ยูเครน: หนึ่งปีหลังจากการรุกรานเต็มรูปแบบของรัสเซีย สิทธิของเหยื่อจะต้องเป็นหัวใจสำคัญของกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด

23 กุมภาพันธ์ 2566

Amnesty International

ภาพถ่าย : ©AFP via Getty Images

  • ประชาคมโลกต้องพัฒนาแผนที่เข้มแข็งเพื่อรองรับการเรียกร้องความยุติธรรมของเหยื่อการรุกรานของรัสเซียในยูเครน

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวเนื่องในวาระครบหนึ่งปีนับตั้งแต่เกิดการรุกรานประชาคมโลกต้องพัฒนาแผนที่เข้มแข็งเพื่อนำความยุติธรรมมาให้กับเหยื่อสงครามรุกรานยูเครนของรัสเซีย

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 กองทัพรัสเซียเปิดฉากการรุกรานยูเครนเต็มรูปแบบ ซึ่งเป็นความเคลื่อนไหวที่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เรียกว่า “การกระทำรุกรานและหายนะด้านสิทธิมนุษยชน ตั้งแต่นั้นมา กองกำลังรัสเซียได้ก่ออาชญากรรมสงครามและการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอื่นๆ รวมถึงการประหารชีวิตนอกกระบวนการยุติธรรม การโจมตีอย่างรุนแรงต่อโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนและสถานที่พักพิง การเนรเทศและบังคับให้พลเรือนโยกย้ายถิ่นฐาน และการสังหารที่ผิดกฎหมายในวงกว้างด้วยการยิงถล่มเมืองต่างๆ
แม้การรุกรานยังคงดำเนินต่อไปและยังไม่ทราบขอบเขตทั้งหมดของอาชญากรรมที่ก่อขึ้นในยูเครน แต่การเรียกร้องความยุติธรรมและสิทธิของเหยื่อและผู้รอดชีวิตจะต้องได้รับความสำคัญ ประชาคมโลกมีหน้าที่ชัดเจนในการประกันว่าผู้ที่รับผิดชอบต่ออาชญากรรมภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศจะต้องรับรู้ว่าความรับผิดชอบและความยุติธรรมจะมีชัยเหนือการลอยนวลพ้นผิด

แอกเนส คาลามาร์ด เลขาธิการ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เผยว่า เนื่องจากกองกำลังรัสเซียดูเหมือนกำลังเพิ่มการโจมตีในยูเครน พันธกิจในการนำตัวผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนและอาชญากรรมสงครามทั้งหมดมารับผิดจึงเป็นเรื่องเร่งด่วนกว่าที่เคย

ตั้งแต่ความขัดแย้งเริ่มต้นขึ้น แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้บันทึกข้อมูลอาชญากรรมสงคราม รวมถึงการกำหนดเป้าหมายโครงสร้างพื้นฐานของพลเรือนที่สำคัญ และการปิดกั้นความช่วยเหลือสำหรับพลเรือน พลเรือนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องและมักถูกตัดขาดจากน้ำ ไฟฟ้า และเครื่องทำความร้อน ผู้คนจำนวนมากที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ยึดครองของรัสเซียยังคงต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมหรือการรักษาพยาบาลอย่างเร่งด่วน แต่ถูกปฏิเสธสิทธิในการเดินทางไปยังดินแดนที่ควบคุมโดยรัฐบาลของยูเครน

“ผู้คนในยูเครนต้องทนทุกข์กับความน่ากลัวที่เหนือจินตนาการระหว่างสงครามรุกรานนี้มาตลอด 12 เดือนที่ผ่านมา ขอให้เข้าใจตรงกันว่า มือของวลาดิเมียร์ ปูติน และกองกำลังของเขาเปื้อนไปด้วยเลือด ผู้รอดชีวิตสมควรได้รับความยุติธรรมและการเยียวยาสำหรับทุกสิ่งที่พวกเขาต้องทุกข์ทน ประชาคมโลกต้องยืนหยัดอย่างแน่วแน่ในการดำเนินการให้ถึงที่สุดเพื่อคืนความยุติธรรม หนึ่งปีผ่านไปแล้ว เห็นได้ชัดว่าต้องทำให้มากกว่านี้”

มีการยื่นฟ้องคดีอาชญากรสงครามหลายหมื่นคดี รวมถึงอาชญากรรมทางเพศและด้วยเหตุแห่งเพศสภาพ แต่จำนวนเหยื่อของความขัดแย้งที่กำลังดำเนินอยู่จะสูงกว่านี้มาก


สิทธิและความต้องการของเหยื่อและผู้เสียหาย

“หลังจากเกิดความขัดแย้งนี้ ผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนได้รับความเสียหายจากการถูกลูกหลง เมื่อลูกระเบิดตกลงมา ไม่ได้เพียงแค่สร้างบาดแผล แต่ยังพรากความเป็นอยู่ ทำลายโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ และทำให้คนจำนวนมากไม่สามารถอยู่ในซากปรักหักพังของชีวิตในอดีตของพวกเขาได้” แอกเนส คาลามาร์ด กล่าว

ควรมีการตอบสนองต่อความขัดแย้งอย่างทันที รวมถึงการสอบสวนในระดับนานาชาติและระดับชาติเกี่ยวกับอาชญากรรมภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศที่กระทำในยูเครน แต่ความยุติธรรมที่ครอบคลุมสำหรับยูเครนจะเกิดขึ้นได้โดยการให้ความยุติธรรมที่มีความหมายและการเยียวยาแก่เหยื่อเท่านั้น ซึ่งจะเป็นไปได้ก็ต่อเมื่อประชาคมโลกให้การสนับสนุนอย่างเข้มแข็งและยั่งยืนในกลไกความยุติธรรมที่มีอยู่

นอกจากนี้ ยังต้องมีการพิจารณาของกลไกระดับชาติและระดับนานาชาติใหม่เพื่อความยุติธรรมที่ครอบคลุมมากขึ้น เช่น การตัดสินใจที่น่ายินดีของคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนในการจัดตั้งคณะกรรมการสอบสวนที่เป็นอิสระในเดือนมีนาคม 2565 ซึ่งในท้ายที่สุดจะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับการตอบสนองด้านความยุติธรรมระหว่างประเทศในคดีอาชญากรรมสงครามจำนวนมาก ตลอดจนอาชญากรรมรุกรานซึ่งศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ไม่สามารถสอบสวนได้เนื่องจากข้อจำกัดด้านเขตอำนาจศาล

“เช่นเดียวกับการประกันว่ามีกลไกที่เหมาะสม เราต้องประกันว่าผู้ที่รับผิดชอบต่ออาชญากรรมภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศจะถูกนำตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและเผชิญกับผลที่ตามมาจากการกระทำที่ไร้จิตสำนึกของพวกเขา ซึ่งรวมถึงการสอบสวนผู้บัญชาการทหารระดับสูงและผู้นำพลเรือนในข้อหาอาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมรุกรานภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ”

การดำเนินคดีดังกล่าวอาจมีความซับซ้อน แต่จำเป็นที่การสอบสวนจะต้องไม่พิจารณาเพียงแค่ผู้กระทำความผิดโดยตรงในระดับล่างเท่านั้น แต่รวมถึงผู้ที่อยู่ในสายการบังคับบัญชาที่สูงกว่าด้วย ไม่ว่าการพิจารณาคดีจะเกิดขึ้นที่ใด จะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานระหว่างประเทศเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนและการพิจารณาคดีที่เป็นธรรม โดยการมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่และคำนึงถึงผู้รอดชีวิตและความต้องการของพวกเขา 

“ด้วยสงครามที่โหมกระหน่ำในทุกมุมโลก ก่อให้เกิดความทุกข์ยากแก่พลเรือนนับไม่ถ้วน สิ่งนี้จะต้องกลายเป็นพิมพ์เขียวสำหรับความขัดแย้งทั้งหมด การตอบสนองครั้งแรกอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนของประชาคมโลก รวมถึงการทำงานของศาลอาญาระหว่างประเทศควรเป็นมาตรฐานขั้นต่ำในการแสวงหาความยุติธรรมระหว่างประเทศ”

 

ความมุ่งมั่นและการประสานงานอย่างยั่งยืนเป็นหนทางเดียวที่จะก้าวไปข้างหน้า 

“ครั้งแล้วครั้งเล่า แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล และกลุ่มภาคประชาสังคมอื่นๆ เรียกร้องให้มีการดำเนินการร่วมกัน เพื่อให้ผู้คนมารวมตัวกันเพื่อสิ่งที่ดีกว่า ซึ่งเป็นความจริงที่สุดในกรณีนี้ ทุกสถาบันและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการแสวงหาความยุติธรรมระหว่างประเทศต้องทำงานร่วมกันเพื่อแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกและประสานงานกลยุทธ์ และยังต้องจัดการช่องว่างในด้านความเชี่ยวชาญและความสามารถ ตอนนี้ไม่ใช่เวลาสำหรับการแยกกันทำงาน”

ประชาคมโลกต้องสนับสนุนการสอบสวนที่ยุติธรรม มีประสิทธิภาพ และไม่ลำเอียง และรัฐต่างๆ ควรเรียกร้องให้ยูเครนให้สัตยาบันธรรมนูญกรุงโรม โดยปรับกฎหมายของประเทศให้สอดคล้องกับมาตรฐานทางกฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับความยุติธรรมระหว่างประเทศ และเสริมสร้างความร่วมมือกับศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) และท้ายที่สุด ความยุติธรรมสำหรับยูเครนเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ที่มีธรรมนูญเขตอำนาจศาลสากลสำรวจว่าสิ่งเหล่านี้จะสามารถคืนความยุติธรรมแก่ชาวยูเครนได้อย่างไร


ต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

เมื่อให้ความช่วยเหลือ ประชาคมโลกต้องระบุความต้องการเฉพาะของกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้หญิง ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และเด็ก รวมทั้งตระหนักว่าชาวยูเครนจำนวนมาก รวมทั้งเด็ก ถูกเนรเทศจากยูเครนไปยังรัสเซีย หรือถูกบังคับให้โยกย้ายถิ่นฐานไปยังพื้นที่ยึดครองของรัสเซีย และไม่สามารถกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย กลุ่มคนเหล่านี้ต้องอยู่ในกลุ่มที่ได้รับความสำคัญ และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมทั้งหมดที่ให้ควรได้รับการปรับให้ตรงกับความต้องการเฉพาะของพวกเขา

ความร่วมมือกับองค์กรภาคประชาสังคมของยูเครนยังเป็นสิ่งจำเป็นในการจัดลำดับความสำคัญของความต้องการของผู้รอดชีวิตเพื่อประกันว่ามีการใช้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและมนุษยธรรมให้เกิดประโยชน์ในทางปฏิบัติ ประชาคมโลกต้องประกันว่าความร่วมมือนี้ดำเนินการในลักษณะที่รับประกันความโปร่งใส ประสิทธิผล และคำนึงถึงความรู้สึกของเหยื่อตลอดกระบวนการ มุ่งเน้นไปที่ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม การฟื้นฟู ความยุติธรรม และการเยียวยา

“การยอมรับความเสียหายทางร่างกาย จิตใจ และเศรษฐกิจอย่างใหญ่หลวงที่เกิดขึ้นกับพลเรือนในยูเครนตลอดปีที่ผ่านมามีความสำคัญอย่างยิ่งในการนำความยุติธรรมและการเยียวยามาให้กับผู้รอดชีวิตและเหยื่อการรุกรานของรัสเซียในยูเครน”

 

เรียกร้องความรับผิดชอบ 

ตั้งแต่ปี 2557 และต่อมาในช่วงเริ่มต้นของการรุกรานเต็มรูปแบบของรัสเซีย แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้มีการติดตามความรับผิดชอบในยูเครน ตลอดจนบันทึกข้อมูลอาชญากรรมสงครามและการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอื่นๆ สามารถดูข้อมูลทั้งหมดของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลที่เผยแพร่จนถึงปัจจุบันได้ที่นี่