แถลงข่าวผลรางวัลสื่อมวลชนเพื่อสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2564

25 กุมภาพันธ์ 2565

Amnesty International

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ได้จัดงานประกาศผลและพิธีมอบรางวัล “รางวัลสื่อมวลชนเพื่อสิทธิมนุษยชน” ประจำปี 2564 ณ ห้องประชุมลูนาร์ ชั้น 10 โรงแรม อวานี ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพ (AVANI Riverside Bangkok)

โดยมอบรางวัลผลงานสื่อมวลชนดีเด่นด้านสิทธิมนุษยชนประเภทข่าวและสารคดีเชิงข่าวประเภทสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อออนไลน์ ข่าวหรือสารคดีเชิงข่าวประเภทสื่อโทรทัศน์ สารคดีหรือสารคดีเชิงข่าวประเภทรายการโทรทัศน์ ข่าวหรือสารคดีเชิงข่าวที่นำเสนอในรูปแบบคลิปวิดีโอออนไลน์ และภาพถ่ายในหัวข้อ “มุมมองชีวิตท่ามกลางวิกฤต ‘โควิด-19’ ผ่านเลนส์สิทธิมนุษยชน” ประเภทเยาวชนและบุคคลทั่วไป

นางสาวฐิติรัตน์ ทิพย์สัมฤทธิ์กุล ประธานกรรมการ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเผยว่า สื่อมวลชนเปรียบเสมือน “แสงเทียน” ที่ฉายแสงส่องให้คนในสังคมให้ตระหนักถึงเรื่องสิทธิมนุษยชน และเชิญชวนให้เราต่างบ่มเพาะความเคารพซึ่งกันและกันมากขึ้น  จึงเล็งเห็นความสำคัญในการสร้างกำลังใจให้กับสื่อมวลชนที่ทำงานอย่างหนักในการนำเสนอข่าวสารในแง่มุมที่คำนึงถึงการเคารพ ส่งเสริม และปกป้องสิทธิมนุษยชน ด้วยการจัดมอบรางวัลผลงานสื่อมวลชนดีเด่นด้านสิทธิมนุษยชนขึ้น

ทั้งนี้เพื่อสร้างความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของสื่อในการเป็นแนวหน้าของการติดตามถกเถียงประเด็นสิทธิมนุษยชน และสื่อมวลชนจะได้มีพลังในการยืนหยัดที่จะทำงานเพื่อปกป้องส่งเสริมสิทธิมนุษยชนต่อไป ในส่วนของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนเคารพการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน ที่ต้องได้รับการคุ้มครองไม่ให้ถูกข่มขู่และคุกคาม

ประธานแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลกล่าวว่า คณะกรรมการตัดสินผลงานรางวัลสื่อมวลชนเพื่อสิทธิมนุษยชน ประจำปี 2564 ประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากสายสื่อมวลชนและสายสิทธิมนุษยชน จากการคัดสรรและตัดสินผลงานที่ส่งเข้าประกวดทั้งหมด ผลการตัดสินมีดังนี้

 

รางวัลดีเด่นข่าวและสารคดีเชิงข่าวประเภทสื่อสิ่งพิมพ์ 1 รางวัล ได้แก่

  • ผลงานเรื่อง “คนอยู่กับป่า? การจากลาและคืนถิ่นของกะเหรี่ยงบางกลอย”  

นิตยสารสารคดี

 

รางวัลชมเชยข่าวและสารคดีเชิงข่าวประเภทสื่อสิ่งพิมพ์ 1 รางวัล ได้แก่

  • ผลงานเรื่อง “ความสำคัญที่ต้องตามเกาะติด ‘พ.ร.บ.ป้องกันทรมาน-อุ้มหาย’” 

หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

 

รางวัลดีเด่นข่าวและสารคดีเชิงข่าวประเภทสื่อออนไลน์  1 รางวัล ได้แก่

  • ผลงานเรื่อง “What Happened to Wanchalearm?” 

สำนักข่าวประชาไท

 

รางวัลชมเชยข่าวและสารคดีเชิงข่าวประเภทสื่อออนไลน์ 4 รางวัล  ได้แก่

  • ผลงานเรื่อง “หัวอกลูก หัวใจแม่ : 112 กับความล่มสลายของครอบครัว” 

เว็บไซต์ The101.world

  • ผลงานเรื่อง “WE NEVER KNOW WHAT TOMORROW BRINGS:’ COVID STRANDS THOUSANDS OF REFUGEES IN THAILAND” 

เว็บไซต์ Khaosod English

  • ผลงานชุด “สามัญชนบน ‘สมรภูมิดินแดง’ แค้น คลั่ง ทะลุแก๊ซ” 

เว็บไซต์วอยซ์ทีวี

  • ผลงานเรื่อง “ความพ่ายแพ้ของผู้ชนะ คลิตี้หลังคำพิพากษา สายน้ำยังคงติดเชื้อ” 

เว็บไซต์ WAY Magazine

 

รางวัลดีเด่นข่าวหรือสารคดีเชิงข่าว ประเภทสื่อโทรทัศน์ (ความยาวไม่เกิน 20 นาที) 1 รางวัล ได้แก่

  • ผลงานชุด “วัคซีนเสริมภูมิพลเมือง” 

สถานีโทรทัศน์เวิร์คพอยท์

 

รางวัลชมเชยข่าวหรือสารคดีเชิงข่าว ประเภทสื่อโทรทัศน์ (ความยาวไม่เกิน 20 นาที) 1 รางวัล ได้แก่

  • ผลงานชุด “ผลกระทบกะเหรี่ยงอพยพหนีภัยการสู้รบ ชายแดน จ.แม่ฮ่องสอน ไทย-เมียนมา”

