ฮาคีมเดินทางกลับถึงออสเตรเลียแล้ว หลังทางการไทยปล่อยตัวและยุติการดำเนินคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดน

12 กุมภาพันธ์ 2562

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล 

ภาพ Avellino M

วันนี้ (12 ก.พ. 62) เวลา 09.00 น.โดยประมาณ ฮาคีมเดินทางถึงสนามบินในประเทศออสเตรเลียแล้ว โดยมีผู้สนับสนุนเขารอต้อนรับและให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก หลังอัยการถอนฟ้องเขาในคดีส่งผู้ร้ายข้ามแดน ตามรายงานข่าวระบุว่าอัยยื่นคำร้องขอถอนฟ้องคดีดังกล่าวเมื่อเช้าวันที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยอัยการได้รับการประสานงานจากกระทรวงการต่างประเทศ แจ้งให้ทราบว่า ทางการประเทศบาห์เรนแสดงความประสงค์ไม่ติดใจที่จะดำเนินคดีการขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนในกรณีนี้อีกต่อไป  

 

ต่อมาศาลพิจารณาคำร้องของอัยการเเล้วอนุญาตให้ถอนคำร้องขอส่งผู้ร้ายข้ามเเดนฮาคีม ได้ หลังจากนั้นศาลอาญาออกหมายปล่อยไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เพื่อให้ดำเนินการปล่อยตัวฮาคีม โดยประสานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ส่งตัวฮาคีมเดินทางไปประเทศออสเตรเลียทันที

 

 

ด้านมินาร์ พิมเพิล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการระดับโลกของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลเผยหลังมีรายงานข่าวว่าจะไม่มีการส่งตัวฮาคีม อัล อาไรบีให้กับบาห์เรนตามกระบวนการส่งผู้ร้ายข้ามแดนว่า คำขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนของบาห์เรนเป็นคำขอที่ปราศจากมูลความจริงและมีความประสงค์ร้ายที่จะต้องการลงโทษฮาคีมจากการที่เขาแสดงความเห็นทางการเมืองอย่างสงบ

 

“ฮาคีมถูกควบคุมตัวกว่าสองเดือนในประเทศไทย ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ควรถูกควบคุมตัวเลยแม้แต่วินาทีเดียว เป็นเรื่องถูกต้องที่สุดแล้วที่เขาควรสามารถเดินทางกลับไปออสเตรเลีย กลับไปหาครอบครัว สโมสรฟุตบอลของเขา และประเทศที่ให้ที่พักพิงกับเขา 

“คำสั่งของศาลเป็นผลมาจากการร่วมมือในการสนับสนุนผู้ลี้ภัยและเป็นชัยชนะของพลังประชาชน ผู้สนับสนุนของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลกว่า 135,000 คนทั่วโลก ที่ต่างเรียกร้องให้ปล่อยตัวฮาคีม

ในวันนี้ รัฐบาลไทยแสดงให้เห็นถึงความจริงใจที่จะเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ และทำในสิ่งที่ถูกต้องโดยการปล่อยฮาคีมกลับไปสู่สถานที่ที่ปลอดภัย แทนที่จะส่งตัวไปถูกทรมาน ที่ผ่านมา รัฐบาลไทยยังสัญญาที่จะคุ้มครองผู้ลี้ภัยให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งเป็นก้าวย่างที่จำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากที่ผ่านมาหลายครั้งในอดีต ประเทศไทยได้บังคับส่งกลับบุคคลไปยังประเทศที่มีความเสี่ยงอันตรายอย่างร้ายแรงต่อชีวิตและสวัสดิภาพของพวกเขา” 

 

 

ข้อมูลพื้นฐาน

วันที่ 27 พฤศจิกายน เมื่อปีที่แล้ว ระหว่างเดินทางโดยใช้เอกสารแทนหนังสือเดินทางของออสเตรเลียฮาคีม ถูกควบคุมตัวทันทีที่มาถึงกรุงเทพฯ  ตามการออกหมายแดงที่ผิดระเบียบของตำรวจสากล และในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พนักงานอัยการของไทยได้ยื่นคำร้องขอส่งตัวฮาคีมเป็นผู้ร้ายข้ามแดนในนามของรัฐบาลบาห์เรน ทั้งนี้ ในวันที่ กุมภาพันธ์ มีการนำตัวฮาคีมมาที่ศาล และเขาได้แสดงความเห็นคัดค้านคำขอให้ส่งผู้ร้ายข้ามแดนอย่างเป็นทางการ

 

ฮาคีมเป็นอดีตนักฟุตบอลทีมชาติบาห์เรน และที่ผ่านมาได้วิพากษ์วิจารณ์อย่างสงบและเปิดเผยต่อทางการบาห์เรน ในเดือนพฤศจิกายน 2555 เขาถูกควบคุมตัวและถูกทรมาน เขาหลบหนีไปออสเตรเลียเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 และได้รับสถานะผู้ลี้ภัยเมื่อปี 2560 ทางการบาห์เรนมีสถิติที่เลวร้ายในการปราบปรามผู้แสดงความเห็นต่างอย่างสงบบ

 

ในปี 2557 ผลจากการพิจารณาที่ไม่เป็นธรรม เป็นการพิจารณาลับ และเป็นการพิจารณาลับหลังจำเลย เขาถูกศาลลงโทษจำคุกเป็นเวลา 10 ปี ใน ในข้อหาทำลายโรงพัก ปัจจุบันพี่ชายของเขายังคงถูกจำคุกในข้อหาเดียวกัน

 

ตามกฎหมายระหว่างประเทศ ถือเป็นเรื่องต้องห้ามในการส่งตัวบุคคลกลับไปยังดินแดนใด ๆ ที่มีเหตุอันชอบว่า บุคคลผู้นั้นมีความเสี่ยงอย่างแท้จริงที่จะถูกทรมาน ละเมิดหรือถูกปฏิบัติมิชอบด้านสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้พยายามแสดงความเคารพมากขึ้นต่อข้อห้ามนี้ รวมทั้งการให้สัญญาในที่ประชุมสุดยอดผู้นำว่าด้วยผู้ลี้ภัยขององค์การสหประชาชาติ เมื่อเดือนกันยายน 2559 ว่าจะออกพระราชบัญญัติต่อต้านการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย โดยรวมถึงการคุ้มครองไม่ให้มีการบังคับส่งกลับ