แอมเนสตี้แถลงหลัง “ไมค์ระยอง” ถูกจับเป็นครั้งที่สอง

21 สิงหาคม 2563

Amnesty International Thailand

จากกรณีที่มีการจับกุมนายภานุพงศ์ จาดนอก หรือ “ไมค์ระยอง” นักกิจกรรมคนสำคัญใน 5 ข้อหาจากการปราศรัยในกิจกรรม “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา


ปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทยเผยว่า การจับกุมภาณุพงศ์ครั้งที่สองในวันนี้ เป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนของทางการไทยในการปราบปรามการใช้สิทธิในเสรีภาพการชุมนุมโดยสงบของประชาชน ถึงเวลาแล้วที่ทางการจะหยุดสร้างความหวาดกลัวและหันมาใช้วิธีการที่สร้างสรรค์ในการสื่อสารกับประชาชน

“ทางการไทยกำลังใช้กฎหมายเป็นอาวุธเพื่อปิดปากประชาชนที่วิจารณ์รัฐบาลอย่างสงบ เราขอเน้นย้ำให้ ทางการไทยยุติการจับกุมและดำเนินคดีกับแกนนำและผู้จัดการชุมนุม ถึงแม้รัฐบาลไม่เห็นด้วยกับคำวิจารณ์ของพวกเขาก็ตาม   

“สิทธิในเสรีภาพการชุมนุมโดยสงบเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่ทุกคนต้องได้รับการคุ้มครอง รวมทั้งสิทธิในเสรีภาพการแสดงออก การรวมตัวและสมาคมด้วย รัฐบาลมีหน้าที่คุ้มครองและสนับสนุนสิทธิเหล่านี้ แทนที่จะจำกัดหรือคุกคามผู้ใช้สิทธิ

“แม้ประเทศไทยจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งกว่าปีแล้ว กลับไม่มีพัฒนาการในสถานการณ์สิทธิมนุษยชน รัฐบาลยังคงคุกคามและดำเนินคดีกับผู้ใช้สิทธิโดยสงบอย่างต่อเนื่อง ถึงเวลาที่ประชาคมโลกต้องแสดงจุดยืนให้ชัดเจน และกดดันให้รัฐบาลไทยปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้กฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ” 

 

ข้อมูลพื้นฐาน

วันที่ 24 ส.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงหมายจับเข้าควบคุมตัว นายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือ “ไมค์ระยอง” บริเวณตลาดร้อยเสา จ.ระยอง หลังจากที่นายภาณุพงศ์เดินทางไปเพื่อชูป้ายข้อความประท้วงว่า “ถมทะเล 1,000 ไร่ ชาวระยองได้อะไร” ก่อนที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาถึงตลาด ตำรวจได้แสดงหมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานี ในความผิดฐานยุยงปลุกปั่นตามมาตรา 116 จากการปราศรัยในกิจกรรม “ธรรมศาสตร์จะไม่ทน” ที่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา เขาถูกนำตัวไปที่ สภ.บ้านเพ เพื่อทำบันทึกการจับกุม


หมายจับครั้งนี้ออกโดยศาลจังหวัดปทุมธานี ซึ่งระบุข้อกล่าวหาทัั้งหมด 5 ข้อหา คือยุยงปลุกปั่น ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.116 และนำข้อมูลที่เป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงเข้าสู่คอมพิวเตอร์ฯ ตามมาตรา 14(3) พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 เป็นผู้ร่วมจัดชุมนุมไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขหรือคำสั่งของเจ้าพนักงานดูแลการชุมนุมสาธารณะ ร่วมกันใช้เครื่องเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่ได้รับอนุญาต พ.ร.บ.เครื่องขยายเสียง มาตรา 4 และความผิดตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ


หมายจับนี้เป็นหมายจับที่ 2 ของนายภาณุพงศ์ ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 ส.ค. ตำรวจได้แสดงหมายจับและจับกุมนายภาณุพงศ์ จากการร่วมชุมนุมกับกลุ่มเยาวชนปลดแอกที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตยเมื่อวันที่ 18 ก.ค. ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ทนายอานนท์ นำภา ถูกจับกุม