แอมเนสตี้แถลงหลังทางการเมียนมาใช้ความรุนแรงการสลายการชุมนุมโดยสงบ 

9 กุมภาพันธ์ 2564

Amnesty International 

สืบเนื่องจากรายงานว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายคน หลังจากเจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมโดยที่กรุงเนปิดอว์เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564  

เอ็มเมอร์ลีน จิล รองผู้อำนวยการด้านงานวิจัยประจำภูมิภาค แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเผยว่า ดังที่หลายคนหวาดกลัว ทางการเมียนมาตอบโต้กับการชุมนุมโดยสงบที่ขยายตัวขึ้น โดยใช้กำลังอย่างไม่จำเป็นและเกินกว่าเหตุ  

 

ในช่วงเวลาที่อ่อนไหวอย่างมากเช่นนี้ ทางการต้องเคารพและประกันสิทธิในการชุมนุมโดยสงบ และต้องไม่สั่งห้าม จำกัด ขัดขวาง สลาย หรือรบกวนการชุมนุมโดยสงบ หากไม่มีเหตุผลที่น่าเชื่อถือได้   

การประกันให้การประท้วงเป็นไปอย่างสงบ ไม่ได้หมายถึงการยิงกระสุนยาง แก๊สน้ำตา และการฉีดน้ำแรงดันสูงใส่ผู้เข้าร่วมการชุมนุม   

ในขณะที่การประท้วงทั่วเมียนมายังคงขยายตัวขึ้น ทางการจะต้องเคารพสิทธิในการรวมกลุ่มอย่างสงบของประชาชนเพื่อแสดงออกถึงความทุกข์ยากของพวกเขา”  

 

 

ข้อมูลพื้นฐาน  

ประชาชนหลายหมื่นคนชุมนุมประท้วงในหลายเมืองของเมียนมาในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 ทั้งที่เนปิดอว์ และเมืองใหญ่สุดสองแห่งของประเทศที่ย่างกุ้งและมัณฑะเลย์  

ตามรายงานข่าวของบีบีซีภาคภาษาพม่า มีบุคคลอย่างน้อยเจ็ดคนได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งคนหนึ่งที่เป็นผู้หญิง ระหว่างการชุมนุมโดยสงบที่กรุงเนปิดอว์  

ในการควบคุมการชุมนุม เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงควรเคารพ คุ้มครอง และประกันสิทธิมนุษยชนของผู้จัดและผู้ร่วมชุมนุมอยู่เสมอ นอกจากนั้นเจ้าหน้าที่ยังต้องประกันความปลอดภัยให้กับผู้สื่อข่าว ผู้สังเกตการณ์ และประชาชนทั่วไปที่เข้าร่วมสังเกตการณ์การชุมนุมด้วย