กลับมาอีกครั้งและเปิดตัวอย่างเป็นทางการ! กับแคมเปญ 'Write for Rights' กิจกรรมรณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชนที่ใหญ่สุดในโลก

10 ธันวาคม 2565

Amnesty International Thailand

นักรณรงค์.jpg

กลับมาอีกครั้งกับแคมเปญ Write for Rights’ หรือ ‘เขียน เปลี่ยน โลก’ กิจกรรมรณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชนประจำปีที่ใหญ่สุดในโลก ซึ่งผู้คนนับล้านทั่วโลกมารวมตัวกันเพื่อปกป้องสิทธิของผู้อื่น โดยกิจกรรมนี้ได้จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 21 แล้ว

ปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เผยว่า นักกิจกรรมทั่วโลกได้ร่วมกันเฉลิมฉลอง “วันสิทธิมนุษยชนสากล” ซึ่งตรงกับวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี โดยในปีนี้ได้เข้าร่วมกิจกรรมรณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชนที่ใหญ่สุดของโลก ในแคมเปญ Write for Rights’ ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งจัดขึ้นทุกปีตั้งแต่ปี 2544 แคมเปญนี้เป็นกิจกรรมที่ประชาชนในกว่า 200 ประเทศและดินแดน  รวมถึงประเทศไทย โดยมีปฏิบัติการหลายล้านครั้งเพื่อสนับสนุนผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน

เมื่อคำนึงถึงภัยคุกคามระดับโลกมากขึ้นต่อสิทธิในการชุมนุมประท้วง และเพื่อสนับสนุนแคมเปญ “Protect the Protest” หรือ “ปกป้องสิทธิในเสรีภาพการชุมนุมประท้วง” ซึ่งเป็นแคมเปญใหม่ระดับโลกของแอมเนสตี้ แคมเปญ Write for Rights’ ปี 2565 จึงเป็นการรณรงค์เพื่อบุคคล 13 คนที่ต้องเสียสละเพื่อจะได้ใช้สิทธิในเสรีภาพการแสดงออกของตน 

“ในแต่ละปี แคมเปญ Write for Rights’ ช่วยให้เรารำลึกถึงพลังที่ยิ่งใหญ่ของปฏิบัติการร่วมกัน แคมเปญนี้พิสูจน์ให้เห็นหลายต่อหลายครั้งว่า เมื่อผู้คนมารวมตัวกันมากพอและรวมกันเป็นเสียงเดียวต่อสู้กับความอยุติธรรม ทางการก็ต้องรับฟัง และนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของหลายชีวิต"

“ไม่ว่าจะมองไปที่ใดในโลกนี้ สิทธิในการชุมนุมประท้วงกำลังถูกโจมตี แค่ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา เราได้เห็นผู้จัดการชุมนุมประท้วงมากมายถูกปราบปรามโดยรัฐบาล ตั้งแต่อิหร่านถึงคิวบาและที่อื่นๆ จึงเป็นเหตุผลให้ผู้เข้าร่วมแคมเปญ ‘Write for Rights’ ปี 2565 จะร่วมกันเปล่งเสียงสนับสนุนผู้ที่ต้องสูญเสียจากการใช้สิทธิในเสรีภาพการแสดงออกของตน”

ในวันสิทธิมนุษยชนสากลปีนี้ จะมีการจัดกิจกรรมมากภายภายใต้แคมเปญ Write for Rights’ ในหลายพื้นที่ทั่วโลก รวมทั้งการจัดคอนเสิร์ตที่ไอวอรี่ โคสต์ การวิ่งฮาล์ฟมาราธอนที่ซิมบับเว และกิจกรรมเขียนจดหมายสาธารณะที่เบลเยียม เดนมาร์ก แคนาดา อิตาลี ไอร์แลนด์ มาลี มองโกเลีย เนเธอร์แลนด์ โปแลนด์ สโลวีเนีย เกาหลีใต้ สเปน สวีเดน ไต้หวัน และตุรกี จะมีกิจกรรมอย่างอื่นในระดับโลกตลอดทั้งเดือนธันวาคม 

