แอมเนสตี้ออกแถลงการณ์ชี้กฎอัยการศึกต้องไม่เป็น "พิมพ์เขียวให้กับการละเมิดสิทธิมนุษยชน"

21 พฤษภาคม 2557

Amnesty International Thailand

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 เรียกร้องทางการไทยให้การประกันว่าต้องมีการคุ้มครองและเคารพสิทธิมนุษยชน หลังที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึก ซึ่งให้อำนาจอย่างมหาศาลกับกองทัพไทย ทำให้สามารถกำหนดมาตรการจำกัดสิทธิมนุษยชนที่สำคัญอย่างเข้มงวด และเป็นเหตุให้มีการสั่งปิดสื่อวิทยุและโทรทัศน์หลายแห่ง

ริชาร์ด เบนเนต (Richard Bennett) ผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชีย แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่าการประกาศกฎอัยการศึกจะต้องไม่เป็นแม่พิมพ์ให้กับการละเมิดสิทธิมนุษยชน กองทัพจะต้องแสดงความระมัดระวังอย่างยิ่งยวด และการเคารพอย่างเต็มที่ต่อพันธกรณีของไทยที่มีต่อกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ    

กองทัพไทยได้ตัดสินใจแต่ฝ่ายเดียวในการประกาศกฎอัยการศึก เป็นเหตุให้มีการชะลอหรือจำกัดการปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนหลายประการ

ในขณะนี้กองทัพมีอำนาจควบคุมตัวบุคคลโดยไม่ต้องมีหมายจับนานถึงหนึ่งสัปดาห์ สามารถสั่งยึดทรัพย์สิน และตรวจค้นบุคคลและทรัพย์สินโดยไม่ต้องขอหมายศาล ทั้งยังประกันให้กองทัพไม่ต้องถูกฟ้องร้องดำเนินคดีหรือเรียกค่าเสียหาย

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลกังวลอย่างยิ่งว่า ที่ผ่านมากองทัพไทยได้ใช้อำนาจตามกฎหมายฉบับนี้เพื่อกำหนดมาตรการจำกัดเสรีภาพในการแสดงออก ซึ่งเป็นการละเมิดพันธกรณีของไทยที่มีต่อกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ

กองทัพไทยยังสั่งห้ามสื่อไม่ให้รายงานข่าว “ที่เป็นภัยต่อความมั่นคงแห่งชาติ” และได้สั่งปิดสถานีโทรทัศน์อย่างน้อย 10 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นสถานีที่เสนอรายการทั้งของกลุ่มที่สนับสนุนหรือต่อต้านรัฐบาล

“ความพยายามของกองทัพในการควบคุมอย่างเข้มงวดต่อสื่อมวลชนอิสระ เป็นเรื่องน่ากังวลอย่างยิ่ง ต้องไม่มีการอ้างความมั่นคงแห่งชาติเพื่อเป็นเหตุผลในการปราบปรามการใช้เสรีภาพในการแสดงออกอย่างสงบ และเรากระตุ้นให้กองทัพให้พื้นที่กับสื่อในการปฏิบัติหน้าที่ของตนที่ชอบด้วยกฎหมาย”

“สถานการณ์ในไทยมีความตึงเครียดและอ่อนไหว ความพยายามใด ๆ ที่จะควบคุมสิทธิการประท้วงอย่างสงบและสิทธิมนุษยชนอื่น ๆ ย่อมอาจส่งผลให้สถานการณ์เลวร้ายลง ผู้นำการเมืองทั้งสองฝ่ายต้องประกาศอย่างชัดเจนต่อผู้สนับสนุนของตนว่า ไม่ยอมรับให้มีการปฏิบัติมิชอบด้านสิทธิมนุษยชนใด ๆ ขึ้น” ริชาร์ด เบนเนตกล่าว

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลยังกระตุ้นให้กองทัพไทยประกาศอย่างชัดเจนต่อกำลังพลของตน รวมทั้งผู้บังคับบัญชาว่า พวกเขาจะไม่ได้รับการยกเว้นจากการฟ้องคดี  หากปฏิบัติหน้าที่จนเป็นเหตุให้เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน