ถูกคุกคามจากการปกป้องเสรีภาพของประชาชน 

ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์และนักปกป้องสิทธิมนุษยชน ศาสตราจารย์ เชบเน็ม โครุร ฟินจานจึ  ได้อุทิศชีวิตของเธอเพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนและขจัดการทรมาน ซึ่งทางการตุรกีพยายามที่จะปิดปากเซ็บเน็ม และสั่งให้ทำการสอบสวนทางอาญา โดยไม่มีมูลความจริง ในปี พ.ศ. 2566 เธอถูกตัดสินลงโทษในข้อหา “โฆษณาชวนเชื่อให้กับองค์กรก่อการร้าย” หลังจากที่เธอเรียกร้องให้มีการสอบสวนข้อกล่าวหาที่ว่ากองทัพตุรกีใช้อาวุธเคมีในอิรัก โดยเซบเน็มกำลังอุทธรณ์คำตัดสิน ซึ่งอาจถูกจำคุกเกือบสองปีหากไม่สำเร็จ 

เซบเน็ม กำลังเผชิญกับอะไร?

ศาสตราจารย์ เชบเน็ม โครุร ฟินจานจึ เพลิดเพลินกับการใช้เวลาร่วมกับแมวของเธอที่ชื่อว่า ซิมโมน และ อูลาลา ที่บ้าน เธอยังมีความสุขกับการได้ทำอาหาร และฟังเพลงโดยชื่นชอบนักแต่งเพลงอย่างบีโธเฟน 

ในอีกด้าน เซบเน็มเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ ซึ่งมีชื่อเสียงจากผลงานเกี่ยวกับการต่อต้านการทรมาน โดยเธอได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาโปรโตคอลของสหประชาชาติเกี่ยวกับการสืบสวนการทรมาน และคู่มือด้านความรุนแรงทางเพศให้กับองค์การอนามัยโลก จนถึงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2567 เธอได้รับตำแหน่งเป็นหัวหน้าสมาคมการแพทย์ตุรกี ซึ่งเซบเน็มยังคงต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนของผู้คนในตุรกี รวมถึงสิทธิในเสรีภาพการแสดงออกอีกด้วย 

แต่ทางการตุรกีกลับพยายามปิดปากและยุติงานสำคัญของเซ็บเน็ม ด้วยการสอบสวนทางอาญา คุมขัง และดำเนินคดีโดยไม่มีมูลความจริงในเดือนมกราคม พ.ศ. 2566 เธอถูกตัดสินว่ามีความผิดในข้อหา “โฆษณาชวนเชื่อให้กับองค์กรก่อการร้าย” หลังจากที่เธอเรียกร้องให้มีการสอบสวนข้อกล่าวหาที่ว่ากองทัพตุรกีใช้อาวุธเคมีในอิรัก โดยเซบเน็มกำลังยื่นอุทธรณ์ ซึ่งอาจส่งผลให้ถูกจำคุกเกือบสองปีหากการอุทธรณ์ไม่สำเร็จ 

รัฐบาลกำลังปราบปรามเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชน และกำจัดการทำงานของนักปกป้องสิทธิมนุษยชน  แต่เซบเน็มปฏิเสธที่จะยอมจำนนต่อคำข่มขู่ของรัฐบาล เธอกล่าวว่า “ฉันไม่เคยมีนิสัยก้มหัวต่อผู้มีอำนาจใด ๆ จนถึงทุกวันนี้” 

คุณจะช่วย เซบเน็ม ได้อย่างไร?

เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่หยุดใช้ระบบยุติธรรมทางอาญาในทางที่ผิดเพื่อคุกคามเซบเน็ม และละเว้นจากการดำเนินคดีอื่นๆต่อเธอจากการปกป้องสิทธิมนุษยชน 

เขียน เปลี่ยน โลก

ในวันที่10 ธันวาคม ของทุก ๆ ปี คือวันสิทธิมนุษยชนสากล ผู้คนหลายแสนคนทั่วโลกร่วมกันเขียนจดหมายมากมายเพื่อผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน จดหมายหลายฉบับถูกส่งถึงผู้ถูกละเมิดสิทธิโดยตรง ขณะที่จดหมายอีกจำนวนมากก็ถูกส่งไปยังรัฐบาลของประเทศที่เกี่ยวข้องนั้น ๆ จดหมายเพียงฉบับเดียวที่ถูกส่งถึงผู้มีอำนาจอาจไม่ได้รับความสนใจ แต่หากมีจดหมายนับหมื่นนับแสนฉบับที่เรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านสิทธิมนุษยชนนั้นก็ยากที่จะมองข้ามได้ การรณรงค์กว่า 60 ปีที่ผ่านมาของแอมเนสตี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการเขียนเปลี่ยนชีวิตคนได้จริงๆ

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในแคมเปญ เขียน เปลี่ยน โลก จากการเข้าร่วมกิจกรรมที่จัดอยู่ใกล้กับคุณ หรือดาวน์โหลดข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อสนับสนุนการเขียนเปลี่ยนโลกของคุณได้ที่นี่!