ครบรอบ 1 ปีของการโจมตีและความขัดแย้งในอิสราเอล/เขตยึดครองปาเลสไตน์ การหยุดยิงและปล่อยตัวประกันเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุด

Amnesty International

วันที่ 7 ตุลาคม 2567 ครบรอบหนึ่งปีของการโจมตีที่โหดร้ายโดยกลุ่มฮามาสและกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ ในพื้นที่ตอนใต้ของอิสราเอล ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 1,200 คน และถูกลักพาตัวไปอีก 250 คน นอกจากนี้ยังครบรอบหนึ่งปีของการโจมตีอย่างต่อเนื่องและกว้างขวางโดยกองทัพอิสราเอล ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 41,500 คน และประชาชนประมาณ 1.9 ล้านคนต้องพลัดถิ่นในฉนวนกาซาที่ถูกยึดครอง

แอกเนส คาลามาร์ด เลขาธิการ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเผยว่า วันที่ 7 ตุลาคมเป็นวันแห่งการไว้อาลัยให้กับชาวอิสราเอลที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักของพวกเขาไป จากการถูกสังหารและถูกลักพาตัว และอีกหลายพันคนที่ยังต้องพลัดถิ่นฐาน ตั้งแต่เกิดเหตุโจมตีที่โหดร้ายของกลุ่มฮามาสและกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ

“นอกจากนี้ วันที่ 7 ตุลาคมยังเป็นวันครบรอบหนึ่งปีของปฏิบัติการที่โหดร้ายของกองทัพอิสราเอลในกาซาอีกด้วย ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายหมื่นคน และประชากรถึง 90% ต้องอพยพออกจากพื้นที่ ส่งผลให้เกิดวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่ร้ายแรงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทำให้ชาวปาเลสไตน์ในกาซาเผชิญกับความเสี่ยงที่จะถูกฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ตามที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศได้ระบุไว้

ข้อมูลพื้นฐาน

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลได้ดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดเกี่ยวกับอาชญากรรมที่เกิดขึ้นในวันที่ 7 ตุลาคมและหลังจากนั้น แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้เรียกร้องให้มีการไต่สวนเพื่อเอาผิดกับกลุ่มฮามาสและกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ  เนื่องจากการจงใจสังหาร การลักพาตัว และการโจมตีอย่างไม่เลือกเป้าหมาย รวมถึงการยิงจรวดใส่อิสราเอล แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้เรียกร้องซ้ำแล้วซ้ำอีกให้ปล่อยตัวประกันที่เป็นพลเรือนทุกคนในกาซาทันที

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลยังได้ตรวจสอบการกระทำที่เป็นอาชญากรรมสงครามหลายครั้งที่เกิดจากอิสราเอล รวมถึง การโจมตีโดยตรงต่อพลเรือนและวัตถุของพลเรือน หรือการโจมตีอย่างไม่เลือกเป้าหมายและไม่ได้สัดส่วน รวมทั้งการโจมตีที่มิชอบด้วยกฎหมายอื่นๆ และการลงโทษแบบเหมารวมต่อพลเรือน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลได้เรียกร้องให้มีการหยุดยิง และกระตุ้นให้อัยการของศาลอาญาระหว่างประเทศเร่งการสอบสวนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในรัฐปาเลสไตน์

การละเมิดในเขตยึดครองปาเลสไตน์และอิสราเอล เกิดขึ้นมานานก่อนการโจมตีในวันที่ 7 ตุลาคม แอมเนสตี้ได้ตรวจสอบและประณามระบบการแบ่งแยกเชื้อชาติและกดขี่ที่โหดร้ายของอิสราเอล และ การยึดครองอย่างมิชอบด้วยกฎหมาย ทั้งยังเป็นการขัดต่อมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอีกด้วย

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแอมเนสตี้
บริจาคสนับสนุนแอมเนสตี้