ส่วนประเทศไทยได้จัดกิจกรรม "Taste of Rights: ผัสสะแห่งสิทธิ" ในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ ณ The Jam Factory คลองสาน กรุงเทพ งานระดมทุนใหญ่เพื่อสนับสนุนสิทธิมนุษยชนศึกษา และเน้นย้ำถึงสิทธิมนุษยชน ว่าคือสิทธิที่ติดตัวพวกเรามาตั้งแต่เกิด และไม่อาจมีใครพรากไปได้ ที่จะชวนผู้คนมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการรับรู้ ดื่มด่ำ และเข้าใจเรื่องราวของสิทธิผ่านรสชาติ เสียง กลิ่น สัมผัสผ่านมือ และสัมผัสผ่านใจไปด้วยกัน

โดยทุกเดือนธันวาคม ประชาชนทั่วโลกเขียนจดหมาย อีเมล โพสต์ทวีต เฟซบุ๊ก ส่งไปรษณียบัตรหลายล้านครั้ง เพื่อให้กำลังใจกับผู้ที่ถูกประหัตประหารและละเมิดสิทธิอย่างไม่เป็นธรรม แคมเปญ Write for Rights’ ได้ช่วยเปลี่ยนชีวิตของคนกว่า 100 คนตั้งแต่ปี 2544 ทำให้พวกเขารอดพ้นจากการทรมาน การคุกคาม หรือการคุมขังที่ไม่เป็นธรรม โดยในปี 2564 มีปฏิบัติการรวมกันกว่า 4.5 ล้านครั้ง

หนึ่งในเป้าหมายการรณรงค์เมื่อปีที่แล้วอยู่ที่ รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล นักกิจกรรมจากประเทศไทย จากเด็กขี้อายและเงียบขรึมได้กลายมาเป็นแกนนำในการเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตย เธออาจถูกจำคุกตลอดชีวิตเพียงเพราะใช้สิทธิในเสรีภาพการชุมนุมโดยสงบ ในแคมเปญ Write for Rights’ ปี 2564 มีปฏิบัติการกว่าสามแสนครั้งเพื่อสนับสนุนเธอ ต่อมารุ้งได้รับการประกันและปล่อยตัวชั่วคราวพร้อมกำหนด 5 เงื่อนไข อาทิ ไม่ทำกิจกรรมที่กระทบต่อสถาบันกษัตริย์ ห้ามออกนอกเคหสถานตลอดเวลา ไปจนถึงให้ติดกำไลอิเล็กทรอนิกส์ (EM) ในวิดีโอที่ส่งถึงนักกิจกรรมของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เธอกล่าวว่า

รุ้งได้อ่านจดหมายจากแคมเปญนี้ตอนออกมาจากคุกแล้ว ตอนนั้นถือเป็นช่วงที่มืดมนที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้  ข้อความที่เขียนให้มานั้นส่วนใหญ่เป็นข้อความให้กำลังใจ บอกว่ายังมีคนที่อยู่เคียงข้างเรานะ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในประเทศเดียวกัน ไม่ได้รู้จักกัน ไม่ได้ทำอะไรร่วมกันก็ตาม  เป็นคนแปลกหน้าที่เขียนให้กำลังใจ และบอกเราว่า ‘เราเชื่อมั่นใจตัวคุณ’ ‘เราเชื่อว่าคุณต่อสู้ได้’  และย้ำว่าเราทำในสิ่งที่ถูกต้องแล้ว  มันเป็นประโยคที่สร้างกำลังใจให้เราเป็นอย่างมาก ทำให้ช่วงเวลามืดมิดตรงนั้นสว่างขึ้นทันที จากการที่เราได้รับความรักจากคนแปลกหน้า”

