ความหวัง ที่ยัง...มีความหวัง วันเกิดปีนี้...ขอให้ 'วารุณี' ได้รับสิทธิในการประกันตัว คำขอจาก...น้องสาววารุณี ถึงกระบวนการยุติธรรม....

7 กันยายน 2566

Amnesty International Thailand

“เขาเป็นที่พึ่งทางกายและใจ ไม่ว่าหนูจะทุกข์หรือยามที่หนูมีความสุขก็อยากให้เขาได้เห็นทุกๆ ด้านของเรา เขาอดอาหารก็กลัวว่าเขาจะเป็นอะไรในเรือนจำ ขอให้เขาได้รับการประกันตัว”

เข้าสู่วันที่ 18 ที่ #วารุณี อดอาหาร หลังต้องถูกจองจำ ในห้องขังที่ไร้อิสรภาพ ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ พ.ศ.2550

นับตั้งแต่วันนั้น…จนถึงวันนี้ วารุณียังอยู่ในเรือนจำเป็นเวลา 72 วัน เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2566 น้องสาวของเธอเล่าว่า โรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้ส่งตัววารุณีไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ หลังอดอาหารและจำกัดการดื่มน้ำ เพื่อเรียกร้องสิทธิในการได้รับการประกันตัว

เพราะวารุณีเป็นคนร่างเล็ก ทำให้น้องสาวเป็นห่วงสุขภาพของวารุณีขณะที่อดอาหาร เธอกังวลว่าพี่สาวจะมีร่างกายไม่เหมือนเดิม จึงเป็นเหตุผลที่ตัดสินใจเขียนจดหมายด้วยลายมือของตัวเอง ส่งถึงผู้อำนวยการโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ให้ส่งตัววารุณีพี่สาวของเธอ ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ เมื่อวันที่ 2 กันยายน ที่ผ่านมา

น้องสาวของวารุณี เปิดใจว่า ครอบครัวเป็นห่วงชีวิตและสุขภาพของวารุณีมากที่สุด โดยเฉพาะพ่อที่กลัวว่าถ้าวันหนึ่งข่าวคราวการประท้วงอดอาหารของวารุณีเงียบหายและเลือนลางไปจากสังคม จะทำให้วารุณีได้รับอันตรายและชีวิตไม่ปลอดภัยในเรือนจำ

“ตอนที่พ่อคุยกับหนู เขาจะกลัวว่าถ้าลูกสาวอดอาหารประท้วงในเรือนจำ วันหนึ่งข่าวสารเงียบไป สื่อมวลชน คนทั่วไป ไม่มีใครพูดถึง ลูกสาวจะมีชีวิตต่อไปยังไงในเรือนจำ ถ้าไม่ได้รับสิทธิประกันตัว กลัวว่าลูกสาวถ้าได้มีโอกาสออกจากเรือนจำแล้วจะโดนอุ้มไหม กลัวว่าจะถูกทำร้ายไหม พ่อเป็นห่วงความปลอดภัยของพี่สาวมากว่า ถ้าผ่านไปสักระยะหนึ่งลูกจะเป็นยังไงต่อ”

สิทธิในการประกันตัว…คือสิ่งที่น้องสาวของวารุณีต้องการมากที่สุดในตอนนี้ เพราะเธอกังวลและกลัวว่า ถ้าพี่สาวประท้วงอดอาหารในเรือนจำเป็นเวลานาน จะมีผลกระทบต่อสุขภาพขั้นร้ายแรงในระยะยาว ทุกวันนี้เธอหวังว่าวารุณีพี่สาวของเธอ จะอดทน ไม่ย่อท้อ หรือเป็นอะไรไปกลางทาง ระหว่างต่อสู้เรียกร้องสิทธิให้ตัวเองได้รับการประกันตัว

“ไม่มีใครช่วยเขาได้ในเรือนจำ เราในฐานะน้องสาว ไม่อยากให้เขาทำอะไรแบบนี้หรอก แต่เมื่อพี่เขาเลือกแล้ว ก็อยากให้เขาอดทน เราจะคอยช่วยเหลือ คอยซัพพอร์ตอยู่ข้างนอกไม่ไปไหน ไม่ว่าเขาจะเลือกอะไร เราก็จะอยู่ข้างเขาเสมอ” 

