อินโดนีเซีย: ทางการต้องสอบสวนการเสียชีวิตของผู้ชุมนุมประท้วงแปดราย ภายหลังการปราบปรามอย่างรุนแรง  

จากกรณีที่รัฐบาลอินโดนีเซียแถลงว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อยแปดคนระหว่างการชุมนุมประท้วงทั่วประเทศ เพื่อต่อต้านปัญหาค่าแรงตกต่ำ การขึ้นภาษี และการให้สวัสดิการกับสมาชิกรัฐสภา ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคมเป็นต้นมา  

มอนต์เซ เฟอร์เรอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยภูมิภาค แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเผยว่า เป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างยิ่งที่ยังคงมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น จากการปราบปรามการชุมนุมประท้วงในกรุงจาการ์ตาและในภูมิภาคอื่นๆ ของอินโดนีเซีย ไม่ควรมีบุคคลใดเสียชีวิตจากการใช้สิทธิในเสรีภาพการแสดงออกและการชุมนุมประท้วงโดยสงบ  

ทางการอินโดนีเซียต้องดำเนินการโดยทันที เพื่อให้มีการสอบสวนอย่างเป็นอิสระ เป็นกลาง และปราศจากอคติต่อการเสียชีวิตและเหตุความรุนแรงเหล่านี้ รวมถึงกรณีการสังหารคนขับมอเตอ์ไซค์หลังถูกรถหุ้มเกราะของตำรวจขับชนอย่างประมาทในพื้นที่ที่มีประชาชนอยู่จำนวนมาก ทางการต้องดำเนินการให้สามารถระบุตัว และนำผู้ที่รับผิดชอบต่อการเสียชีวิตเหล่านี้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมที่เป็นธรรม   

แม้การชุมนุมประท้วงส่วนใหญ่จะเป็นไปโดยสงบ แต่ตำรวจในหลายเมืองของอินโดนีเซีย รวมทั้งในจาการ์ตา กลับใช้กำลังโดยไม่จำเป็นและเกินขอบเขตในหลายครั้ง รวมทั้งการใช้แก๊สน้ำตาอย่างไม่เหมาะสม และเกินขอบเขตเพื่อสลายการชุมนุมประท้วง  

  เป็นเรื่องน่าตำหนิอย่างยิ่งที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติออกคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ใช้กระสุนยางยิงผู้ชุมนุมประท้วงที่บุกไปในพื้นที่ของกองบัญชาการกองพลเคลื่อนที่ในกรุงจาการ์ตา การใช้อาวุธเหล่านี้ควรเกิดขึ้นเฉพาะในสภาพการณ์ที่เป็นข้อยกเว้นเท่านั้น เช่น ในกรณีที่เกิดความไม่สงบที่มีการใช้ความรุนแรงและอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อบุคคลอื่น ทั้งนี้อาวุธดังกล่าวต้องใช้โดยเจ้าหน้าที่ที่ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างเหมาะสม และต้องไม่ถูกยิงแบบสุ่มเข้าไปในฝูงชน แต่ต้องเล็งเป้าหมายเฉพาะบุคคลที่ใช้ความรุนแรงต่อบุคคลอื่น และเฉพาะเมื่อมาตราการอื่นไม่สามารถหยุดยั้งความรุนแรงได้แล้ว  

  รัฐบาลอินโดนีเซียต้องไม่อ้างเหตุความรุนแรงจากผู้ชุมนุมประท้วงเพียงบางส่วนมาเป็นข้ออ้างเพื่อปราบปรามการชุมนุมประท้วงโดยสงบอย่างรุนแรงอีกต่อไป แทนที่จะใช้วิธีการเช่นนั้น ทางการควรเคารพ อำนวยความสะดวก และคุ้มครองสิทธิของประชาชนในการชุมนุมประท้วงโดยสงบ และแสดงความเห็นได้อย่างเสรี”  

ข้อมูลพื้นฐาน  

  การชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่สุดในรอบหลายปีของอินโดนีเซีย เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2568 และนำไปสู่การปราบปรามอย่างรุนแรงทั่วประเทศ  

ในกรุงจาการ์ตา คนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างคนหนึ่งถูกสังหาร โดยถูกตำรวจขับรถหุ้มเกราะทับอย่างประมาท ระหว่างการขับขี่ใกล้กับฝูงชนในกรุงจาการ์ตาเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม ส่งผลให้มีการสอบสวนเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ็ดนาย ในวันต่อมา ข้าราชการสามคนและเจ้าหน้าที่คนหนึ่งจากหน่วยงานตำรวจในท้องถิ่น (Civil Service Police Unit) ในเมืองมากัซซาร์ จังหวัดสุลาเวสีตอนใต้ ถูกสังหาร หลังจากบุคคลที่ไม่ทราบชื่อได้วางเพลิงเผาอาคารรัฐสภาระดับภูมิภาค เนื่องจากการปะทะกับตำรวจ ในวันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม คนขับมอเตอร์ไซค์รับจ้างคนหนึ่งถูกฝูงชนสังหารที่กรุงมากัซซาร์ เพราะถูกกล่าวหาว่าเป็นสายให้ตำรวจ  

ในเมืองโซโล จังหวัดชวาตอนกลาง คนขับรถสามล้อถีบเสียชีวิตโดยคาดว่าเป็นเพราะถูกยิงด้วยแก๊สน้ำตาจากตำรวจ ระหว่างการเผชิญหน้ากันกับผู้ประท้วงในวันศุกร์ที่ 29 สิงหาคม  

ในเมืองยอร์กยากาตา จังหวัดยอร์กยากาตา นักศึกษาคนหนึ่งเสียชีวิตโดยตามข้อกล่าวหาเป็นเพราะถูกตำรวจซ้อม และตำรวจเหล่านี้ยังได้ยิงแก๊สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมประท้วงใกล้กับศูนย์บัญชาการตำรวจเมื่อวันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม   

ปกป้องเสรีภาพการแสดงออก

สิทธิของบุคคลทุกคนที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออก การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และการแสดงความคิดเห็น เป็นสิทธิในระดับสากลที่ได้รับการรับรองตามกฎหมายระหว่างประเทศ

สนับสนุนความเท่าเทียม

เราทุกคนต้องได้รับการปกป้องจากการถูกเลือกปฏิบัติด้วยเหตุแห่งการแสดงออกตามอัตลักษณ์ทางเพศ รสนิยมทางเพศและเพศวิธี ภายใต้หลักการด้านสิทธิมนุษยชน