Amnesty International

อินเดีย: โศกนาฏกรรมก๊าซพิษโภปาล: 40 ปีแห่งความอยุติธรรม
ในวันที่ 2 ธ.ค. 1984 โรงงานยูเนียนคาร์ไบด์ในเมืองโภปาลเกิดการรั่วไหลของการรั่วไหลของก๊าซเมทิลไอโซไซยาไนด์ ซึ่งคร่าชีวิตกว่า 10,000 คนในสามวันแรก ขณะที่อีกกว่า 22,000 คนเสียชีวิตในระยะยาวจากผลกระทบต่อสุขภาพ พิษจากเหตุการณ์ยังคงส่งผลต่อคนรุ่นหลัง รวมถึงเด็กที่เกิดมาพร้อมปัญหาสุขภาพ น้ำและดินรอบโรงงานยังคงปนเปื้อนด้วยสารพิษ ซึ่งเพิ่มภาระให้กับชุมชนที่ยากจนอยู่แล้ว
บริษัทยูเนียนคาร์ไบด์และบริษัท ดาว เคมิคอลหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบในการชดเชยและฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลยกย่องกลุ่มผู้รอดชีวิตที่ริเริ่มโครงการช่วยเหลือ เช่น คลินิกซัมภัฟนา ทรัสต์ และศูนย์ ชินการี รีแฮบิลิเทชั่น เซ็นเตอร์ เพื่อสนับสนุนการรักษาเฉพาะทาง ความพยายามของกลุ่มเหล่านี้แสดงถึงการต่อสู้ที่ยังไม่สิ้นสุดเพื่อความยุติธรรม
อ่านเพิ่มเติม: https://bit.ly/4gdU0hv
—–

อียิปต์: ประธานาธิบดีอัล-ซิซีต้องปฏิเสธกฎหมายลี้ภัยฉบับใหม่ที่ละเมิดสิทธิผู้ลี้ภัย
กฎหมายลี้ภัยฉบับใหม่ของอียิปต์ลดบทบาทของ UNHCR ในการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยและเพิ่มข้อจำกัดในการขอลี้ภัย รวมถึงบทลงโทษที่รุนแรง เช่น การจำกัดเวลา 45 วันสำหรับการยื่นคำร้อง ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขอาจถูกจำคุกหรือเนรเทศ แอมเนสตี้ชี้ว่ากฎหมายนี้ละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลชี้ว่ากฎหมายนี้ละเมิดพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ และอาจทำให้ผู้ลี้ภัยหลายพันคนในอียิปต์เผชิญความเสี่ยงเพิ่มขึ้น แอมเนสตี้เรียกร้องให้ประธานาธิบดีอัล-ซิซีคืนร่างกฎหมายไปยังรัฐสภาเพื่อแก้ไข พร้อมเน้นให้สหภาพยุโรปสนับสนุนการปรับปรุงกฎหมายให้เคารพสิทธิมนุษยชน
อ่านเพิ่มเติม: https://bit.ly/3OB6WCs
—–

จอร์เจีย: ตำรวจสลายการชุมนุมผู้ประท้วงเข้ม แอมเนสตี้เรียกร้องยุติความรุนแรง ปล่อยตัวผู้ประท้วงที่ถูกควบคุมตัว
การประท้วงในจอร์เจียต่อการเลื่อนเจรจาเข้าร่วมสหภาพยุโรปต้องเผชิญการตอบโต้รุนแรงจากตำรวจ ผู้ประท้วงกว่า 224 คนถูกจับกุม โดยบางคนได้รับบาดเจ็บสาหัส เช่น กระดูกหักและการถูกทำร้ายร่างกาย ตำรวจยังใช้แก๊สน้ำตาและปืนฉีดน้ำแรงดันสูงในการสลายการชุมนุม
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลประณามการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้น และเรียกร้องให้รัฐบาลจอร์เจียปล่อยตัวผู้ที่ถูกจับกุมจากการชุมนุมประท้วงโดยสงบ พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงต้องถูกลงโทษ การละเมิดสิทธิในจอร์เจียสะท้อนถึงแนวโน้มการกดขี่ประชาชนในวงกว้าง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเจรจาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
อ่านเพิ่มเติม: https://bit.ly/4fUAM0R
—–
ระดับโลก: ฟีฟ่าเมินเฉยต่อรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนในข้อเสนอฟุตบอลโลก 2034
ฟีฟ่าถูกวิจารณ์ว่าเพิกเฉยต่อปัญหาด้านสิทธิมนุษยชนในข้อเสนอจัดฟุตบอลโลก 2034 ของซาอุดีอาระเบีย ขณะที่ประเทศยังเผชิญข้อกล่าวหาเรื่องการละเมิดสิทธิแรงงานและเสรีภาพส่วนบุคคล ฟีฟ่ายังไม่ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิแรงงานในฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์
แอมเนสตี้เรียกร้องให้ซาอุดีอาระเบียดำเนินการปฏิรูปที่เป็นรูปธรรมก่อนรับสิทธิ์จัดงานสำคัญระดับโลก พร้อมทั้งเน้นว่าฟีฟ่าควรรับผิดชอบต่อแรงงานที่ถูกละเมิดในเหตุการณ์ที่ผ่านมา ความล้มเหลวในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้อาจส่งผลให้เกิดการละเมิดซ้ำในอนาคต
อ่านเพิ่มเติม: https://bit.ly/4eUEohT
—–
รัสเซีย/ยูเครน: การโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญครั้งใหญ่ถือเป็นอาชญากรรมสงคราม
รัสเซียดำเนินการโจมตีด้วยขีปนาวุธครั้งใหญ่ในยูเครน ทำลายโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น ระบบไฟฟ้าและน้ำ การโจมตีดังกล่าวส่งผลให้พลเรือนต้องเผชิญความหนาวเหน็บและขาดทรัพยากรจำเป็น แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลระบุว่าการโจมตีที่มุ่งเป้าต่อโครงสร้างสำคัญที่พลเรือนพึ่งพา ถือเป็นอาชญากรรมสงคราม
แอมเนสตี้เรียกร้องให้รัสเซียยุติการโจมตีที่ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ พร้อมเรียกร้องประชาคมโลกให้ดำเนินมาตรการที่เข้มงวดต่อผู้กระทำผิด เพื่อปกป้องพลเรือนและรักษามาตรฐานกฎหมายระหว่างประเทศ
อ่านเพิ่มเติม: https://bit.ly/49myF3y
เพราะเรื่องสิทธิมนุษยชนเป็นเรื่องของทุกคน
ร่วมเปลี่ยนแปลงโลกกับแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล
สมัครสมาชิกได้ที่ https://bit.ly/3NX3WzG
#AmnestyThailand #WeeklyHeadlines #สิทธิมนุษยชน
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแอมเนสตี้
บริจาคสนับสนุนแอมเนสตี้