สถานีโทรทัศน์พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36

 

รางวัลดีเด่นสารคดีหรือสารคดีเชิงข่าว ประเภทรายการโทรทัศน์ (ความยาวรวมไม่เกิน 60 นาที) 1 รางวัล ได้แก่

  • ผลงานเรื่อง “ซอกหลืบเยาวราช” รายการคนจนเมือง 

สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส

 

รางวัลชมเชยสารคดีหรือสารคดีเชิงข่าว ประเภทรายการโทรทัศน์ (ความยาวรวมไม่เกิน 60 นาที) 3 รางวัล ได้แก่

  • ผลงานเรื่อง “สวัสดิการเด็กไม่ถ้วนหน้า" รายการสารตั้งต้น 

สถานีโทรทัศน์พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36

  • ผลงานเรื่อง “คนหนีตาย” รายการเปิดปม 

สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส

  • ผลงานเรื่อง “มานิ – จาไฮ ชีวิตบนเส้นด้าย” รายการเปิดปม 

สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส

 

รางวัลชมเชยข่าวหรือสารคดีเชิงข่าวที่นำเสนอในรูปแบบคลิปวิดีโอออนไลน์ 5 รางวัล ได้แก่

  • ผลงานเรื่อง “บาดแผลสีแดง | Red's scar” 

สำนักข่าวประชาไท

  • ผลงานเรื่อง “ลุงดร เกตุเผือก : สื่อ - ชาวบ้าน - ประชาธิปไตย I เมื่อชีวิตอุทิศเป็นสื่อประชาชน”

แมกกาซีนออนไลน์ URBAN CREATURE

  • ผลงานเรื่อง “เด็ก โดน คดี สิทธิเด็กเป็นอย่างไร ใต้การดำเนินคดีการเมือง” 

สำนักข่าว workpointTODAY

  • ผลงานเรื่อง “3 แม่แกนนำ "ราษฎร" ร่วมขบวน "เดินทะลุฟ้า"เรียกร้องยกเลิก ม.112” 

สำนักข่าวบีบีซี ภาคภาษาไทย

  • ผลงานเรื่อง “ ‘อยากกลับบ้าน’ เพราะบ้านหลังเดียวของบางกลอยคือใจแผ่นดิน”

สำนักข่าวออนไลน์ The MATTER

 

รางวัลชมเชยภาพถ่ายในหัวข้อ “มุมมองชีวิตท่ามกลางวิกฤต ‘โควิด-19’ ผ่านเลนส์สิทธิมนุษยชน” ประเภทเยาวชน 5 รางวัล ได้แก่

  • ผลงานโดย ศวิตา พูลเสถียร

 

  • ผลงานโดย สุไลมาน ตันหยงอุตง

 

  • ผลงานโดย สุภัสสรา หาดทราย

 

  • ผลงานโดย ตรัย สิทธิเสนา

 

  • ผลงานโดย ศวิตา พูลเสถียร

 

ส่วนรางวัลป๊อปปูล่าโหวตในประเภทนี้  1  รางวัล ได้แก่

  • ผลงานโดย ตรัย สิทธิเสนา

 

รางวัลดีเด่นภาพถ่ายในหัวข้อ “มุมมองชีวิตท่ามกลางวิกฤต ‘โควิด-19’ ผ่านเลนส์สิทธิมนุษยชน” ประเภทบุคคลทั่วไป 1 รางวัล ได้แก่

  • ผลงานโดย ปฏิภัทร จันทร์ทอง

 

รางวัลชมเชยภาพถ่ายในหัวข้อ“มุมมองชีวิตท่ามกลางวิกฤต ‘โควิด-19’ ผ่านเลนส์สิทธิมนุษยชน” ประเภทบุคคลทั่วไป 4 รางวัล ได้แก่

  • ผลงานโดย สุภณัฐ รัตนธนาประสาน 

 

  • ผลงานโดย เสกสรร โรจนเมธากุล 

 

  • ผลงานโดย ชำนาญวุฒิ สุขุมวานิช 

 

  • ผลงานโดย ณัฐพล พันธ์พงษ์สานนท์

 

ส่วนรางวัลป๊อปปูล่าโหวตในประเภทนี้  1  รางวัล ได้แก่

  • ผลงานโดย ฉัฐพัชร์ สุวรรณยุหะ

 

นางสาวฐิติรัตน์ ทิพย์สัมฤทธิ์กุล กล่าวต่อว่าในปีนี้ยังจัดให้มีการพุดคุยในหัวข้อ  “Voice of Rights: จากคลิตี้ บางกลอยถึงจะนะ สื่อมวลชนสำคัญแค่ไหน ในวันที่ประชาชนลุกขึ้นปกป้องชุมชน”  โดยสามตัวแทนเยาวชนที่ลุกขึ้นมาปกป้องบ้านเกิดของตัวเอง ทั้ง ธนกฤต โต้งฟ้า ตัวแทนชาวบ้านคลิตี้ ไครียะห์ ระหมันยะ ลูกสาวแห่งทะเลจะนะ และพงษ์ศักดิ์ ต้นน้ำเพชร ตัวแทนชาวบ้านบางกลอย

ในตอนท้ายนางปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยได้กล่าวขอบคุณสื่อมวลชนที่เป็นบุคคลสำคัญที่สุดของงานในวันนี้ที่ได้ช่วยกันขับเคลื่อนและเป็นสื่อกลางในการต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนและให้ความเข้าใจที่ถูกต้องแก่ประชาชนทั้งที่ผ่านมาและจะทำต่อไป

---

ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ เนาวรัตน์ เสือสอาด หัวหน้าฝ่ายสื่อสารองค์กรแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย มือถือ 089 922 9585 หรืออีเมล media@amnesty.or.th