การสกัดจับที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายต่อกองเรือโกลบอล ซูมุด ฟอร์ทิลลาของอิสราเอล สะท้อนถึงเจตนาที่มุ่งทำให้เกิดความอดอยากของชาวปาเลสไตน์ในกาซาต่อไป 

สืบเนื่องจากรายงานที่ระบุว่า กองกำลังอิสราเอลได้สกัดและยึดเรืออย่างน้อย 39 ลำ พร้อมควบคุมตัวลูกเรือหลายสิบคน ของกองเรือโกลบอล ซูมุด ฟอร์ทิลลา ซึ่งพยายามฝ่าการปิดล้อมที่ถูกมองว่าเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่จำเป็นเข้าไปในฉนวนกาซาซึ่งถูกปิดล้อมอยู่แล้ว ภายใต้สถานการณ์ที่อิสราเอลยังคงถูกกล่าวหาว่ากำลังก่อ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างต่อเนื่อง โดยแอกเนส คาลามาร์ดเลขาธิการสากลของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวถึงประเด็นนี้ว่า  

การใช้กำลังของอิสราเอลเพื่อสกัดจับกองเรือโกลบอล ซูมุด ฟอร์ทิลลา และการควบคุมตัวลูกเรือบริเวณชายฝั่งของกาซา เป็นการโจมตีที่ไร้ยางอายต่อนักกิจกรรมที่มุ่งแสดงความเป็นเอกภาพ ผ่านปฏิบัติการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างสงบ การสกัดจับเกิดขึ้น หลังเจ้าหน้าที่อิสราเอลได้ข่มขู่และยั่วยุกองเรือและผู้เข้าร่วมอย่างต่อเนื่อง และหลังจากความพยายามหลายครั้งที่จะโจมตีเรือบางส่วน 

ความพยายามอย่างจริงจังที่จะสกัดกั้นการส่งความช่วยเหลือที่จำเป็นอย่างยิ่งให้กับประชากร ซึ่งกำลังตกเป็นเหยื่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอล รวมทั้งการทำให้เกิดสภาพอดอยากขาดแคลน แสดงให้เห็นอีกครั้งหนึ่งว่า อิสราเอลดูหมิ่นเหยียดหยามคำสั่งที่มีผลบังคับตามกฎหมายของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ และดูหมิ่นเหยียดหยามพันธกรณีของตนเองในฐานะเป็นกองกำลังที่ยึดครอง ที่จะต้องดูแลให้ชาวปาเลสไตน์ในกาซาสามารถเข้าถึงอาหารและความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่จำเป็นต่อชีวิตอย่างพอเพียง 

แอกเนส คาลามาร์ด กล่าวอีกว่า ลูกเรือของเรือที่ถูกสกัดจับ ต้องได้รับการปล่อยตัวทันทีและไม่มีเงื่อนไข เพราะการควบคุมตัวพวกเขาเกิดขึ้นอย่างมิชอบด้วยกฎหมาย และอิสราเอลต้องรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อความปลอดภัยของพวกเขารวมทั้งดูแลให้พวกเขาได้รับความคุ้มครอง ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการปฏิบัติที่โหดร้าย ก่อนจะปล่อยตัวพวกเขาออกมา 

การสกัดจับครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการสกัดกั้นการส่งความช่วยเหลือ หากเป็นการดำเนินงานอย่างจงใจเพื่อ ข่มขู่ ลงโทษ และปิดปากผู้วิจารณ์ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และการปิดล้อมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของอิสราเอลในกาซา

แอกเนส คาลามาร์ด เลขาธิการสากลของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล

การสกัดจับครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นการสกัดกั้นการส่งความช่วยเหลือ หากเป็นการดำเนินงานอย่างจงใจเพื่อ ข่มขู่ ลงโทษ และปิดปากผู้วิจารณ์ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และการปิดล้อมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของอิสราเอลในกาซา การยั่วยุและการข่มขู่ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เป็นการดำเนินงานที่ไร้ยางอายเช่นกัน อีกทั้งยังเป็นการสร้างภาพที่เลวร้ายให้กับกิจกรรมแสดงความเป็นเอกภาพอย่างสงบ และความพยายามที่จะยุติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และการปิดล้อมที่ทารุณต่อกาซาของอิสราเอลตั้งแต่ปี 2550 ซึ่งการปิดล้อมนั้นเข้มงวดขึ้นอย่างมากนับแต่เดือนตุลาคม 2566 เรากังวลอย่างยิ่งต่อ ความปลอดภัยของผู้ที่ถูกควบคุมตัวจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะตัวแทนจากประเทศอาหรับและนักกิจกรรม ซึ่งตกเป็นเป้าหมายของการรณรงค์ยั่วยุเพื่อสร้างภาพที่เลวร้าย” 

แอกเนส กล่าวอีกว่า กองเรือโกลบอล ซูมุด ฟอร์ทิลลา ซึ่งมีลูกเรือประกอบด้วยนักปกป้องสิทธิมนุษยชน แพทย์ สมาชิกรัฐสภา นักกิจกรรม และผู้สื่อข่าวจากกว่า 40 ประเทศ และกิจกรรมที่จัดขึ้นอย่างสงบก่อนหน้านี้อื่นๆ เพื่อพยายามที่จะฝ่าการปิดล้อมที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของอิสราเอลเป็นสัญลักษณ์ที่ทรงพลัง เพื่อแสดงความเป็นเอกภาพกับชาวปาเลสไตน์ผู้ที่ถูกปิดล้อม ผู้ที่ถูกทำให้อดอยาก และต้องทนทุกข์ทรมานในฉนวนกาซา การที่พวกเขาต้องตัดสินใจเดินเรือในทะเลครั้งนี้ เป็นข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนถึงความล้มเหลวอย่างต่อเนื่องของประชาคมระหว่างประเทศ ที่จะยุติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์อย่างต่อเนื่องของอิสราเอล และดำเนินการให้มีการจัดส่งความช่วยเหลืออย่างไม่มีการปิดกั้นให้กับชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา 

หมดเวลากับการประณามเพียงอย่างเดียว รัฐต่างๆ ทั่วโลกต้องดำเนินงานทันที และประกาศอย่างชัดเจนว่า พวกเขาจะไม่ยอมให้อิสราเอลสร้างความอดอยากอย่างเป็นระบบให้กับชาวปาเลสไตน์ในกาซา หรือการโจมตีทำร้ายพลเรือนที่ไม่มีอาวุธที่พยายามส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอีกต่อไป การลอยนวลพ้นผิดมาหลายทศวรรษ แม้อิสราเอลจะละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน ต้องยุติลง ไม่มีเหตุผลใดๆ ที่สนับสนุนการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ 

รัฐต่างๆ ต้องเรียกร้องให้ส่งตัวผู้ที่ถูกควบคุมตัวกลับมาทันทีอย่างปลอดภัย และอนุญาตให้เรืออื่นๆ สามารถเข้าถึงกาซาได้อย่างไม่มีการปิดกั้น ทั้งยังต้องกดดันให้อิสราเอลยกเลิกการปิดล้อมที่สร้างความยากลำบากมา 18 ปี และอนุญาตให้มีการจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผ่านจุดผ่านแดนทุกแห่ง เข้าไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วกาซาทันที”  

ปกป้องเสรีภาพการแสดงออก

สิทธิของบุคคลทุกคนที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออก การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และการแสดงความคิดเห็น เป็นสิทธิในระดับสากลที่ได้รับการรับรองตามกฎหมายระหว่างประเทศ

สนับสนุนความเท่าเทียม

เราทุกคนต้องได้รับการปกป้องจากการถูกเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งการแสดงออกตามอัตลักษณ์ทางเพศ รสนิยมทางเพศและเพศวิธี ภายใต้หลักการด้านสิทธิมนุษยชน