แอกเนส คาลามาร์ด เลขาธิการ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ให้ความเห็นเกี่ยวกับข่าวที่โรดริโก ดูเตอร์เต อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ถูกทางการฟิลิปปินส์จับกุมตามหมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ในข้อหาก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติจากการฆาตกรรมที่เกี่ยวข้องกับการสังหารในระหว่าง “สงครามปราบปรามยาเสพติด” โดยกล่าวว่า
“การจับกุมโรดริโก ดูเตอร์เตเป็นก้าวสำคัญสู่ความยุติธรรมที่รอคอยมานานสำหรับเหยื่อและผู้รอดชีวิตนับพันคนจาก “สงครามปราบปรามยาเสพติด” ของรัฐบาลของเขา ซึ่งทำให้ฟิลิปปินส์กลายเป็นประเทศแห่งความเศร้าสลด เขาเป็นผู้ชายที่บอกว่า “หน้าที่ของผมคือการสังหาร” และเป็นผู้ควบคุมการสังหารเหยื่อ รวมถึงเด็ก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสังหารที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐอย่างจงใจ อย่างแพร่หลาย และมีการจัดตั้งเป็นอย่างดี
“การจับกุมดูเตอร์เตตามหมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศเป็นสัญญาณแห่งความหวังสำหรับเหยื่อในฟิลิปปินส์และที่อื่นๆ แสดงให้เห็นว่าผู้ต้องสงสัยในคดีอาชญากรรมที่ร้ายแรงสุด รวมถึงผู้นำรัฐบาล จะต้องถูกนำตัวมาลงโทษ ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ใดในโลกก็ตาม ในช่วงเวลาที่รัฐบาลจำนวนมากละเมิดพันธกรณีของศาลอาญาระหว่างประเทศ ขณะที่รัฐบาลอื่นๆ โจมตีหรือคว่ำบาตรศาลระหว่างประเทศ การจับกุมดูเตอร์เตถือเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับอำนาจของกฎหมายระหว่างประเทศ
“รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ดำเนินการอย่างเด็ดขาด และควรได้รับคำชมเชย แต่ความรับผิดชอบจะต้องไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ การสอบสวนของศาลอาญาระหว่างประเทศครอบคลุมเฉพาะอาชญากรรมบางส่วนที่เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาเท่านั้น
“อดีตประธานาธิบดีดูเตอร์เตเป็นศูนย์กลางของวิกฤตสิทธิมนุษยชนร้ายแรงในประเทศ แต่เขาไม่ใช่ผู้ต้องสงสัยคนเดียวที่ต้องรับผิดทางอาญา ทั้งการละเมิดต่างๆ ก็ไม่ได้หยุดลงหลังจากเขาลงจากตำแหน่ง รัฐบาลชุดปัจจุบันมีหน้าที่ที่จะต้องสอบสวนและดำเนินคดี โดยต้องไม่หยุดเพียงแค่การจับกุมเขาเท่านั้น แต่ควรขยายไปถึงความรับผิดในระดับประเทศ สำหรับผู้ที่รับผิดชอบต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั้งหมดใน ‘สงครามปราบยาเสพติด’
“ทางการฟิลิปปินส์ต้องส่งตัวดูเตอร์เตไปยังศาลอาญาระหว่างประเทศในกรุงเฮก เพื่อเข้ารับการพิจารณาคดีในข้อหาอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ โดยระหว่างรอการส่งตัวนี้ จะต้องมีหลักประกันว่าเขาจะได้รับการพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรมและได้รับสิทธิทางกฎหมายอื่นๆ อย่างเคร่งครัดในขณะที่ถูกทางการคุมขัง
“เราเรียกร้องให้รัฐบาลฟิลิปปินส์กลับเข้าร่วมเป็นภาคีของธรรมนูญกรุงโรม และให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับการสอบสวนของศาลอาญาระหว่างประเทศ รวมถึงการออกหมายจับเจ้าหน้าที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ในอดีตและปัจจุบันเพิ่มเติมด้วย”
ข้อมูลพื้นฐาน
เมื่อวันที่ 11 มีนาคม ขณะเดินทางจากฮ่องกงมายังกรุงมะนิลา อดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ โรดริโก ดูเตอร์เต ถูกตำรวจจับกุมตามหมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศในข้อหาอาชญากรรมต่อมนุษยชาติที่เกี่ยวข้องกับ “สงครามปราบปรามยาเสพติด” ศาลอาญาระหว่างประเทศยังไม่ยืนยันว่ามีการออกหมายจับดูเตอร์เตหรือไม่ แม้ว่าสื่อฟิลิปปินส์จะแชร์ภาพหมายจับดังกล่าวแล้วก็ตาม
ศาลอาญาระหว่างประเทศได้ดำเนินการสอบสวนเกี่ยวกับอาชญากรรมต่อมนุษยชาติที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงการฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในบริบทของ “สงครามปราบปรามยาเสพติด” อันนองเลือดภายใต้รัฐบาลของประธานาธิบดีดูเตอร์เต และความผิดที่เกิดขึ้นในเมืองดาเวา ซึ่งเป็นผลงานของหน่วยสังหารดาเวา ในขณะที่เขาดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองดาเวาตั้งแต่ปี 2554 ถึง 2559
ฟิลิปปินส์เป็นรัฐภาคีของศาลอาญาระหว่างประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2554 แต่ในปี 2561 รัฐบาลได้แจ้งการถอนตัวซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 17 มีนาคม 2562 อย่างไรก็ตาม ศาลอาญาระหว่างประเทศยังคงมีเขตอำนาจศาลเกี่ยวกับอาชญากรรมที่ถูกกล่าวหาว่าเกิดขึ้นในฟิลิปปินส์ในขณะที่ยังเป็นรัฐภาคี ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2554 ถึงมีนาคม 2562
ในสมัยรัฐบาลดูเตอร์เตระหว่างปี 2559 ถึง 2565 ประชาชนหลายพันคน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากชุมชนยากจนและอยู่ชายขอบ ถูกตำรวจหรือบุคคลติดอาวุธที่ต้องสงสัยว่ามีความเชื่อมโยงกับตำรวจสังหารอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมายในช่วงที่เรียกว่า “สงครามปราบปรามยาเสพติด” ของรัฐบาล
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลได้เผยแพร่รายงานสอบสวนที่สำคัญ ซึ่งให้รายละเอียดเกี่ยวกับการสังหารนอกกระบวนการยุติธรรม และการละเมิดสิทธิมนุษยชนอื่นๆ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจและผู้บังคับบัญชา แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลได้ระบุว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติหากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ: [email protected]