นโยบายที่ก่อให้เกิดการบุกรุกป่าของบราซิล ทำให้ปัญหาไฟป่าทั่วแอมะซอนเลวร้ายลง

26 สิงหาคม 2562

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล

จากรายงานข่าวว่า เกิดไฟป่าทั่วป่าฝนเขตร้อนแอมะซอนต่อเนื่องกันเป็นเวลาหลายสัปดาห์ คูมี นายดู เลขาธิการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวดังนี้

 

“แทนที่จะกล่าวความเท็จ หรือปฏิเสธว่าพื้นที่ป่าไม่ได้ลดลงมากมายเช่นนี้ เราขอกระตุ้นประธานาธิบดีให้ดำเนินการโดยทันที เพื่อชะลอการลุกลามของไฟป่าเหล่านี้” 

 

“ประธานาธิบดีโบลโซนาโรและรัฐบาลของเขา ต้องเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง ในการหยุดยั้งไฟป่าที่ลุกลามไปทั่วป่าฝนเขตร้อนแอมะซอน โดยต้องเปลี่ยนแปลงนโยบายที่สร้างหายนะ ซึ่งส่งเสริมให้เกิดการถางพื้นที่ป่าฝนเขตร้อน และนำไปสู่วิกฤตที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน”

 

“ช่วงต้นปีนี้ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลบันทึกข้อมูลการบุกรุกพื้นที่อย่างผิดกฎหมายและการวางเพลิงใกล้กับดินแดนที่เป็นของกลุ่มชนพื้นเมืองในป่าแอมะซอน รวมทั้งในรัฐรอนโดเนีย ซึ่งกำลังได้รับผลกระทบจากไฟป่าจำนวนมาก”

 

“การลดลงของพื้นที่ป่าในเขตชนพื้นเมืองที่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลได้ไปเยือน เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2561 เนื่องจากผู้บุกรุกอย่างผิดกฎหมายได้เข้าไปตัดต้นไม้ จุดไฟเผาป่า และทำร้ายชุมชนพื้นเมืองซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่เหล่านั้น “

 

“แม้จะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ แต่ประธานาธิบดีโบลโซนาโรยังคงจงใจทำให้มาตรการคุ้มครองป่าฝนเขตร้อนอ่อนแอ และจ้องทำลายสิทธิของชนพื้นเมืองกว่าล้านคนซึ่งอาศัยอยู่ในป่า”

 

“ในปัจจุบันแม้แต่ท้องฟ้าในเมืองเซาเปาลู ซึ่งอยู่ห่างจากป่าแอมะซอนหลายพันกิโลเมตร ยังปกคลุมด้วยความมืดมิด อันเป็นผลมาจากควันของไฟป่า แต่ประธานาธิบดีกลับโจมตีใส่ร้ายเอ็นจีโอ หาว่าพวกเขาเป็นต้นเหตุทำให้เกิดไฟป่าเหล่านี้”

 

“แทนที่จะกล่าวความเท็จ หรือปฏิเสธว่าไม่ได้เกิดการลดลงของพื้นที่ป่ามากมายเช่นนี้ เรากระตุ้นประธานาธิบดีให้ดำเนินการโดยทันที เพื่อชะลอการลุกลามของไฟป่าเหล่านี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อคุ้มครองสิทธิของประชาชนที่จะอยู่อาศัยในสิ่งแวดล้อมที่ดี รวมทั้งสิทธิด้านสุขภาพ เพราะผลกระทบด้านคุณภาพอากาศมีต่อพื้นที่ที่กว้างขวางทั้งในบราซิลและประเทศเพื่อนบ้าน”

 

“และสำหรับประชาชนทั่วโลก ซึ่งสงสัยว่าจะมีส่วนช่วยคุ้มครองป่าแอมะซอนได้อย่างไร การรณรงค์เพื่อคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของชนพื้นเมือง เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยป้องกันการลดลงของพื้นที่ป่า “

 

“เราต้องยืนหยัดร่วมมือกัน สนับสนุนชุมชนพื้นเมืองและผู้นำของพวกเขาทั่วภูมิภาคแอมะซอน ตั้งแต่บราซิลไปจนถึงเอกวาดอว์และอื่นๆ เพราะสำหรับคนเหล่านี้ ป่าแอมะซอนไม่ได้เป็นแค่ปอดของโลก หากยังเป็นบ้านของพวกเขา”