สืบเนื่องจากการสลายการชุมนุมของประชาชนในฮ่องกงที่ออกมาต่อต้านร่างพระราชบัญญัติส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้ก๊าซน้ำตา กระสุนถุงตะกั่ว กระสุนยาง รวมทั้งไม้กระบองและสเปรย์พริกไทยกับประชาชนที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ชุมนุมอย่างสงบ  แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เรียกร้องให้ทางการฮ่องกงยุติการใช้กำลังที่เกินกว่าเหตุต่อผู้ชุมนุมเพราะขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และเพิ่มความตึงเครียดซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มความรุนแรงยิ่งขึ้น

ถ่าม หม่าน-เก ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ฮ่องกง เผยว่า ภาพความรุนแรงที่ตำรวจใช้ก๊าซน้ำตาและฉีดสเปรย์พริกไทยใส่ประชาชนที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ชุมนุมอย่างสงบ เป็นการกระทำที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ จริงอยู่ที่ว่าตำรวจมีหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของสาธารณะ แต่การปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวสามารถใช้กำลังได้เท่าที่จำเป็นเท่านั้น ซึ่งการปฏิบัติการของตำรวจฮ่องกงครั้งนี้กลับไม่ได้เป็นไปตามมาตรฐานดังกล่าวเลย

“เพื่อสนับสนุนการใช้กำลังอย่างเกินกว่าเหตุต่อประชาชนที่ส่วนใหญ่เป็นผู้ชุมนุมอย่างสงบ ตำรวจอ้างว่า มีผู้ประท้วงบางคนใช้ความรุนแรง

การใช้ก๊าซน้ำตา และการยิงด้วยกระสุน รวมทั้งกระสุนยาง มักขาดความแม่นยำ และส่งผลกระทบโดยไม่เลือกเป้าหมาย โดยอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บร้ายแรงและถึงขั้นเสียชีวิต ควรมีการใช้อุปกรณ์เหล่านี้เฉพาะเมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจน และเป็นการตอบโต้ต่อการกระทำที่รุนแรงบางอย่าง ไม่ควรนำมาใช้สลายผู้ชุมนุมประท้วงอย่างสงบ

การตอบโต้จนเกินกว่าเหตุของตำรวจ ยิ่งเพิ่มความตึงเครียด และน่าจะทำให้เกิดความรุนแรงมากขึ้น แทนที่จะช่วยยุติความรุนแรง แอมเนสตี้ขอกระตุ้นตำรวจฮ่องกงไม่ให้ใช้การปฏิบัติอันมิชอบนี้อีกกับผู้ที่ชุมนุมอย่างสงบ และให้การประกันว่าประชาชนสามารถใช้สิทธิอันชอบธรรมของตนได้ เรายังขอเตือนว่าการที่ตำรวจใช้กำลังกับผู้ชุมนุมที่อยู่ภายใต้การควบคุมแล้วถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย”

ข้อมูลพื้นฐาน

เมื่อวันพุธที่ 12 มิถุนายน ประชาชนหลายพันคนในฮ่องกงเดินขบวนตามท้องถนนรอบศูนย์บัญชาการของรัฐบาล เพื่อเรียกร้องรัฐบาลฮ่องกงให้ถอนร่างแก้ไขกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน ตำรวจเริ่มสลายการชุมนุมตอนบ่าย โดยใช้ทั้งก๊าซน้ำตาและสเปรย์พริกไทย และในบางกรณีมีการยิงถุงตะกั่วและกระสุนยางใส่ผู้ชุมนุม ทั้งยังจับผู้ชุมนุมไปบางส่วน

แม้ว่าบ่ายวันนั้นจะมีการปะทะกันเพิ่มขึ้นระหว่างตำรวจและผู้ชุมนุมที่อยู่แนวหน้าในบางพื้นที่ แต่เรากลับพบว่าตำรวจยังใช้ก๊าซน้ำตาในพื้นที่ที่ไม่มีการปะทะกันแต่อย่างใด โดยเป็นพื้นที่ซึ่งยังไม่มีการใช้ความรุนแรง ผลกระทบเพิ่มขึ้นเนื่องจากตำรวจปิดกั้นเส้นทางหลบหนีออกจากพื้นที่ ปิดกั้นโอกาส ทำให้ผู้ชุมนุมไม่สามารถเอาตัวรอดจากอันตรายต่าง ๆ ได้ 

การแก้ไขกฎหมายดังกล่าวเพิ่มเงื่อนไขการส่งบุคคลเป็นผู้ร้ายข้ามแดน เพื่อสนับสนุนการส่งบุคคลในฮ่องกง ไปดำเนินคดีในจีนแผ่นดินใหญ่ หากมีการผ่านร่างกฎหมายนี้ จะทำให้ทางการจีนแผ่นดินใหญ่สามารถใช้เป็นช่องทางเพื่อปราบปรามผู้วิพากษ์วิจารณ์ นักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชน สื่อมวลชน เอ็นจีโอ และบุคคลอื่น ๆ ในฮ่องกงได้ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ฮ่องกงร่วมกับเอ็นจีอื่น ๆ กว่า 70 แห่ง ได้เขียนจดหมายถึงแคร์รี หล่ำ ผู้ว่าการเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เรียกร้องให้ถอนร่างพระราชบัญญัติแก้ไขกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดน เนื่องจากเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อสิทธิมนุษยชน

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแอมเนสตี้
บริจาคสนับสนุนแอมเนสตี้