พันธมิตรสิทธิมนุษยชน

พันธมิตรสิทธิมนุษยชน

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย (หรือ แอมเนสตี้ ประเทศไทย) ทำงานกับผู้ประสานงานภูมิภาคเพื่อขยายการทำงานรณรงค์ สิทธิมนุษยชนศึกษาและงานเยาวชนทั่วประเทศ โดยในปี 2565 แอมเนสตี้ ประเทศไทย ได้เริ่มทำงานร่วมกับผู้ประสานงานภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในปี 2566 แอมเนสตี้ ประเทศไทย ได้ขยายและเพิ่มพื้นที่การทำงานกับผู้ประสานงานในภาคใต้ และในปี 2567 เป็นต้นมา แอมเนสตี้ ประเทศไทย มีการยกระดับการทำงานร่วมกันและเปลี่ยนชื่อจากผู้ประสานงานภาคเป็น “ทีมพันธมิตรสิทธิมนุษยชน” เราได้เชิญชวนองค์กร กลุ่มหรือบุคคลที่สนใจร่วมเป็นพันธมิตรสิทธิมนุษยชน เพื่อเป็นเครือข่ายในการขับเคลื่อนงานด้านสิทธิมนุษยชนในระดับภูมิภาค และเพื่อขยายฐานเยาวชน สมาชิก นักเคลื่อนไหว รวมถึงผู้สนับสนุนที่มีความหลากหลายในเชิงประเด็นและความหลากหลายในเชิงพื้นที่ ซึ่งเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังในการสร้างความเปลี่ยนแปลง ทั้งในระดับประเทศและในพื้นที่ของตัวเอง

ในปี 2567 แอมเนสตี้ ประเทศไทย มีพันธมิตรสิทธิมนุษยชน 4 กลุ่ม ครอบคลุมทั้ง 4 พื้นที่ ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้และพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ พันธมิตรสิทธิมนุษยชนทั้ง 4 กลุ่ม ประกอบไปด้วย

  1. กลุ่มสนับสนุนสังคมประชาธิปไตยที่เป็นธรรมและเท่าเทียม (KNACK)
  2. กลุ่มนักกฎหมายอาสาเพื่อสิทธิมนุษยชนภาคใต้ (Law Long Beach)
  3. เครือข่ายเยาวชนสังเกตการณ์เลือกตั้ง (We Watch)
  4. เครือข่ายนักกิจกรรมรุ่นใหม่ภาคอีสาน

โดยในปี 2567 พันธมิตรสิทธิมนุษยชนของแอมเนสตี้ ประเทศไทย แต่ละกลุ่มได้จัดกิจกรรมห้องเรียนสิทธิมนุษยชนในรูปแบบต่างๆ หลายต่อหลายครั้งในรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อเป็นการขยายพื้นที่การเรียนรู้ประเด็นสิทธิมนุษยชน ซึ่งประกอบด้วย

