ในช่วงไตรมาส 3 ตั้งแต่เดือนกรกฏาคมถึงกันยายนของปี 2568 มีการชุมนุมเกิดขึ้นทั่วประเทศไม่น้อยกว่า 52 การชุมนุม และถ้าหากนับการชุมนุมปักหลักค้างคืน จะพบว่าการชุมนุมเกิดขึ้นรวมถึง 229 ครั้ง ซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าเพียง 3 ครั้งเท่านั้น ชี้ให้เห็นว่ารูปแบบการชุมนุมในลักษณะพักค้างคืนยังคงไม่ได้รับตอบสนองที่น่าพอใจและยังต้องดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง
บทความนี้นำเสนอภาพรวมสถานการณ์สิทธิในการชุมนุมโดยสงบในประเทศไทยผ่านการวิเคราะห์เชิงลึกถึงจำนวนการชุมนุม ประเด็นสำคัญที่ถูกยกขึ้นในการชุมนุม และรูปแบบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐภายใต้พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 นอกจากนี้ ยังมีบทวิเคราะห์สถานการณ์ดังกล่าวในบริบทของกฎหมายไทยที่เกี่ยวข้อง รวมถึงมาตรฐานสิทธิมนุษยชนสากล เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนและครบถ้วนถึงการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่และการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการแสดงออกทางการเมืองผ่านการชุมนุมโดยสงบ
ภาพรวมสถานการณ์
การชุมนุมแบบค้างคืนหลัก 2 กรณีใหญ่ ได้แก่
- กลุ่มคนงานยานภัณฑ์และแนวร่วมชุมนุมค้างคืนเพื่อเรียกร้องงบกลางกับรัฐบาล ตั้งแต่ 12 มีนาคม 2568 จนถึง 30 กันยายน 2568 รวม 204 วัน
- กลุ่ม เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) พร้อมกับ ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และ กองทัพธรรม ปักหลักชุมนุมข้างทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่ 2 มีนาคม 2568 จนถึง 30 กันยายน 2568 รวม 213 วัน เพื่อคัดค้านร่าง กฎหมายกาสิโน และเรียกร้องให้ นายกรัฐมนตรีลาออก

แนวโน้มประเด็นการชุมนุม
ในไตรมาสนี้ ประเด็นที่มีการเคลื่อนไหวมากที่สุดคือ
- ประเด็นทางการเมือง ซึ่งมีมากถึง 27 การชุมนุม แตกต่างจากไตรมาสก่อนที่ประเด็นสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (ESCR) เป็นอันดับหนึ่ง เนื่องจากในไตรมาส 3 มีจำนวนคดีที่พิพากษาและจำคุกมากขึ้น และในเดือนกรกฎาคมที่รัฐสภามีวาระโหวตรับหลักการ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม จึงมีการชุมนุมเรียกร้องสิทธิประกันตัวและนิรโทษกรรมผู้ถูกจำคุกจากการใช้สิทธิเสรีภาพ
- ประเด็น ESCR อยู่ที่ 20 การชุมนุม โดยเป็นเรื่องเกี่ยวกับสิทธิที่อยู่อาศัย สิทธิแรงงาน และการกระจายอำนาจในการจัดการที่ดินทำกิน
- ประเด็นความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา มีการจัดชุมนุม 4 การชุมนุม ซึ่งเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมทั้งหมด ก่อนข้อตกลงหยุดยิง
- ประเด็นสันติภาพ มีทั้งหมด 1 การชุมนุม เนื่องในวันสันติภาพสากล 21 กันยายน
การปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ และกรอบกฎหมาย
พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 ยังคงเป็นเครื่องมือหลักที่ถูกนำมาใช้ควบคุมการชุมนุมโดยเฉพาะมาตรา 7 ที่ให้อำนาจเจ้าหน้าห้ามชุมนุมในรัศมี 50 เมตรรอบทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภาในบางกรณี ในไตรมาส 3 มีคำสั่งห้ามชุมนุมรอบทำเนียบฯ ตามคำสั่ง 375/2568 ตั้งแต่ 29 สิงหาคม ถึง 24 กันยายน 2568
