รายงาน : กรณีพิพาทระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์

23 ธันวาคม 2561

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล

สถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนในอิสราเอลยังคงอยู่ในขั้นวิกฤติ มีการบังคับใช้กฎหมายเลือกปฏิบัติกับกลุ่มคนที่ไม่ใช่ยิว และกองกำลังอิสราเอลได้สังหารชาวปาเลสไตน์ไปกว่า 290 คน และในนั้นมีเด็กถึง 50 คน โดยส่วนมากถูกสังหารอย่างไร้กฎหมายในขณะที่พวกเค้าไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อชีวิตใคร อิสราเอลยังได้ทำการปิดล้อมอย่างผิดกฎหมายในเขตฉนวนกาซ่าเป็นปีที่ 11 ติดต่อกัน ส่งผลให้มีผู้ได้รับผลกระทบจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนกว่า 2 ล้านคน เสรีภาพในการเคลื่อนไหวของชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์ถูกกีดกันและจำกัดผ่านด่านตรวจและสิ่งกีดขวางบนถนน เจ้าหน้าที่ของอิสราเอลจับกุมชาวปาเลสไตน์มาจากดินแดนที่ปาเลสไตน์ครอบครอง (OPT) กว่า 1 พันคนอย่างไร้กฎหมาย โดยควบคุมตัวไว้กว่า 100 คนโดยไม่ได้มีการพิจารณาคดีหรือตั้งข้อหา การทรมานและการปฏิบัติอย่างทารุณต่อผู้ถูกควบคุมตัวรวมถึงเด็ก ยังคงเป็นไปอย่างแพร่หลายและปฏิบัติโดยไม่ต้องรับโทษ อิสราเอลยังรื้อบ้านและสิ่งก่อสร้างของชาวปาเลสไตน์ในเขตเวสต์แบงก์และหมู่บ้านของชาวปาเลสไตน์ในอิสราเอลบังคับขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกจากบ้าน ระบบยุติธรรมของอิสราเอลยังคงล้มเหลวในการตรวจสอบและแก้ไขการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศและกฎหมายสิทธิมนุษยชน เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิเสธผู้ขอลี้ภัยในการเข้าถึงกระบวนการกำหนดสถานะผู้ลี้ภัยอย่างรวดเร็วหรือเป็นธรรม ผู้ขอลี้ภัยชาวแอฟริกันหลายร้อยคนถูกขับไล่และกว่าร้อยถูกข่มขู่ว่าจะขับไล่ และผู้ที่คัดค้านการเข้ารับราชการทหารยังถูกจำคุก

 

ภูมิหลัง

 

เจ้าหน้าที่ของอิสราเอลยังคงขยายการตั้งถิ่นฐานและสิ่งก่อสร้างที่เกี่ยวข้องในเยรูซาเล็มตะวันออกและที่อื่นๆ ในเขตเวสต์แบงก์ที่อิสราเอลยึดครองอย่างผิดกฎหมาย รวมถึงการสร้างด่านหน้าให้ถูกกฎหมายโดยไม่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่ส่วนตัวของชาวปาเลสไตน์ อิสราเอลได้จัดการเลือกตั้งท้องถิ่นในเดือนตุลาคมทั่วอิสราเอลรวมทั้งในพื้นที่ที่ยึดครองอย่างเยรูซาเล็มตะวันออกและที่ราบสูงโกลัน

 

การเจรจาระหว่างเจ้าหน้าที่อิสราเอลและปาเลสไตน์ยังคงหยุดนิ่ง ในวันที่ 15 พฤษภาคม สหรัฐอเมริกาได้ย้ายสถานทูตจาก เทลอาวิฟ ไปไว้ที่เยรูซาเล็มอย่างผิดกฎหมายระหว่างประเทศ เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนสองคนได้ชี้ให้เห็นว่านายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู มีความผิดฐานคอรัปชั่น แต่อัยการสูงสุดยังไม่ได้ทำการพิพากษาภายในสิ้นปีนี้

 

การต่อสู้ระหว่างกองกำลังติดอาวุธอิสราเอลและปาเลสไตน์ในเขตฉนวนกาซ่ายังคงคุกรุ่น กองกำลังอิสราเอลได้โจมตีทางอากาศกว่าสิบครั้งในเขตกาซ่า สังหารไปกว่า 46 คน กองกำลังปาเลสไตน์โจมตีกลับด้วยจรวดกว่าร้อยลูกเข้าสู่อิสราเอล สังหารชาวปาเลสไตน์ไปหนึ่งคน ในวันที่ 13 พฤศจิกายน 2018 สองวันหลังจากการสู้รบที่รุนแรงจากทั้งสองฝ่าย ก็มีการประกาศหยุดยิงโดยที่มีอียิปต์เป็นผู้ติดต่อ ชาวปาเลสไตน์ซึ่งส่วนใหญ่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับกองกำลังติดอาวุธ ได้บุกโจมตีชาวอิสราเอลในเขตเวสต์แบงก์ และในอิสราเอล สังหารไปกว่า 13 คน และการโจมตีจากผู้มาอยู่ชาวอิสราเอลส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็นผู้หญิงชาวปาเลสไตน์ ยังมีรายงานด้วยว่าอิสราเอลได้มีส่วนร่วมในการทำการโจมตีทางอากาศในซีเรีย

