ถูกจำคุก 11 ปีเนื่องจากสนับสนุนสิทธิผู้หญิง

มานาฮีล อัล-โอตัยบี เป็นครูสอนออกกำลังกายและผู้กล้าในการสนับสนุนและเปิดเผยเรื่องสิทธิผู้หญิง ในซาอุดีอาระเบีย โดยในเดือนพฤศจิกายน 2565 เธอถูกจับกุมหลังจากโพสต์รูปถ่ายของตัวเองที่ห้างสรรพสินค้าลงใน Snapchat ซึ่งในรูปถ่ายนั้นเธอไม่ได้สวมเสื้อคลุมยาวหลวมแบบดั้งเดิมที่เรียกว่าอาบายา จึงถูกตัดสินโทษจำคุก 11 ปี  

มานาฮีล กำลังเผชิญหน้ากับอะไร?

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทางการซาอุดีอาระเบียอ้างว่าพวกเขามีความก้าวหน้าในการส่งเสริมสิทธิผู้หญิงในประเทศ  มานาฮีล อัล-โอตัยบี อายุ 30 ปีเชื่อคำสัญญาเหล่านี้และรู้สึกอิสระมากขึ้นในการแสดงความคิดเห็นและสวมใส่ในสิ่งที่เธอชื่นชอบ แต่ตอนนี้เธอกลับต้องเผชิญกับการถูกคุมขังที่ยาวนานกว่าทศวรรษ คำสัญญาเหล่านี้ช่างว่างเปล่าอย่างยิ่ง 

ก่อนที่เธอจะถูกจับกุม มานาฮีล เคยเป็นครูสอนออกกำลังกายและเป็นผู้กล้าในการสนับสนุนและเปิดเผยเรื่องสิทธิสตรี โดยใช้โซเชียล มีเดียเพื่อเรียกร้องเสรีภาพที่มากขึ้นสำหรับผู้หญิงในประเทศของเธอ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 มานาฮีล ถูกจับกุมและถูกตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายด้านการต่อต้านอาชญากรรมทางไซเบอร์เนื่องจากเธอทวีตสนับสนุนสิทธิผู้หญิงและโพสต์รูปถ่ายของเธอเองที่ห้างสรรพสินค้าลงใน Snapchat โดยไม่ได้สวมชุดอาบายา ซึ่งเป็นชุดเสื้อคลุมหลวมแขนยาวแบบดั้งเดิม 

คดีของเธอถูกส่งต่อไปยังศาลต่อต้านการก่อการร้ายของประเทศ ซึ่งก็คือศาลอาญาชำนัญพิเศษที่ขึ้นชื่อด้านการลงโทษที่รุนแรงและการทรมานอย่างไม่เป็นธรรม เมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2567 มานาฮีลถูกตัดสินโทษจำคุก 11 ปี ในข้อหา “ความผิดฐานก่อการร้าย” จากการแสดงออกทางออนไลน์ของเธอ ในการสืบพยานอย่างลับ ๆ ซึ่งทราบผลเพียงไม่กี่สัปดาห์ต่อมา 

ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2566 มานาฮีล ได้เล่าให้ครอบครัวของเธอฟังว่าเธอถูกเพื่อนผู้ต้องขังทำร้าย ซึ่งผลที่ตามมาก็คือ เธอถูกตัดขาดจากโลกภายนอกและไม่สามารถสื่อสารกับใครได้ ต่อมา ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2567 มานาฮีล สามารถโทรหาครอบครัวของเธอได้เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย เธอเล่าว่าตนถูกกักขังเดี่ยว นอกจากนั้นยังถูกทำร้ายอย่างทารุณจนทำให้เธอขาหักและไม่ได้รับการรักษาพยาบาล 

คุณจะช่วย มานาฮีล ได้อย่างไร?

เรียกร้องให้ซาอุดีอาระเบียปล่อยตัวมานาฮีล อัล-โอตัยบี

เขียน เปลี่ยน โลก

ในวันที่10 ธันวาคม ของทุก ๆ ปี คือวันสิทธิมนุษยชนสากล ผู้คนหลายแสนคนทั่วโลกร่วมกันเขียนจดหมายมากมายเพื่อผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน จดหมายหลายฉบับถูกส่งถึงผู้ถูกละเมิดสิทธิโดยตรง ขณะที่จดหมายอีกจำนวนมากก็ถูกส่งไปยังรัฐบาลของประเทศที่เกี่ยวข้องนั้น ๆ จดหมายเพียงฉบับเดียวที่ถูกส่งถึงผู้มีอำนาจอาจไม่ได้รับความสนใจ แต่หากมีจดหมายนับหมื่นนับแสนฉบับที่เรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านสิทธิมนุษยชนนั้นก็ยากที่จะมองข้ามได้ การรณรงค์กว่า 60 ปีที่ผ่านมาของแอมเนสตี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการเขียนเปลี่ยนชีวิตคนได้จริงๆ

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในแคมเปญ เขียน เปลี่ยน โลก จากการเข้าร่วมกิจกรรมที่จัดอยู่ใกล้กับคุณ หรือดาวน์โหลดข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการเขียนเปลี่ยนโลกของคุณได้ที่นี่!