ในด้านสิทธิมนุษยชนสากล ประเทศไทย ในฐานะภาคี International Covenant on Civil and Political Rights (ICCPR) ต้องเคารพหลักการว่า ผู้ร่วมชุมนุมควรได้รับอนุญาต และสามารถอยู่ในพื้นที่ที่ “มองเห็นและได้ยิน” ได้ แต่การใช้คำสั่งห้ามชุมนุม หรือการบังคับใช้ มาตรา 7 ขัดต่อหลักการนี้
สาระสำคัญเกี่ยวกับการชุมนุมรายเดือน
- กรกฎาคม : อย่างน้อย 24 การชุมนุม (กทม. 16 ครั้ง, ต่างจังหวัด 8) ประเด็นทางการเมือง 13 ครั้ง
- สิงหาคม : อย่างน้อย 14 การชุมนุม (กทม. 3, ต่างจังหวัด 11) ประเด็นทางการเมือง 6 ครั้ง และ ESCR 8 ครั้ง
- กันยายน : อย่างน้อย 14 การชุมนุม (กทม. 9, ต่างจังหวัด 5) ประเด็นทางการเมือง 8 ครั้ง และ ESCR 5 ครั้ง
บทวิเคราะห์และข้อสังเกต
สถานการณ์จากไตรมาสสามของปี 2568 การชุมนุมเกิดขึ้นในทุกเดือนส่วนใหญ่จะเป็นการชุมนุมทางการเมือง และเป็นประเด็นสิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม (Economic, Social and Cultural Rights: ESCR) แม้การชุมนุมต่าง ๆ ได้ยุติลงไปแต่ขณะเดียวกัน ข้อเรียกร้องต่าง ๆ จากกลุ่มผู้ชุมนุมที่มีต่อรัฐบาล แต่ละการชุมนุมยังไม่ได้ถูกรับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม โครงการเมกะโปรเจกต์ ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ (Southern Economic Corridor) หรือ SEC ยังคงดำเนินต่อไป และกฎหมายภายใต้โครงการดังกล่าวพัฒนาขั้นตอนถึงขั้นรับฟังความเห็นของตัวร่างกฎหมายเวที ค.3 ท่ามกลางกระแสต่อต้านของผูู้ชุมนุมกลุ่มเครือข่ายประชาชนไม่เอากฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษ , ปัญหาของเหมืองโปรแตซยังไม่ได้รับการแก้ไข รวมถึงกลุ่มยานภัณฑ์ที่ยังคงปักหลักเรียกร้องความช่วยเหลือจากรัฐบาล ในขณะที่กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่ยังคงปักหลักค้างคืน นอกจากนี้การชุมนุมเรียกร้องให้ยุติ การดำเนินคดีกับผู้ที่ใช้สิทธิในเสรีภาพ ในการแสดงออก และการชุมนุม ยังมีการชุมนุมต่อเนื่อง ซึ่งปัจจัยที่อาจส่งผลกับกระแสการชุมนุมอีกครั้งคือผลการโหวตกฎหมายนิรโทษกรรมประชาชนในวาระถัดไป
จากสถานการณ์ที่ไม่ได้รับการแก้ไขตามข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุมแต่ละกลุ่ม และประเด็นบางอย่างยังคงดำเนินการต่อเนื่องไปในไตรมาสที่สามของปี 2568 จึงอาจจะวิเคราะห์ได้ว่า ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2568 ยังคงมีการชุมนุมเกิดขึ้นในลักษณะเดียวกันกับไตรมาสสาม การบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการชุมนุมยังคงไม่มีนโยบายใด ๆ ที่จะรับรองเสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบอย่างเป็นรูปธรรม
ข้อเสนอแนะ
- รัฐบาลต้องทบทวนหรือแก้ไขหมายที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมสาธารณะ โดยเฉพาะ พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ให้สอดคล้องกับพันธกรณีระหว่างประเทศ โดยเฉพาะ ICCPR
- ต้องเปิดช่องการเจรจาและแก้ไขข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมโดยเฉพาะ ประเด็น ESCR อย่างจริงจัง ทั้งนี้โครงการพัฒนาหรือการเปลี่ยนผ่านใดๆต้องไม่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการละเมิดสิทธิมยุษยชน
- เจ้าหน้าที่ตำรวจควรยุติการใช้มาตรการควบคุมการชุมนุมและใช้กำลังที่เกินกว่าเหตุ และต้องรับประกันว่าการใช้คำสั่งห้ามชุมนุมจะไม่เป็นอุปสรรคต่อสิทธิในการแสดงออก โดยต้องส่งเสริมและอำนวยความสะดวกต่อการชุมนุมโดยสงบ
คลิกเพื่อดาวน์โหลดและอ่าน รายงานสถานการณ์สิทธิในเสรีภาพในการชุมนุม ไตรมาสสาม ปี 2568




