การตัดสินให้แกนนำผู้เรียกร้องประชาธิปไตยฮ่องกงมีความผิด ส่งผลสะเทือนร้ายแรงต่อเสรีภาพในการแสดงออก

10 เมษายน 2562

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล

สืบเนื่องจากการที่ศาลพิพากษาว่า แกนนำผู้เรียกร้องประชาธิปไตยเก้าคนในฮ่องกงที่เข้าร่วมการประท้วง Umbrella Movement เมื่อปี 2557 มีความผิดในข้อหา “สร้างความเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณสถาน” หมั่นคายตาม (Man-kei Tam) ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ฮ่องกงกล่าวว่า

 

“คำพิพากษาให้มีความผิดในวันนี้ ส่งผลสะเทือนร้ายแรงต่อเสรีภาพในการแสดงออก และการประท้วงอย่างสงบในฮ่องกง รัฐบาลได้ใช้ข้อหาที่มีเนื้อหากำกวม ในความพยายามอย่างไม่ลดละที่จะดำเนินคดีกับแกนนำกลุ่มทั้งเก้าคน (Umbrella Nine)

 

“ที่ผ่านมารัฐบาลได้ใช้การดำเนินคดีเป็นเครื่องมือทางการเมืองมากขึ้น โดยมีเป้าหมายเป็นนักกิจกรรมทางการเมืองผู้เคลื่อนไหวอย่างสงบ ซึ่งเป็นการใช้กฎหมายอย่างมิชอบ เพื่อปิดกั้นการอภิปรายโต้เถียงในประเด็นที่อ่อนไหว ได้แก่ ประชาธิปไตยและการปกครองตนเองของฮ่องกง เรากระตุ้นให้รัฐบาลยุติการโจมตีเพื่อปิดปากผู้ใช้สิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออกอย่างสงบ”

 

 

ข้อมูลพื้นฐาน

 

ในบรรดานักเคลื่อนไหวเก้าคนที่ศาลแขวงเกาลูนตะวันตกตัดสินว่ามีความผิด ประกอบด้วยผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มรณรงค์ “Occupy Central” ได้แก่ ศาสตราจารย์ด้านกฎหมายเบนนี ไตยิวติง (Benny Tai Yiu-ting) ศาสตราจารย์ด้านสังคมวิทยาเฉินกินมาน (Chan Kin-man) และอดีตศิษยาภิบาลฉู่ยิวเหมิง (Chu Yiu-ming)

 

นักเคลื่อนไหวอีกหกคนที่ศาลตัดสินว่ามีความผิดประกอบด้วย แกนนำนักศึกษา ได้แก่ ทอมมี ชุงซัวหยิน และเอียสัน ชุงยูวา นักกฎหมาย ได้แก่ ทันยา เฉิน และเชียว คาชุน และหัวหน้าพรรคการเมือง ได้แก่ ราฟาเอล หว่องโฮมิง และลี วิงทัต (Tommy Cheung Sau-yin, Chung Yiu-wa, Tanya Chan, Shiu Ka-chun, Raphael Wong Ho-ming และ Lee Wing-tat)

 

ศาลตัดสินว่า ทั้งหมดมีความผิดเนื่องจากสร้างความเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณสถาน รวมทั้ง “สมคบคิดร่วมกันสร้างความเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณสถาน” “ยุยงให้มีการสร้างความเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณสถาน” และ “ยุยงให้เกิดการยุยงให้มีการสร้างความเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณสถาน” โดยจำเลยแต่ละคนอาจได้รับโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี

 

ในเอกสารข้อมูลที่ตีพิมพ์เผยแพร่ก่อนการพิจารณาเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2561 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลให้เหตุผลว่าเหตุใดการดำเนินคดีกับนักเคลื่อนไหวทั้งเก้าคน เป็นการโจมตีเสรีภาพในการแสดงออกและการชุมนุมอย่างสงบ พนักงานอัยการได้อ้างคำพูดในการแถลงข่าว การให้สัมภาษณ์สื่อ และการประชุมอย่างเปิดเผยของแกนนำผู้เรียกร้องประชาธิปไตย เพื่อวางแผนรณรงค์ประท้วงโดยไม่ใช้ความรุนแรง เป็นหลักฐานสำคัญเพื่อสนับสนุนข้อกล่าวหาว่ามีการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย