#17 ปีทนายสมชาย ครอบครัวและนักกิจกรรมแอมเนสตี้ทวงถามความคืบหน้าคดีกับดีเอสไอ

12 มีนาคม 2564

Amnesty International Thailand

12 มีนาคม 2564 เวลา 10.30 น. นางอังคณา นีละไพจิตร ครอบครัวทนายสมชาย นีละไพจิตร และญาติผู้สูญหายในประเทศไทย รวมทั้งนักกิจกรรมแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยจำนวน 20 คน ได้รวมตัวกันบริเวณด้านหน้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ถ.แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ เพื่อทวงถามความคืบหน้าคดีและร่วมรำลึก 17 ปี การหายตัวไปของทนายสมชาย นีละไพจิตร โดยสวมหน้ากากทนายสมชายเพื่อแสดงให้เห็นว่าแม้เวลาผ่านไปนานถึง 17 ปีเราก็ยังไม่ลืม และได้ปล่อยรถตุ๊กตุ๊กจำนวน 17 คัน ที่ติดป้ายตามหาทนายสมชายเพื่อให้วิ่งรณรงค์ไปทั่วกรุงเทพและพื้นใกล้เคียง

120321_AI_001.jpg

นางปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า เป็นเวลา 17 ปีแล้วที่ครอบครัวทนายสมชาย นีละไพจิตรต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปอย่างไม่ทราบชะตากรรม และไม่มีแม้กระทั่งหลุมศพให้รำลึกถึง แอมเนสตี้ยังคงเน้นย้ำว่าการค้นหาความจริงและความยุติธรรมกรณีการถูกบังคับให้สูญหายของทนายสมชาย นีละไพจิตร ถือเป็น ‘บททดสอบสำคัญ’ ในแง่ของการเคารพสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย รวมทั้งการให้การเยียวยาและการชดเชยเมื่อเกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชนขึ้น อีกทั้งยังทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความจริงใจหรือความสามารถของทางการไทยในการแก้ปัญหาการลอยนวลพ้นผิดของผู้ที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายระหว่างประเทศด้วย

“แอมเนสตี้ยังคงเรียกร้องทางการไทยให้สืบสวนสอบสวนกรณีการหายตัวไปของนายสมชายนีละไพจิตรอย่างมีประสิทธิภาพเป็นกลางและเป็นอิสระเพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดมารับโทษตามกฎหมายผ่านการพิจารณาคดีที่เป็นธรรมตลอดจนให้ความช่วยเหลือและเยียวยาความเสียหายแก่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของการบังคับสูญหายอย่างมีประสิทธิภาพ

“ทั้งยังเรียกร้องทางการไทยให้ผ่านร่างพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหายพ.ศ ... ที่มีเนื้อหารัดกุมและสอดคล้องกับมาตรฐานสิทธิมนุษยชนและกฎหมายระหว่างประเทศโดยเฉพาะอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรี (UNCAT) อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับ (International Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance) กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) และกฎหมายจารีตประเพณีระหว่างประเทศด้วย

“นอกจากนี้ยังเรียกร้องทางการไทยให้สัตยาบันต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการหายสาบสูญโดยถูกบังคับและพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทรมานและการกระทำอื่นๆที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือที่ย่ำยีศักดิ์ศรีเพื่อป้องกันการอุ้มหายอย่างมีมาตรฐานในอนาคต”

 

120321_AI_043.jpg

ทั้งนี้ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ได้จัดทำแคมเปญตามหาทนายสมชาย นีละไพจิตร เพื่อเน้นย้ำให้สังคมไม่ลืมการอุ้มหายที่เกิดขึ้นและกระตุ้นทางการไทยตามหาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้ โดยได้ปล่อยรถตุ๊กตุ๊กที่ติดป้ายรณรงค์ “ทนายสมชายอยู่ไหน?” จำนวน 17 คัน และเชิญชวนประชาชนถ่ายรูปรถตุ๊กตุ๊กพร้อมป้ายดังกล่าวและโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย ติด #ทนายสมชายอยู่ไหน? #17ปีไร้ความยุติธรรม #17ปีทนายสมชาย โดยการรณรงค์จะมีไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคมนี้