'หลามกระบอกไม้ไผ่' อาหารชาวลาหู่ สู่...ความหวังครอบครัวผู้สูญหาย ให้กลับมากินข้าวด้วยกัน

28 สิงหาคม 2566

Amnesty International Thailand

“20 ปีแล้ว ที่ไม่ได้กินข้าวด้วยกัน ฉันอยากให้เธอได้ยินเสียงของฉัน กลับมากินข้าวด้วยกันนะ เพราะเวลาไปสวน เวลาไปไร่ เวลาเห็นครอบครัวอื่นกินข้าวด้วยกัน และใช้กระบอกไม้ไผ่มาหลามข้าวหรือทำกับข้าว จะคิดถึงทุกครั้ง เพราะอาหารเมนูนี้บ่งบอกถึงความอบอุ่น ความรัก ความยากลำบากที่เคยทำมาด้วยกันกับสามี”

โต๊ะอาหารที่อบอุ่นและอบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งความรัก ถูกแทนที่ด้วยความโศกเศร้าในชั่วพริบตา เมื่อสามีผู้เป็นที่รักและเสาหลักของบ้าน ถูกเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงจับกุมตัวไปอยู่ในค่ายทหาร เพราะตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ายาเสพติดตามแนวชายแดนภาคเหนือของไทย นี่คือเรื่องราวหนึ่งในครอบครัวชาวลาหู่ ที่คนในบ้านต้องกลายเป็นผู้สูญหาย หลังถูกทรมานจนได้รับบาดเจ็บสาหัสเมื่อปี 2546

นาอื่อ จะโล ภรรยาของ จะหวะ จะโล เล่าความหลังตอนที่ยังใช้ชีวิตร่วมกับสามี ก่อนเขาจะมีสถานะเป็นบุคคลสูญหายด้วยภาษาลาหู่ว่า เขาทั้งสองคนจะได้ใช้ชีวิตร่วมทุกข์ร่วมสุขกันไปแก่เฒ่า หลังเป็นคู่ชีวิตกันมาหลายสิบปี มีลูกด้วยกัน 6 คน นาอื่อเล่าว่าก่อนที่สามีหายตัวไป ชีวิตในแต่ละวันไม่เคยคิดฝันว่าวันหนึ่งจะต้องพลัดพรากจากกันเร็วแบบนี้ เพราะมีลูกที่ต้องประคับประคองและดูแลให้มีชีวิตที่มั่นคง

 

บรรยากาศที่คิดถึง ความหวังที่ยังไม่สูญสิ้น

ปัจจุบัน นาอื่อ ใช้ชีวิตกับหลานคนหนึ่งที่มีสถานะเป็นคนพิการ ในขณะที่ลูกหลานคนอื่นๆ แยกย้ายไปทำงานตามหมู่บ้านใกล้เคียงและในเมือง เพื่อหารายได้มาประทังชีวิตเลี้ยงปากเลี้ยงท้องครอบครัวให้อยู่รอด แม้จะไม่รู้ชะตากรรมของสามี แต่ทุกวินาทียังคงรอคอยด้วยความหวัง ว่าสักวันหนึ่งจะรู้ชะตากรรมของ จะหวะ ว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร และเฝ้าฝันว่าสักวันหนึ่งจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับสามีในบั้นปลายชีวิตอีกครั้ง แม้จะเป็นความหวังที่ริบหรี่ก็ตาม หรือหากต้องพบเจอกับร่างที่ไร้ลมหายใจ เธอต้องการส่งวิญญาณสามีคืนสู่ธรรมชาติตามพิธีกรรมของชาวลาหู่ที่ทำกันมาช้านาน

“กลับมากินข้าวและเลี้ยงหลานด้วยกันนะ” นาอื่อ คือข้อความต้องการสื่อสารถึงสามีของเธอ

ส่วนอาหารมื้อแรกที่อยากกินด้วยกันอีกครั้ง เป็นเพียงอาหารพื้นถิ่น เรียบง่าย ตามวิถีชีวิตของชาวลาหู่ที่อาศัยอยู่ตามป่าเขาลำเนาไพร นั่นคือ ‘หลามกระบอกไม้ไผ่’ อาหารเมนูนี้มีความพิเศษไม่เหมือนใคร การกิน การปรุง การหาวัตถุดิบล้วนผูกโยงกับวิถีวัฒนธรรม สายน้ำ ลำห้วย ภูเขา และธรรมชาติของกลุ่มชาติพันธุ์ทางภาคเหนือแทบทั้งสิ้น

