แอมเนสตี้พบระเบิดในเยเมนที่ทำให้เด็กเสียชีวิต 7 คนผลิตในสหรัฐฯ

25 กันยายน 2560

ผู้เชี่ยวชาญแอมเนสตี้พบระเบิดที่ซาอุดีอาระเบียและพันธมิตรใช้ในเยเมนจนมีเด็กเสียชีวิต 7 คนเป็นอาวุธที่ผลิตในสหรัฐฯ วอนทุกฝ่ายหยุดส่งอาวุธไปเยเมนและเริ่มสืบสวนอาชญากรรมสงคราม

 

ผู้เชี่ยวชาญด้านอาวุธของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยว่าอาวุธที่กองกำลังพันธมิตรซึ่งนำโดยซาอุดีอาระเบียใช้ในการทิ้งระเบิดใส่พลเรือนในกรุงซานาของเยเมนเมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา เป็นอาวุธที่ผลิตในสหรัฐฯ โดยมีผู้เสียชีวิต 16 คนและบาดเจ็บอีก 17 คนในเหตุการณ์ครั้งนั้น

 

ข้อค้นพบดังกล่าวมาจากวิเคราะห์หลักฐานภาพถ่ายจากการทิ้งระเบิดย่านที่อยู่อาศัยในกรุงซานา ซึ่งถ่ายโดยนักข่าวชาวเยเมน ผู้เชี่ยวชาญของแอมเนสตี้มั่นใจว่าอาวุธดังกล่าวคือคอมพิวเตอร์ควบคุม MAU-169L/B ซึ่งผลิตในสหรัฐฯ และมักถูกใช้ในการทิ้งระเบิดแบบใช้เลเซอร์นำทาง

 

ข้อค้นพบดังกล่าวสอดคล้องกับข้อมูลของสำนักงานความร่วมมือด้านความมั่นคงกลาโหม (DSCA) ของสหรัฐฯ ที่ระบุว่าในปี 2558 รัฐบาลสหรัฐฯ ได้อนุมัติการขายระเบิดแบบนำทางรุ่นต่างๆ ซึ่งใช้คอมพิวเตอร์ควบคุม MAU-169L/B ให้กับซาอุดีอาระเบีย

 

ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด 16 คนในเหตุการณ์ครั้งนั้น มีเด็กรวมอยู่ด้วยถึงเจ็ดคน และเป็นเด็กที่มาจากครอบครัวเดียวกันห้าคน ส่วนในกลุ่มผู้บาดเจ็บมีเด็กรวมอยู่ด้วยแปดคน หนึ่งในนั้นเป็นทารกอายุสองขวบที่ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าเพราะพ่อแม่เสียชีวิต

 

ลินน์ มาลูฟ ผู้อำนวยการฝ่ายงานวิจัย แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล สำนักงานภูมิภาคตะวันออกกลาง กล่าวว่า "มันไม่มีข้ออ้างอะไรที่สหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ อย่างสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศส จะสามารถนำมาอ้างเพื่อสร้างความชอบธรรมในการส่งอาวุธให้ซาอุดีอาระเบียและพันธมิตรสำหรับใช้ในการสู้รบในเยเมนได้เลย พวกเขาละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอด 30 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงข้อหาอาชญากรรมสงคราม ส่งผลให้ชีวิตพลเรือนได้รับผลกระทบอย่างใหญ่หลวง"

 

ด้านทางการซาอุดีอาระเบียออกมายอมรับว่าได้ทิ้งระเบิดในพื้นที่ดังกล่าวจริง แต่การเสียชีวิตของพลเรือนเป็นความผิดพลาดทางเทคนิค พร้อมยืนยันว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นเป้าหมายที่ชอบธรรมเพราะมีกลุ่มกบฎฮูธีแฝงตัวอยู่เป็นประจำ อย่างไรก็ตาม ตามกฎหมายระหว่างประเทศแล้ว การโจมตีทางทหารใดๆ ที่เกินความจำเป็นและมีพลเรือนเสียชีวิตอาจถือว่าเป็นอาชญากรรมได้

 

แอมเนสตี้ทั่วโลกได้รณรงค์อย่างต่อเนื่องให้สหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ยุติการส่งอาวุธให้กับกองกำลังทุกฝ่ายในสงครามเยเมนมาโดยตลอด นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้มีการสืบสวนสอบสวนการละเมิดสิทธิมนุษยชนและกฎหมายระหว่างประเทศในสงครามครั้งนี้อย่างอิสระ โปร่งใส และเป็นกลาง