แอมเนสตี้ออกปฏิบัติการด่วนเชิญชวนทั่วโลกเรียกร้องให้รัฐบาลเมียนมาปกป้องประชาชนรัฐยะไข่ อนุญาตให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าพื้นที่ และสอบสวนรายการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยเจ้าหน้าที่รัฐ

อัปเดต: หลังถูกกดดันจากนานาชาติ ล่าสุด ทางการเมียนมาได้ตั้งคณะกรรมการ 13 คน เพื่อสอบสวนรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยเจ้าหน้าที่รัฐ โดยมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เนื่องจากประธานคณะกรรมการชุดดังกล่าวเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงฝ่ายความมั่นคงในรัฐบาลทหาร ทั้งนี้ สื่อท้องถิ่นรายงานว่าคณะกรรมการดังกล่าวได้ลงพื้นที่รัฐยะไข่เพื่อปฏิบัติหน้าที่แล้ว

เมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ป้อมตำรวจสามแห่งในรัฐยะไข่ถูกโจมตีโดยกองกำลังไม่ทราบฝ่าย ทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตเก้านาย ทางการเมียนมาจึงประกาศปิดล้อมพื้นที่ โดยรัฐยะไข่เป็นพื้นที่ที่ชาวโรฮิงญามากถึง 150,000 คนอาศัยอยู่และต้องการความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมมาโดยตลอด

นับตั้งแต่วันที่ 9 ตุลาคมเป็นต้นมา ทางการเมียนมาได้ควบคุม เข้มงวด และสั่งระงับการเข้ามาช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในพื้นที่รวมถึงความช่วยเหลือทางการแพทย์อื่นๆ ด้วย การกระทำดังกล่าวยังส่งผลให้ชาวโรฮิงญาจำนวนมากไม่สามารถออกนอกพื้นที่ได้ด้วย

ทั้งนี้ แม้โครงการอาหารโลก (WFP) จะได้รับอนุญาตให้เข้าไปช่วยเหลือในสี่หมู่บ้านที่รับผลกระทบ แต่พื้นที่อื่นๆ ก็ยังไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ รายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่กระทำโดยเจ้าหน้าที่รัฐมีตั้งแต่การสังหาร การข่มขืน การล่วงละเมิดทางเพศ และการควบคุมตัวโดยพลการ ขณะที่ทางการเมียนมาออกมาปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่กลับห้ามบุคคลภายนอกไม่ให้สังเกตการณ์ในพื้นที่

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลมีความกังวลอย่างมากต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อประชาชนรัฐยะไข่ โดยเฉพาะต่อชาวโรฮิงญา โดยเชิญชวนให้ผู้สนับสนุนมากกว่าเจ็ดล้านคนทั่วโลกส่งจดหมาย อีเมล์ และแฟ็กซ์ เรียกร้องให้รัฐบาลเมียนมารับรองความปลอดภัยของประชาชนรัฐยะไข่ อนุญาตให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่พื้นที่ได้อย่างเต็มที่ อนุญาตให้ผู้สังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนเข้าประเมินสถานการณ์ ตลอดจนต้องสอบสวนรายงานการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่างๆ ตามมาตรฐานสากล

เอกสารที่เกี่ยวข้อง

SAFETY CONCERN FOR PEOPLE IN NORTH RAKHINE