 

การเลือกปฏิบัติ

 

อิสราเอลยังมีการร่างกฎหมายที่เป็นการเลือกปฏิบัติต่อกลุ่มคนที่ไม่ใช่ชาวยิว โดยเฉพาะชาวปาเลสไตน์ โดยที่กฎหมายพื้นฐานที่ผ่านมาเมื่อ กรกฎาคม 2018 ระบุว่ารัฐอิสราเอลคือรัฐชาติของชาวยิว และอธิบายว่ารัฐอิสราเอลเป็นของชาวยิวเท่านั้น และย้ำสถานะของชาวปาเลสไตน์ที่มีจำนวนถึง 1 ใน 5 ว่าเป็นประชากรชั้นสอง

 

a58d9560a4e7a409b13c2727ff8f56bf5845c185.jpg 

การฆ่าโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

 

กองกำลังทหารและกองกำลังรักษาของอิสราเอล ได้สังหารชาวปาเลสไตน์ไปกว่า 195 คน ซึ่งในนั้นมีเด็กรวมอยู่ด้วยถึง 41 คน ในเขตกาซ่าและเวสต์แบงก์ พวกเขาส่วนใหญ่ถูกฆ่าอย่างมิชอบด้วยกฎหมาย โดยพวกเขาถูกยิงขณะที่ไม่ได้เป็นภัยคุกคามต่อชีวิตใคร

 

กองกำลังของอิสราเอลได้สังหารชาวปาเลสไตน์อีกครั้งในฉนวนกาซ่า ในเหตุการณ์ประท้วงเพื่อสิทธิในการกลับมาสู่ดินแดนที่พวกเค้าพลัดถิ่นไปเมื่อ 70 ปีที่แล้วของผู้ลี้ภัยและประท้วงการปิดล้อมเขตฉนวนกาซ่าของอิสราเอล โดยการประท้วงนี้ลากยาวมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ตามข้อมูลของศูนย์สิทธิมนุษยชนปาเลสไตน์ มีผู้ถูกสังหาร 180 คน โดย 35 คนในนั้นเป็นเด็ก นักข่าวสองคนและแพทย์สามคน ในขณะที่ผู้ประท้วงบางคนมีส่วนร่วมในความรุนแรง ซึ่งมีทั้ง การเผายาง เว่าและลูกโป่งติดวัตถุระเบิด รวมทั้งการขว้างหินและโมโลโทฟค็อกเทล ไปในทางของทหารอิสราเอล แต่จากวิดิโอจากโซเชียลมีเดียและประจักษ์พยาน ที่รวบรวมโดย แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กลุ่มสิทธิมนุษยชนของอิสราเอลและปาเลสไตน์ แสดงให้เห็นว่า ทหารอิสราเอลยิงและสังหารนักข่าว บุคลากรทางการแพทย์ ผู้ชม รวมทั้งผู้ประท้วงที่ไม่มีอาวุธและไม่เป็นภัยคุกคามต่อชีวิต ผู้ที่ถูกยิงส่วนใหญ่อยู่ห่างจากรั้วกั้นอิสราเอลและกาซ่าประมาณ 150 ถึง 400 เมตรตอนที่พวกเค้าถูกยิง การสังหารโดยมิชอบด้วยกฎหมายเหล่านี้บางส่วนเป็นการจงใจยิง ซึ่งจะถือว่าเป็นการประกอบอาชญากรรมสงคราม กองกำลังอิสราเอลยังทำให้ชาวปาเลสไตน์กว่า 13,458 คนได้รับบาดเจ็บ โดยหลายคนได้รับบาดเจ็บรุนแรง ซึ่งเกิดจากการใช้กระสุนจริงกว่า 7,000 นัด ตามข้อมูลจากศูนย์สิทธิมนุษยชนปาเลสไตน์ ในเดือนพฤษภาคม คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติได้จัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนการสังหารและการละเมิดอื่น ๆ ในเขตที่ปาเลสไตน์ครอบครอง (OPT) นับตั้งแต่เริ่มมีการประท้วง

 

ในวันที่ 27 กรกฎาคม มาจดี แรมซี อัล-ซาตรี (Majdi Ramzi al-Satri) อายุ 12 ปีถูกสังหาร โดยถูกยิงเข้าที่ศีรษะโดยกระสุนปืนจากกองกำลังความมั่นคงของอิสราเอล โดยที่เขาได้ยืนห่างจากรั้ว 50 เมตรในระหว่างที่เขามีส่วนร่วมในการประท้วงที่ ราฟาฮ์ (Rafah)

 

การโจมตีทางอากาศและกระสุนปืนของอิสราเอลได้สังหารพลเรือนชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 13 คนในฉนวนกาซาโดยที่พวกเค้าไม่ได้มีส่วนร่วมในการสู้รบโดยตรง ในวันที่ 28 ตุลาคม ขีปนาวุธโดรนของอิสราเอลได้สังหารเด็กไปถึงสามคนคือ คาลิดบาสตัมอาบูซา (Khalid Bassam Abu Sa’ed) อายุ 14 ปี อับดุลฮามิดโมฮัมเหม็ดอาบูเทเธอร์(Abdul Hamid Mohammed Abu Thaher) อายุ 14 ปี และโมฮัมเหม็ดอิบราฮิมอัล-สตริ(Mohammed Ibrahim al-Satri) อายุ 15 ปี เมื่อพวกเขาพยายามข้ามรั้วฉนวนกาซา/อิสราเอล เป็นเวลาเกือบสองชั่วโมงที่เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้เนื่องจากมีการยิงมาจากกองกำลังอิสราเอลจากอีกด้านหนึ่งของรั้ว

 

เสรีภาพในการเคลื่อนไหว สิทธิในการรักษาพยาบาล น้ำและสุขาภิบาล

 

การปิดล้อมของอิสราเอลทางอากาศ ทางบกและทางทะเล ในเขตฉนวนกาซ่า ได้เข้าสู่ปีที่ 11 ของการปิดกั้น โดยการปิดกั้นนี้ได้จำกัดการเคลื่อนไหวและสินค้าในการเข้า-ออก ในบริเวณนั้น และเป็นการทารุณชาวบ้านในเขตกาซ่ากว่า 2 ล้านคน อิสราเอลยังได้เพิ่มข้อจำกัดในเขตฉนวนกาซ่าอีกครั้ง ในเดือนกรกฎาคมโดยกล่าวว่านี่เป็นการตอบโต้ต่อการยิงว่าวและลูกโป่งติดระเบิดเพลิง จรวดและปืนครกจากกาซาเข้ามาในอิสราเอล องค์กรสิทธิมนุษยชนหลายแห่งยื่นคำร้องคัดค้านข้อจำกัดเหล่านี้ เนื่องจากการลงโทษเหล่านี้ เป็นการลงโทษที่ละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ เจ้าหน้าที่ของอิสราเอลยกเลิกมาตรการจำกัดเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม

 

ตลอดทั้งปีฉนวนกาซาประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งมันส่งผลให้เกิดการใช้ไฟฟ้าได้สูงสุดแค่เพียงสี่ชั่วโมงต่อวัน ในเดือนตุลาคมองค์การสหประชาชาติได้ทำข้อตกลงเพื่อให้โรงไฟฟ้าหลักของกาซาได้รับการเติมเชื้อเพลิง โดยนี่ส่วนหนึ่งของแผนการที่จะเพิ่มการผลิตไฟฟ้าเป็นแปดชั่วโมงต่อวัน การตัดกระแสไฟฟ้าทำให้น้ำและสุขาภิบาลของกาซาอยู่ในขั้นวิกฤติ

 

จุดตรวจของอิสราเอลกว่า 100 แห่งและสิ่งกีดขวางบนถนน ยังคงจำกัดการเคลื่อนไหวของชาวปาเลสไตน์ใน เวสต์แบงก์อย่างหนัก ชาวปาเลสไตน์ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าถึงถนนหลายสายในเวสต์แบงก์เนื่องจากมันกำหนดไว้ให้ใช้ได้เฉพาะชาวอิสราเอลเท่านั้น

 

เจ้าหน้าที่อิสราเอลได้ทำการโจมตีหลายร้อยครั้งทั่วเขตเวสต์แบงก์เพื่อจับกุมชาวปาเลสไตน์โดยไม่ต้องมีคำสั่งตุลาการเพื่อชี้แจงเหตุผลในการจับกุม ชาวปาเลสไตน์จากเขต ดินแดนที่ปาเลสไตน์ครอบครอง (OPT) หลายพันคนถูกควบคุมตัวหรือกักขังโดยละเมิดกฎหมายด้านมนุษยธรรมระหว่างประเทศ เจ้าหน้าที่ของอิสราเอลใช้คำสั่งกักขังเพื่อควบคุมชาวปาเลสไตน์ไว้โดยที่ไม่ได้ตั้งข้อหาหรือมีการพิจารณาคดี พลเรือนชาวปาเลสไตน์ถูกดำเนินคดีในศาลทหารที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากลของการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม และชาวปาเลสไตน์กว่า 5,500 คนรวมถึงผู้ถูกควบคุมตัว 480 คนถูกคุมขังในเรือนจำของอิสราเอลเมื่อปลายปีที่ผ่านมา หลายคนในนั้นคือผู้นำภาคประชาสังคม พนักงานของ NGO และนักข่าว