สหราชอาณาจักรควรหยุดช่วยเหลือการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ

7 พฤษภาคม 2561

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล

 

ในประเทศปากีสถาน มามานา บิบิ (Mamana Bibi) อายุ 68 ปี ออกไปเก็บผักในสวนของครอบครัวกับหลานๆ แต่จู่ๆ เธอกลับเสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ


มามานา คือหนึ่งในพลเรือนนับร้อยคนที่ถูกฆ่าจากการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรก็มีส่วนช่วยเหลือการโจมตีเหล่านี้

 

ความลับนานนับปี

จากงานวิจัยล่าสุดของเรา พบว่าทางการของสหราชอาณาจักรนั้นมีส่วนช่วยเหลือสหรัฐฯ ในแผนการโจมตีทางอากาศซึ่งกระทำอย่างลับๆมานานนับปี โดยทางสหราชอาณาจักรนั้นเคยส่งหน่วยสืบราชการลับ (ข้อมูลนี้มีความน่าเชื่อถือ จึงทำให้ความน่ากังวลเพิ่มมากขึ้น) ไปช่วยในการประสานงานการโจมตีทางอากาศที่อันตรายถึงชีวิต

 

สหราชอาณาจักรให้ความช่วยเหลือการโจมตีทางอากาศอย่างลับๆนี้ จากฐานทัพอากาศสี่แห่งด้วยกัน คือ ยอร์กเชอร์ (Yorkshire) เคมบริดจ์เชอร์ (Cambridgeshire) ลิงคอล์นเชอร์ (Lincolnshire) และนอร์ทแธมป์ตันเชอร์ (Northamptonshire)

 

กิจกรรมภายในฐานทัพอากาศทั้งสี่แห่งนี้ประกอบไปด้วยการสอดแนมอีเมลนับล้านฉบับ และการใช้งานโทรศัพท์ รวมทั้งการวิเคราะห์พิกัดการโจมตีโดยใช้ข้อมูลจากสัญญาณโทรศัพท์มือถือ

 

การฆ่าจากระยะทางนับพันไมล์

เป้าหมายการโจมตีเมื่อได้รับการยืนยันแล้วจะถูกฆ่าโดยผู้ที่ทำหน้าที่ควบคุมโดรน (drone) ซึ่งนั่งอยู่หลังหน้าจอห่างออกไปนับพันไมล์

 

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากทำเนียบขาวที่รั่วไหลออกมาได้แสดงให้เห็นว่า 90% ของเป้าหมายการโจมตีที่ถูกฆ่าโดยการโจมตีทางอากาศ Operation Haymaker ของสหรัฐฯ ในพื้นที่แถบตะวันออกเฉียงเหนือของอัฟกานิสถานในช่วงระยะเวลาห้าเดือนในปี 2556 นั้น เป็นเป้าหมายการโจมตีที่ไม่ได้ระบุพิกัด

 

ข้อมูลจากองค์กร Bureau of Investigative Journalism ระบุว่า การโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ ในปี 2547 นั้น ได้ฆ่าพลเรือนในอัฟกานิสถาน ปากีสถาน โซมาเลีย และ เยเมน ไปถึง 1,551 คน โดยพลเรือนบางรายเสียชีวิตอย่างไม่ชอบด้วยกฎหมาย และบางรายเสียชีวิตจากการถูกวิสามัญฆาตกรรม หรืออาชญากรรมสงคราม

 

ประธานาธิบดีทรัมป์สนับสนุนการโจมตีทางอากาศ

ตั้งแต่ โดนัลด์ ทรัมป์ เข้าดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตัวเลขการโจมตีทางอากาศนั้นเพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ โดยมีการประมาณการว่าในระยะเวลา 45 วันแรก ที่ทรัมป์เข้าดำรงตำแหน่ง เขาได้สั่งการโจมตีทางอากาศ หรือการโจมตีโดยหน่วยปฏิบัติการพิเศษไปแล้ว ถึง 36 ครั้ง

 

นอกจากนี้ ยังมีรายงานระบุว่าประธานาธิบดีทรัมป์สนับสนุนแผนการโจมตีทางอากาศ ดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่ตัวเลขการโจมตีและยอดผู้เสียชีวิตจากการโจมตีดังกล่าวจะเพิ่มสูงขึ้นไปเรื่อยๆ

 

‘เราฆ่าคนโดยอ้างอิงจากข้อมูล เมทาดาทา (metadata)’

นายพล ไมเคิล เฮเดน อดีตผู้อำนวยการหน่วยงาน CIA และ NSA ของสหรัฐ กล่าว       

 

ยังมีอีกหลายประเทศที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับแผนการโจมตีทางอากาศ ไม่ว่าจะเป็น ประเทศเยอรมนี และเนเธอร์แลนด์ ที่มีส่วนช่วยให้ข้อมูลเมทาดาทา (metadata) (ข้อมูลเกี่ยวกับการสื่อสารต่างๆ เช่น เวลา และสถานที่ของการใช้โทรศัพท์) ซึ่งใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงในการโจมตีแต่ละครั้ง และอิตาลี ที่อนุญาตให้สหรัฐปล่อยโดรนที่ใช้ในการโจมตีทางอากาศจากฐานทัพสหรัฐฯในเกาะซิซิลี

 

การไต่สวนหาข้อเท็จจริงอย่างเต็มรูปแบบ

เราไม่รู้ว่าหน่วยสืบราชการลับของสหราชอาณาจักรถูกใช้เป็นเครื่องมือในแผนการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯบ่อยขนาดไหน แต่การกระทำของรัฐบาลที่คลุมเครือเช่นนี้ไม่ควรมีอยู่อีกต่อไป เราต้องการให้มีการไต่สวนหาข้อเท็จจริงอย่างเต็มรูปแบบในบทบาทของสหราชอาณาจักรที่มีส่วนเกี่ยวของกับการโจมตีทางอากาศของสหรัฐอเมริกา

 

พลเรือนที่เสียชีวิตควรได้รับความยุติธรรม และการโจมตีทางอากาศอย่างลับๆที่คร่าชีวิตผู้คนนับพันนี้ควรยุติลง ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทางสหราชอาณาจักรได้ทำให้การที่รัฐบาลมีส่วนช่วยเหลือแผนการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯนั้นเป็นสิ่งที่ชอบด้วยกฎหมาย และได้มีการออกกฎเพื่อทำให้การช่วยเหลือการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯนั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง

 

ร่วมลงชื่อเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลสหราชอาณาจักรยุติการช่วยเหลือการโจมตีทางอากาศ