“อยากให้เขาได้ประกันตัว เรารู้สึกว่าบางทีเราก็ต้องมีสิทธิเหมือนคดีอื่นๆ เพราะคดีที่มันหนักกว่านี้ เขายังได้ประกันตัวเลย เราไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ให้พี่สาวได้สิทธิในการประกันตัว ทั้งที่เขาไปรายงานตัวตลอด ไม่เคยขาด ไม่เคยคิดหลบหนี ทำไมศาลให้เหตุผลว่ากลัวพี่เขาจะหลบหนี บอกตรงๆ เราไม่เข้าใจเหตุผลว่า ทำไมไม่ให้สิทธิประกันตัว เรารู้สึกว่าไม่ค่อยยุติธรรมกับพี่สาวเราเลย”

สำหรับ…วารุณี เธอเปรียบเสมือนทุกอย่างในชีวิตของน้องสาว ตั้งแต่แม่ของเธอเสียชีวิตไปเมื่อปี 2556 วินาทีนั้นเปลี่ยนชีวิตของเธอไปตลอดกาล วารุณีต้องพลิกบทบาทมาเป็นเสาหลักของครอบครัว ทำให้เธอไม่ได้ใช้ชีวิตเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไปหลังเรียนจบ

วารุณี มีพี่น้อง 3 คน เธอเป็นลูกสาวคนโต มีน้องชายกับน้องสาว ตอนที่แม่ของเธอยังมีชีวิตอยู่ เธอมีบทบาทช่วยแม่ดูแลน้องๆ ในฐานะพี่สาวคนโต แต่เมื่อต้องสูญเสียแม่ไปในช่วงใกล้เรียนจบ ทำให้เธอต้องรีบหางานทำ เพื่อให้มีรายได้มาเลี้ยงน้องๆ และจุนเจือครอบครัว

“พี่สาวชื่อวารุณีเป็นทุกอย่างในชีวิตของหนูเลยจริงๆ เป็นทั้งพี่ เป็นทั้งแม่ เรียกว่าเป็นทั้งชีวิต ถ้าไม่มีพี่สาวคนนี้ ก็ไม่รู้ว่าชีวิตจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะตัวหนูซึ่งเป็นลูกคนเล็กคงลำบากมากๆ ตั้งแต่คุณแม่เสียไป”

“เรามีกัน 3 พี่น้อง พี่น้ำ วารุณีเป็นพี่สาวคนโต มีน้องชายและน้องสาวคือหนูซึ่งเป็นลูกคนสุดท้อง จริงๆแล้วตั้งแต่เด็กตอนที่แม่ยังไม่เสียชีวิต เขาจะคอยดูแลน้องตลอด แต่ชัดจริงๆ ตอนที่คุณแม่เสีย เขากำลังจะเรียนจบ พอเขาเรียนจบ เขาก็ต้องรีบโตเพื่อให้ตัวเองเป็นที่พึ่งของน้องๆ ได้ เพราะตอนแม่เสียชีวิต ลูกทุกคนเคว้งคว้างหมด แต่ครอบครัวจะต้องไปต่อ ทำให้พี่สาวเขาไม่มีเวลาเสียใจนาน ต้องทำงาน ต้องรีบโต ต้องรีบไปต่อ เพราะว่าครอบครัวต้องใช้เงิน น้องต้องได้เรียน จำได้ว่าเขาไม่ได้มีเวลาซัพพอร์ตหัวใจตัวเองเลย”

น้องสาวของวารุณีหวังว่า กระบวนการยุติธรรมจะพิจารณาให้วารุณี ได้รับสิทธิในการประกันตัวตามหลักสิทธิมนุษยชน สิ่งแรกที่เธออยากทำกับพี่สาว หากวารุณีได้ออกจากห้องขังที่ไร้อิสรภาพในเรือนจำ คือการพาพี่สาวไปกินอาหารมื้ออร่อยที่ชื่นชอบ โดยเฉพาะ ส้มตำ ยำ แซ่บๆ ร้าน Nice Two Meat U ร้านแก้วแกงใต้ ซึ่งเป็นอาหารจานโปรดของวารุณี

“ตอนนี้เราก็เรียนจบแล้ว เราไม่อยากเห็นเขาเป็นอะไร เรารู้สึกว่าเขาส่งเราเรียน เรายังไม่ทันได้ทำอะไรให้เขา ไม่ได้มีเงิน ไม่ได้เลี้ยงข้าวเขาบ้างเลย ไม่อยากให้เขาท้อเหนื่อยในเรือนจำและเป็นอะไรไปก่อน เพราะวันนี้เขาเห็นเราประสบความสำเร็จแล้ว เราก็อยากให้เขาได้เห็นเราในก้าวต่อๆ ไปด้วยกันอยู่

สิ่งที่น้องสาวของวารุณีเป็นห่วงมากที่สุด คือการที่วารุณีต้องอยู่ในห้องขังที่ไร้อิสรภาพเป็นเวลานาน อาจจะทำให้อาการป่วยไบโพลาร์หนักขึ้น และมีโรคอื่นๆ ตามมา อีกความเป็นห่วงจากน้องสาวคือ วารุณีเป็นคนรักอิสระ ไม่เคยถูกขังหรืออยู่ในกฎระเบียบเป็นเวลานาน อาจจะทำให้เกิดความเครียดสะสม จนส่งผลกระทบต่อชีวิตและจิตใจในระยะยาว

“เราเป็นห่วงเขาว่า เขาจะอยู่ไม่ได้ ห่วงเวลาที่เขาไม่ค่อยเล่าความรู้สึกให้เราฟัง เป็นห่วงที่บางทีว่าเขาไม่ค่อยเล่าว่าเขาแย่แค่ไหนให้เราฟัง เพราะเขากลัวว่าน้องๆ จะเป็นห่วง เอาตรงๆ เราเป็นห่วงเขาตรงนี้ ยิ่งตอนอยู่ในเรือนจำตอนนี้ เขาเล่าว่าเขาเจ็บเข่า เราก็ถามว่าทำไมถึงเจ็บเข่า เป็นอะไร เขาก็บอกว่านอนไม่ค่อยได้พลิกมั้งมันแคบๆ แต่พูดแบบชิวๆ ไม่ได้บอกว่าแย่มาก แต่เราก็รู้ว่าในเรือนจำมันลำบากมาก ทำให้เรายิ่งเป็นห่วงเขามากกว่าเดิม”

เขาเป็นแบบนี้มาตลอด ทำเป็นเข้มแข็ง ไม่แสดงให้เห็นว่าเหนื่อย อยู่ในเรือนจำก็เป็นเหมือนกัน อยู่ข้างนอกก็เป็นแบบนี้เหมือนกัน”

การได้รับสิทธิในการประกันตัว…คือสิ่งที่น้องสาวและครอบครัวของวารุณีภาวนาให้เกิดขึ้นก่อนวันเกิดของวารุณี เพราะอีกไม่กี่วัน จะถึงวันเกิดของวารุณีแล้ว ซึ่งตรงกับวันที่ 18 กันยายนของทุกปี

น้องสาวของวารุณีหวังว่า วันเกิดปีนี้วารุณีจะได้รับสิทธิในการประกันตัว ตามที่ทำเรื่องร้องของ แล้วได้มีโอกาสกลับมาฉลองวันเกิดร่วมกับครอบครัวและเพื่อนๆ ทุกคนได้อย่างอิสระอีกครั้ง โดยที่ไม่ต้องทนทุกข์ทรมาน อดอาหารอยู่ในห้องขัง

“วันเกิดของพี่สาวปีนี้เราไม่รู้จะฝากอะไร แค่อยากให้เขาได้ออกมาใช้ชีวิตอิสระ ไม่อยากให้เขาต้องทรมานในเรือนจำเป็นเวลานาน ปกติวันเกิดเขาก็ไปปาร์ตี้กับเพื่อนๆ บางทีก็ชวนหนู ส่วนใหญ่ถ้าวันเกิดเขาก็ไปสนุกของเขา เราก็ไปอวยพรวันเกิด บางทีก็ไปกินข้าวด้วยกัน

“วันเกิดอยากให้พี่สาวได้รับอิสรภาพ คงจะเป็นของขวัญวันเกิดที่ดีมากสำหรับเขา เพราะตอนวันเกิดเรา 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา เขาก็ขอโทษเราว่า ปีนี้ไม่ได้พาเราไปไหนเลย เพราะต้องติดอยู่ในเรือนจำ พอจะถึงวันเกิดเขา เราก็อยากพาเขาไปกินหรือไปทำอะไรที่อยากทำ มันคงจะดีไม่น้อย ถ้าคำขอนี้เป็นจริง” 

 

เพื่อเรียกร้องสิทธิในการประกันตัว วารุณีที่กำลังอดอาหารประท้วง โดยตอนนี้วารุณี ถูกส่งตัวไปที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ จ.ปทุมธานี

 

เขียนจดหมายถึงเพื่อนที่ถูกคุมขังระหว่างการต่อสู้คดี

bit.ly/ScantoWrite

เขียนจดหมายถึงเพื่อนที่คดีสิ้นสุดแล้ว

bit.ly/Scantowriteyourletter