สืบเนื่องจากรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจำนวน 18 คน และมีผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ขณะที่กองกำลังตำรวจและทหารเผชิญหน้ากับผู้ชุมนุมโดยสงบที่เกิดทั่วประเทศเมียนมา
เอ็มเมอร์ลีน จิล รองผู้อำนวยการด้านงานวิจัยประจำภูมิภาค แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า
“เป็นเรื่องที่น่าตกใจ และน่าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตอบโต้ผู้ชุมนุมโดยสงบด้วยการบังคับใช้มาตรการรุนแรงที่ทำให้เสียชีวิต ซึ่งนำไปสู่การพุ่งสูงขึ้นของจำนวนผู้เสียชีวิต”
ข้อมูลพื้นฐาน
ตามรายงานของสื่อมวลชน มีผู้ชุมนุม 18 คนถูกฆ่าในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ จากการที่กองกำลังรักษาความปลอดภัยได้ใช้อาวุธร้ายแรงต่อผู้ชุมนุมโดยสงบที่เกิดขึ้นจำนวนมากทั่วประเทศเมียนมา
หลังจากเกิดการรัฐประหารขึ้นในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ประชาชนชาวเมียนมาได้จัดการชุมนุมขึ้นทั่วประเทศ ซึ่งเป็นไปด้วยความสงบสันติ
ก่อนหน้านี้คณะปฏิบัติการค้นหาความจริงของสหประชาชาติ ได้เรียกร้องให้พลอเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดผู้ซึ่งกำลังบริหารประเทศเมียนมาในขณะนี้ และเจ้าหน้าที่ระดับสูงคนอื่นๆ ให้เข้าสู่กระบวนการสอบสวนและดำเนินคดีในข้อหาอาชญากรรมสงคราม, อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์