ตลอดทุกภูมิภาคในโลก ทางการได้ใช้และเพิ่มมาตรการมากมายเพื่อปราบปรามผู้เห็นต่าง ผู้ชุมนุมประท้วงทั่วโลกต้องเผชิญกับการจำกัดสิทธิหลากหลายรูปแบบ มีการใช้กฎหมายและมาตรการอื่นๆ เพิ่มขึ้นเพื่อจำกัดสิทธิในการชุมนุมประท้วง รวมทั้งการขัดขวาง คำสั่งห้าม และการเอาผิดทางอาญากับการประท้วง การใช้กำลังจนเกินขอบเขตและไม่จำเป็น การใช้อุปกรณ์บังคับใช้กฎหมายอย่างมิชอบ การจับกุมและควบคุมตัวอย่างมิชอบ การขยายตัวของการสอดแนมข้อมูลอย่างมิชอบ ทั้งแบบเหวี่ยงแหและแบบมีเป้าหมาย การสั่งตัดอินเทอร์เน็ตและการเซ็นเซอร์ออนไลน์ และการคุกคาม และการสร้างตราบาป

ผู้ที่ต้องเผชิญกับความไม่เท่าเทียมและการเลือกปฏิบัติ ไม่ว่าจะด้วยเหตุแห่งเชื้อชาติ เพศ รสนิยมทางเพศ อัตลักษณ์ทางเพศ ศาสนา อายุ ความพิการ อาชีพ สถานะด้านสังคม เศรษฐกิจ หรือการเข้าเมือง ยังได้รับผลกระทบมากขึ้นจากการจำกัดสิทธิในการชุมนุมประท้วง และต้องถูกปราบปรามอย่างรุนแรงขึ้น

สำหรับเป้าหมายของแคมเปญ Write for Rights’ ในปีนี้ ได้แก่ บุคคล 13  คน ซึ่งชีวิตของพวกเขาได้รับผลกระทบด้านลบจากการปราบปรามของรัฐบาลต่อสิทธิในการชุมนุมประท้วง ในขณะที่แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ได้รณรงค์ช่วยเหลือในเเคมเปญนี้ในสามกรณี  ในประเด็นการใช้สิทธิเสรีภาพในการเเสดงออก การใช้กำลังอย่างมิชอบด้วยกฎหมายโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ  รวมถึงการเรียกร้องสิทธิเท่าเทียมกันทางเพศ   โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

 

ซีเน็บ เรอดวนย์ จากประเทศฝรั่งเศส เมื่อเดือนธันวาคม 2561 ขณะที่ซีเน็บกำลังเตรียมอาหารเย็นใน อพาร์ตเมนต์ชั้นสี่ของเธอ ด้านล่างที่ถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุม ขณะที่ซีเน็บเดินไปปิดหน้าต่าง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เล็งเครื่องยิงระเบิดแก๊สน้ำตามายังจุดที่เธอยืนอยู่และทำการยิง เธอถูกระเบิดยิงเข้าที่หน้าและเสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บ

ซีเน็บถูกสังหารจากการใช้ระเบิดแก๊สน้ำตาอย่างประมาทโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผ่านมาเกือบสี่ปี การสอบสวนถึงสาเหตุการเสียชีวิตของเธอยังคงดำเนินอยู่ และไม่มีเจ้าหน้าที่คนใดถูกตั้งข้อหาหรือถูกพักงานจากการเสียชีวิตอันน่าเศร้าของเธอ ครอบครัวของซีเน็บยังรอความยุติธรรมอยู่

 

 