  • กลุ่มสนับสนุนสังคมประชาธิปไตยที่เป็นธรรมและเท่าเทียม (KNACK) ได้จัดกิจกรรมห้องเรียนสิทธิมนุษยชนในภาคเหนือของประเทศไทย โดยห้องเรียนสิทธิมนุษยชนดังกล่าวมีทั้งรูปแบบการอบรมเชิงปฏิบัติการ หรือ Workshop และรูปแบบของการบรรยาย ซึ่งจัดขึ้นทั้งในจังหวัดเชียงใหม่ ลำปางและพิษณุโลก เช่น
    • ห้องเรียนสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน วาระสิทธิในการพักผ่อน โดยผู้เข้าร่วมหลักของกิจกรรมครั้งนี้จะเป็นนักกิจกรรมและนักปกป้องสิทธิมนุษยชนในจังหวัดเชียงใหม่
    • ห้องเรียนสิทธิมนุษยชนสำหรับเยาวชนชาติพันธุ์ โดยผู้เข้าร่วมทั้ง 32 คนเป็นเยาวชนชาติพันธุ์ พวกเขาได้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้เพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจในประเด็นเรื่องสิทธิในการมีชีวิตที่ดี
    • ห้องเรียนสิทธิมนุษยชนสำหรับเยาวชนที่เป็นลูกหลานของแรงงานข้ามชาติ มีผู้เข้าร่วมที่เป็นเยาวชนซึ่งเป็นลูกหลานของแรงงานข้ามชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยพวกเขาเรียกตัวเองว่าเป็น Shan Youth Power และพวกเขาทั้ง 35 คน ได้เข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้เพื่อเรียนรู้และทำความเข้าใจในประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานและสิทธิในเนื้อตัวร่างกาย
    • ห้องเรียนสิทธิมนุษยชน กิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้สิทธิความหลากหลายทางเพศ ซึ่งจัดขึ้นที่จังหวัดลำปาง โดยมีผู้เข้าร่วมทั้งสิ้น 38 คน เพื่อเรียนรู้ แลกเปลี่ยนและทำความเข้าใจในประเด็นเรื่องสิทธิของผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ
    • กิจกรรมนักกฎหมายตัวน้อย ตอนห้องเรียนสิทธิมนุษยชน กิจกรรมนี้จัดขึ้นภายใต้โครงการนักกฎหมายคืนถิ่น เสริมสร้างความรู้คู่สุขภาวะ เป็นการอบรมเชิงปฏิบัติการและการบรรยายในประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ รวมถึงสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และ
    • ห้องเรียนสิทธิมุษยชน ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นกิจกรรมในรูปแบบการอบรมเชิงปฏิบัติการและการบรรยายในห้วข้อเรื่อง สิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ผู้เข้าร่วมในกิจกรรมครั้งนี้เป็นสามเณรและพระภิกษุจำนวน 33 รูป
  • เครือข่ายเยาวชนสังเกตการณ์เลือกตั้ง (We Watch) ได้จัดกิจกรรมห้องเรียนสิทธิมนุษยชนทั้งในรูปแบบของการดูหนังสั้น การเรียนรู้เชิงกระบวนการ การเรียนรู้ผ่านเครื่องมือ การเรียนรู้ผ่านการรณรงค์ รวมไปถึงการลงพื้นที่เก็บข้อมูล โดยห้องเรียนสิทธิมนุษยชนที่เครือข่ายเยาวชนสังเกตการณ์เลือกตั้งได้จัดขึ้นตลอดปี 2567 มีทั้งประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน สิทธิมนุษยชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ การจับประเด็นและการเก็บข้อมูลเพื่อพัฒนาไปสู่งานรณรงค์เชิงนโยบายในอนาคต รวมถึงการออกแบบงานรณรงค์สาธารณะ
  • เครือข่ายนักกิจกรรมรุ่นใหม่ภาคอีสาน ได้จัดกิจกรรมห้องเรียนสิทธิมนุษยชนในรูปแบบการอบรมชิงปฏิบัติการ หรือ Workshop ทั้งสิ้น 3 ครั้ง ในหัวข้อสิทธิมนุษยชนเบื้องต้น สิทธิในเสรีภาพการชุมนุมและการแสดงออกให้กับกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเครือข่ายภาคประชาสังคม องค์กรสมาชิกคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคอีสาน (กป.อพช.อีสาน) กลุ่มโคราชมูฟเมนต์ รวมถึงนักศึกษาและนักกิจกรรมในพื้นที่จังหวัดสกลนคร ทั้งนี้ เครือข่ายนักกิจกรรมรุ่นใหม่ภาคอีสานยังได้จัดกิจกรรมในรูปแบบของการสนับสนุนความเข้มแข็งให้กับกลุ่มนักกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นการแลกเปลี่ยนสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในพื้นที่และการร่วมออกแบบแนวทางหนุนเสริมการทำงานร่วมกันกับกลุ่มนักกิจกรรมในพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย ทั้งในจังหวัดนครราชสีมา สกลนคร มหาสารคามและขอนแก่น

ในปี 2568 นี้ แอมเนสตี้ ประเทศไทย ยังคงมุ่งเน้นการทำงานในประเด็นสำคัญ ได้แก่ สิทธิในเสรีภาพการแสดงออก สิทธิในการสมาคมและการชุมนุมโดยสงบ และสิทธิในที่อยู่อาศัย เรามุ่งมั่นที่จะเพิ่มฐานผู้สนับสนุนของเราให้กว้างขึ้น โดยเฉพาะเด็ก เยาวชนและนักกิจกรรม และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว รวมถึงเพื่อขยายโอกาสในการมีส่วนร่วมของเยาวชนในพื้นที่ต่างๆ แอมเนสตี้ ประเทศไทย จึงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการทำงานเชิงลึกมากขึ้นในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้และพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เราจึงเปิดรับสมัครองค์กร กลุ่มหรือบุคคลที่ต้องการร่วมเป็นเครือข่ายพันธมิตรสิทธิมนุษยชน เพื่อสนับสนุนการสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านสิทธิมนุษยชนของแอมเนสตี้ ประเทศไทย ในปี 2568 – 2569  

ปัจจุบัน เรามีพันธมิตรสิทธิมนุษยชนด้วยกัน 4 กลุ่มประกอบด้วย

  1. กลุ่มสนับสนุนสังคมประชาธิปไตยที่เป็นธรรมและเท่าเทียม (KNACK)
  2. กลุ่มนักกฎหมายอาสาเพื่อสิทธิมนุษยชนภาคใต้ (Law Long Beach)
  3. เครือข่ายเยาวชนสังเกตการณ์เลือกตั้ง (We Watch)
  4. กลุ่มดาวดิน

องค์กร กลุ่มหรือบุคคลที่สนใจร่วมเป็นเครือข่ายพันธมิตรสิทธิมนุษยชน สามารถติดตามการรับสมัครพันธมิตรสิทธิมนุษยชนทางช่องทางการสื่อสารต่างๆ ของแอมเนสตี้ ประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์หรือเฟซบุ๊ก ทั้งนี้ องค์กร กลุ่ม หรือบุคคลใดที่สนใจร่วมงานกับเรา สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ [email protected]  หรือโทรศัพท์ 098-282-1279