สืบเนื่องจากการจับกุมนักการเมืองฝ่ายค้านของฮ่องกงประมาณ 50 คนตอนเช้าของวันพุธ ในข้อหาละเมิดพระราชบัญญัติความมั่นคง ยามินี มิชรา ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลกล่าวว่า
“การกวาดล้างนักการเมืองฝ่ายค้านของฮ่องกงที่น่าตกใจครั้งนี้ ซึ่งรวมถึงการจับกุมผู้สมัครรับเลือกตั้ง นักกิจกรรม และผู้สำรวจความเห็น เป็นสัญญาณบ่งชี้อย่างชัดเจนสุดว่า พระราชบัญญัติความมั่นคงได้ถูกใช้เป็นอาวุธ เพื่อลงโทษบุคคลที่กล้าท้าทายสถาบันหลัก”
ข้อมูลพื้นฐาน
นักการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยฮ่องกงประมาณ 50 คนถูกจับเมื่อเช้าวันพุธ โดยถูกกล่าวหาว่าละเมิดพระราชบัญญัติความมั่นคงของฮ่องกง
จากรายงานข่าวของสื่อและโซเชียลมีเดีย พวกเขาถูกดำเนินคดีในข้อหา “ล้มล้างการปกครอง” สืบเนื่องจากการจัดตั้งและการเข้าร่วมในการลงคะแนนเพื่อหยั่งเสียงเบื้องต้นตามชื่อที่พวกเขาเรียก สำหรับผู้สมัครที่จะลงเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งต่อมามีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปเนื่องจากปัญหาโรคโควิด-19
ในบรรดาผู้ถูกจับกุมประกอบด้วย อดีตสมาชิกรัฐสภาและสมาชิกสภาเขต ผู้จัดการลงคะแนนหยั่งเสียง ได้แก่ เบนนี ไถ่ และจอห์น แคลนซี ทนายความชาวอเมริกัน ซึ่งทำหน้าที่เป็นเหรัญญิกของหนึ่งในองค์กรผู้จัด นอกจากนั้น ยังมีโรเบิร์ต ชุง ผู้อำนวยการบริหารสถาบันวิจัยความเห็นสาธารณะฮ่องกง (Public Opinion Research Institute – PORI) ซึ่งสนับสนุนด้านเทคโนโลยีให้กับการออกเสียงครั้งนี้
ตำรวจยังได้บุกเข้าไปตรวจค้นบ้านของโจชัว หว่อง นักกิจกรรมที่อยู่ระหว่างถูกคุมขัง ตามข้อมูลจากทวิตเตอร์ของเขาเอง ในขณะเดียวกัน ตำรวจยังไปที่สำนักงานหนังสือพิมพ์แอปเปิลเดลี และสแตนด์ เพื่อหาข้อมูลการติดต่อผู้ลงสมัครที่ผ่านการหยั่งเสียงครั้งนั้น
ฝ่ายประชาธิปไตยได้จัดการออกเสียงเมื่อเดือนกรกฎาคมที่แล้ว เพื่อคัดเลือกผู้สมัครฝ่ายประชาธิปไตยที่จะลงแข่งขันในการเลือกตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัติ โดยคาดหวังว่าจะได้รับเสียงข้างมากในสภานิติบัญญัติ และอาจมี ส.ส. มากกว่า 35 ที่นั่ง
แต่ในช่วงเวลาดังกล่าว แคร์รี หลำ ผู้ว่าการฮ่องกง กล่าวว่า การออกเสียงครั้งนั้นผิดกฎหมาย และเตือนว่าอาจเป็นการละเมิดพระราชบัญญัติความมั่นคง ซึ่งมีการปะกาศใช้ไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านั้น