อีเรน โรเตลา และมารีอานา เซปูลเวดา จากประเทศปารากวัย พวกเธอต้องการใช้ชีวิตอย่างอิสระ แต่ในฐานะผู้หญิงข้ามเพศ ต้องต่อสู้เพื่อสิทธิของตน คนข้ามเพศในประเทศปารากวัยไม่สามารถเปลี่ยนชื่อหรือมีเอกสารระบุตัวตนตามกฎหมายที่ตรงกับอัตลักษณ์ทางเพศได้ รัฐกำลังพยายามทำให้ให้พวกเขาเป็นกลุ่มคนที่ไม่มีตัวตนในสังคม เป็นเรื่องยากที่คนข้ามเพศจะเคลื่อนไหว ชุมนุมประท้วงและส่งเสียงให้สังคมรับรู้ถึงอุปสรรคที่พวกเขากำลังเผชิญ

อีเรนและมารีอานา ต่อสู้มานานหลายปีเพื่อเปลี่ยนชื่อตามกฎหมาย หากพวกเธอสามารถครอบครองเอกสารที่ตรงกับตัวตนและอัตลักษณ์ของพวกเธอได้ แสดงว่ารัฐเริ่มรับรู้ถึงการมีอยู่ของพวกเธอในฐานะผู้หญิงข้ามเพศ อย่างที่อีเรนเคยพูดไว้ว่า "ฉันเกิดมาบนโลกนี้เพื่อแสดงให้เห็นว่าฉันเป็นใคร ไม่ใช่ให้คนอื่นมาบอกว่าฉันเป็นใคร"

 

 

อเล็กซานดรา สโกชิเลนโก จากประเทศรัสเซีย เธอคือศิลปินชาวนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ซึ่งถูกทางการควบคุมตัวหลังเปลี่ยนป้ายราคาสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นข้อความเกี่ยวกับสงครามในยูเครน ทำให้ต่อมาเธอถูกตั้งข้อหาว่ามีความผิดฐาน "เผยแพร่ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับกองกำลังสหพันธรัฐรัสเซีย"  ซึ่งเป็นข้อห้ามตามกฎหมายใหม่ที่บังคับใช้ล่าสุด

ปัจจุบันเธออยู่ในศูนย์ควบคุมตัวก่อนการพิจารณาคดีเพื่อรอคำตัดสินของศาล เธอยังถูกคุกคามโดยเจ้าหน้าที่ศูนย์ควบคุมตัวและเพื่อนร่วมห้องขังของเธอ หากอเล็กซานดราถูกตัดสินว่ามีความผิด เธออาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี ไม่นานมานี้ อเล็กซานดราถูกจัดเป็นหนึ่งในทำเนียบ 100 Woman ของ BBC ประจำปี 2022 จากความกล้าหาญในการใช้เสรีภาพในการแสดงออกเพื่อต่อต้านสงครามในยูเครน

 

ข้อมูลพื้นฐาน 

318753537_461448045951550_4192125360520671428_n.gif

แคมเปญ Write for Rights’ หรือ 'เขียน เปลี่ยน โลก’ เริ่มต้นเมื่อ 21 ปีที่แล้วที่กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์ จากกลุ่มเพื่อนที่ตัดสินใจเฉลิมฉลองวันสิทธิมนุษยชนสากล ด้วยการเขียนจดหมายมาราธอนติดต่อกัน 24 ชั่วโมง จากจดหมาย 2,326 ฉบับเพิ่มเป็นจดหมาย การทวีตข้อความ และการลงชื่อในจดหมาย 4.5 ล้านฉบับในปี 2564  แคมเปญ Write for Rights’ได้เติบโตจนเป็นกิจกรรมรณรงค์ด้านสิทธิมนุษยชนประจำปีที่ใหญ่ที่สุดในโลก

ปีนี้คุณสามารถร่วมเป็นส่วนของแคมเปญ Write for Rights’ - เขียน เปลี่ยน โลก’ โดยรวมลงชื่อเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงได้ที่ www.aith.or.th

คลิก เพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรณรงค์ แคมเปญ Protect the Protest” (ปกป้องสิทธิในเสรีภาพการชุมนุมประท้วง) แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล