หนังฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ “The Promise” จะมอบรายได้ให้แอมเนสตี้

นักแสดงนำหนังเกี่ยวกับการสังหารหมู่เรื่องใหม่อย่าง “The Promise” เผยเตรียมบริจาครายได้ 100% ให้กับแอมเนสตี้และองค์กรสิทธิมนุษยชนอื่นๆ

คริสเตียน เบล นักแสดงนำในหนังเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวอาร์มีเนียเรื่อง The Promise เปิดเผยว่ารายได้ทั้งหมดจากหนังเรื่องนี้จะถูกบริจาคให้กับองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนและสิทธิมนุษยธรรมต่างๆ ที่ทำงานหนักเพื่อสังคมที่ดีขึ้นทั่วโลก ซึ่งรวมถึงแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล

“รายได้ 100 เปอร์เซ็นต์ของหนังจะถูกบริจาคให้กับการกุศล ซึ่งรวมถึงฮิวแมนไรท์วอตช์และแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เราสนับสนุนผู้คนที่ทำงานอยู่ในแนวหน้า เราต้องการให้มีการรับผิดชอบต่อการสังหารหมู่ สื่อจำเป็นต้องเสาะหาหลักฐานและข้อมูลต่างๆ ผมหวังว่าเมื่อผู้คนได้ดูหนังเรื่องนี้แล้วจะมีความเห็นอกเห็นใจผู้ลี้ภัยและเข้าใจความยากลำบากที่พวกเขาต้องประสบมากขึ้น” คริสเตียน เบลให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศ

The Promise หรือชื่อไทยว่า "สัญญารัก สมรภูมิรบ" เป็นหนังรักอิงประวัติศาสตร์กำกับโดยผู้กำกับมากฝีมือ จอร์จ เทอร์รี่ หนังเล่าเรื่องราวของช่างภาพหนังสือพิมพ์และนักศึกษาแพทย์ที่ตกหลุมรักผู้หญิงคนเดียวกัน โดยมีฉากหลังเป็นเหตุการณ์การสังหารหมู่ชาวอาร์มีเนียโดยกองทัพตุรกีซึ่งเกิดขึ้นช่วงปี 2458-2459 มีผู้เสียชีวิตกว่าหนึ่งล้านคน ขณะที่ทางการตุรกีปฏิเสธที่จะใช้คำว่าฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และระบุว่ามีผู้เสียชีวิตเพียงสามแสนคนเท่านั้น)

คริสเตียน เบลเปิดเผยด้วยว่าหนังเรื่องนี้เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นของงานณรงค์เชิงสังคมครั้งใหญ่เท่านั้น โดยมีการเปิดตัวสถาบันเดอะพรอมิสเพื่อสิทธิมนุษยชน (The Promise Institute for Human Rights) ที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแองเจลิส ไปเมื่อเร็วๆ นี้

ด้านเอริก เอสราอิเลียน โปรดิวเซอร์ของหนังเรื่องนี้ เปิดเผยว่าเขาหวังว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นเครื่องเตินใจไม่ให้คนลืมเหตุสังหารหมู่ครั้งนี้ และเป็นเรื่องที่ดีที่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ฮิวแมนไรท์วอตช์ และองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนต่างๆ ให้การช่วยเหลือและสนับสนุนการสร้างสรรค์ The Promise เป็นอย่างดี

The Promise เริ่มฉายในประเทศไทย 1 มิถุนายนนี้ ที่โรงภาพยนตร์ทั่วไป