 

ห้วงเวลาแห่งการรอคอย เมนูอาหารที่ผูกโยงธรรมชาติ

“หลามในกระบอกไม้ไผ่มีมาตั้งแต่อดีตกาล เพราะว่าพี่น้องชาวลาหู่อยู่กับป่า เวลาไปในป่าไม่จำเป็นต้องเตรียมอะไรไป พอเข้าไปในป่าหาไม้ทำฟืน เอากระบอกไม้ไผ่เป็นภาชนะปรุงอาหารในคลอง ลำธาร เพื่อที่ประกอบอาหาร เมนูนี้เวลาเข้าป่าทุกคนจะใช้วิธีนี้เป็นส่วนใหญ่ สามารถบอกตัวตนของชาวลาหู่ได้เลย”

‘หลามกระบอกไม้ไผ่’ อาหารป่าของของครอบครัวชาวลาหู่ เมนูที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความทรงจำทั้งสุขและทุกข์ หากพูดถึงห้วงเวลาแห่งการรอคอยมานาน 20 ปีของบ้านผู้สูญหาย นี่คือเมนูลำดับแรกๆ ที่เขาต้องการลิ้มรสอาหารแห่งความสุขร่วมกันบนโต๊ะอีกสักครั้งหนึ่งในชีวิต ‘หลามกระบอกไม้ไผ่’ ใช้วัตถุดิบทุกอย่างที่จากธรรมชาติ เพราะวิถีชีวิตของชาวลาหู่ดั้งเดิมผูกโยงกับห้วยน้ำ ลำคลองแทบทั้งสิ้น เช่น ถ้าหาปลาในแหล่งน้ำธรรมชาติได้ ชาวบ้านจะนำสมุนไพรมาปรุงรสในกระบอกไม้ไผ่เพื่อทำให้อาหารมีกลิ่นหอม ส่วนเครื่องปรุงไม่มีมากอะไรมากมาย ‘พริกกับเกลือ’ คือส่วนผสมที่ทำให้รสสัมผัสในหลามกระบอกไม้ หอม อร่อยได้ โดยไม่กลบความสดใหม่ของผักและเนื้อสัตว์ที่หาได้จากธรรมชาติ

นาอื่อ เล่าความทรงจำเกี่ยวกับ ‘หลามในกระบอกไม้ไผ่’ เมนูที่เธอชอบกินกับครอบครัวว่า ตอนที่สามียังอยู่ เขามักจะนำเนื้อสัตว์ สมุนไพร และผักจากในป่ากลับมาทำอาหารกินเองที่บ้าน แต่หากวันหนึ่ง จะหวะ (สามีที่สูญหายไป)มีเหตุเร่งด่วน เธอต้องรับบทเป็นนักปรุงรสด้วยตัวเอง เพื่อให้คนในบ้านได้ล้อมวงกินข้าวด้วยกัน หรือถ้าวันไหนเข้าป่าหรือเข้าสวน เมนูนี้ก็จะถูกนำไปทำระหว่างพักเดินทาง เพราะไม่ต้องเตรียมอุปกรณ์ครัวมากมาย ไม่ใช้ช้อน ไม่ใช้หม้อ แต่สามารถนำวัตถุดิบจากธรรมชาติมาทำอาหารได้ทั้งหมด โดยทำกระบอกไม้ไผ่เป็นภาชนะใส่อาหาร ส่วนเนื้อสัตว์เครื่องปรุงก็หาได้จากในพื้นที่ที่เดินทางเข้าไป สะท้อนให้เห็นวิถีชีวิตของชาวลาหู่ที่ผูกพันกับธรรมชาติ

“เมนูนี้มีรสชาติไม่เหมือนต้มยำทำแกงทั่วไป เพราะวัตถุดิบทั้งหมดถูกใส่ลงไปในกระบอกไม้ไผ่ทำให้ได้กลิ่นและรสชาติของเยื่อไผ่ผสมรวมอยู่ด้วย ส่วนเหตุผลที่ชาวลาหู่ยกให้เมนูนี้เป็นอันดับหนึ่งในบ้าน เพราะเป็นสิ่งที่หาวัตถุดิบง่าย ทำง่าย ไม่ทำลายธรรมชาติ เนื่องจากทุกครั้งที่ต้องไปทำไร่ ทำสวน หรือเข้าป่าจะต้องพกมีดไปด้วย ชาวบ้านเลยมีวิถีการกินที่ให้สอดคล้องกับธรรมชาติ เป็นที่มาของการทำหลามในกระบอกไม้ไผ่” 

