมีสมาชิกจำนวนมากในจีนในช่วงทศวรรษ 1990

รัฐบาลจีนตอบโต้ด้วยการออกกฎหมายให้กลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มนอกกฎหมาย และเริ่มการรณรงค์ข่มขู่และประหัตประหาร ซึ่งควบคุมโดยองค์กรพิเศษที่เรียกว่าสำนักงาน 610 มีผู้ฝึกฝ่าหลุนกงหลายหมื่นคนถูกควบคุมตัวโดยพลการและจำนวนมากถูกทรมานนับตั้งแต่ขบวนการถูกสั่งห้าม

 

4 มิถุนายน 2566

การรำลึกถึงในที่สาธารณะหรือแม้แต่การกล่าวถึงการปราบปรามที่เทียนอันเหมินยังคงถูกห้ามในจีน พิธีรำลึกประจำปีที่ฮ่องกงเพื่อไว้อาลัยเหยื่อจากการปราบปรามมีขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 30 ปีและมีผู้อยู่อาศัยในเมืองเข้าร่วมหลายแสนคน แต่สิ่งนี้ก็ถูกสั่งห้ามเช่นกันตั้งแต่ปี 2563 เนื่องจากการปราบปรามในเมืองเพิ่มขึ้นหลังจากการออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติโดยรัฐบาลปักกิ่ง ผู้จัดพิธีรำลึกบางคน เช่น โจว ฮั่ง ถง (Chow Hang-tung) ทนายความสิทธิมนุษยชนถูกควบคุมตัว

ถึงกระนั้น ผู้คนในฮ่องกง ในจีนแผ่นดินใหญ่ และทั่วโลกยังคงต่อสู้เพื่อสิทธิในเสรีภาพการชุมนุมในจีน การชุมนุมประท้วงโดยสงบอาจถูกปราบปรามอย่างไร้ความปรานี แต่ไม่สามารถถูกทำให้เงียบสนิทได้