ในส่วนของเนื้อสัตว์พวกกระรอก นก ปลา พืชผักที่อยู่ในป่า ลำห้วย หรือลำธาร เป็นอาหารชั้นเลิศที่ถูกใส่ลงไปในกระบอกไม้ไผ่ ส่วนมีดเป็นอาวุธประจำกายของชาวลาหู่ที่ใช้มาทำเป็นอุปกรณ์ในการทำอาหารกินร่วมกันในบ้าน ขณะที่การจัดจานทุกบ้านใช้วิธีเรียบง่าย หากนึกภาพไม่ออกหลามกระบอกไม้ไผ่ จะมีขั้นตอนการทำคล้ายกับ ‘ข้าวหลามกะทิถั่วดำ’ ที่เป็นของขึ้นชื่อในต่างจังหวัดของไทย

“วิถีชีวิตของพี่น้องลาหู่นอกจากผักตามธรรมชาติ สัตว์ ที่นำมาปรุงอาหาร หากอยู่ที่บ้านจะใช้เครื่องปรุงสองอย่างนี้คือสิ่งที่สำคัญคือ พริกกับเกลือ และไม่ว่าจะเป็นข้าวชาวลาหู่ก็หุงในกระบอกไม้ไผ่ กับข้าวเราก็ทำในกระบอกไม้ไผ่ คล้ายๆ ข้าวหลามที่คนส่วนใหญ่นิยมกินกันในปัจจุบัน”

 

 

ความในใจที่ไม่เคยลืม ถึงบุคคลที่ถูกบังคับให้เป็นผู้สูญหาย  

“อยากให้กลับมากินข้าวร่วมกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตา ได้เดินทางไปไหนมาไหนด้วยกัน อยากจะให้อยู่ร่วมภาคภูมิใจกับลูกหลาน แต่ตอนนี้ไม่มีใคร ตอนนี้ต้องอยู่คนเดียวกับหลานพิการ ถ้ามีโอกาสกลับมาเจอกัน เมนูที่อยากทำร่วมกับสามีคงจะทำหลามเนื้อกระรอก ไก่ป่า นกที่มีในป่า อยากจะกลับมารับประทานอาหารร่วมกันเหมือนเดิม เหมือนที่ผ่านมาที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน”

เป็นเวลาเกือบ 20 ปี ที่นาอื่อไม่ได้ใช้ชีวิตกับสามี แม้จะเป็นเวลานานเกือบครึ่งชีวิตที่ต้องจากกัน แต่ทุกความทรงจำดีๆ ยังคงอยู่ แม้การไม่มีสามีอยู่จะทำให้มีชีวิตที่ยากลำบากยิ่งขึ้น เพราะไม่มีเสาหลักของครอบครัวจนทำให้เธอทุกข์กาย ทุกข์ใจ ใช้ชีวิตเหมือนคนตายทั้งเป็น แต่ยิ่งเห็นเมนูหลามในกระบอกไม้ไผ่ ยิ่งทำให้เธอรู้สึกคิดถึงและสงสารสามีที่ถูกทำร้าย ถูกทรมาน และสูญหายไป และไร้คำตอบที่แท้จริงจากฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

‘ความคิดถึง’ คือสิ่งที่นาอื่อต้องการสื่อสารถึงสามีอันเป็นที่รัก อยากเล่าให้เขาฟังว่าทุกวันนี้ครอบครัวเรามีลูกหลานเยอะขึ้นมากแค่ไหน แม้เธอจะมีชีวิตที่ยากลำบาก และคิดเสมอว่าถ้าสามียังอยู่ครอบครัวคงจะไม่ลำบาก หรือทนทุกข์แบบที่เป็นอยู่ทุกวันนี้  และได้แต่หวังว่า ก่อนสิ้นลมหายใจจะมีโอกาสได้พบเจอหรือทราบข่าวคราวของเขาอีกสักครั้ง และนั่นคงทำให้เธอนอนตายตาหลับ

“ทุกครั้งพอเห็นคนอื่นกินหลามกระบอกไม้ไผ่ จะอดคิดถึงสามีไม่ได้ เพราะเป็นอาหารที่เราเคยกินด้วยกันประจำ ทุกวันนี้ยังนึกสงสารสามีที่ต้องหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยและคิดถึงอย่างสุดหัวใจ

 

#แล้วกลับมากินข้าวด้วยกันนะ

#RememberMe

#กลับสู่วันวาน