สิทธิมนุษยชนรอบโลกประจำสัปดาห์ 12 พฤจิกายน - 18 พฤจิกายน 2565

20 พฤศจิกายน 2565

Amnesty International Thailand

 
คูเวต : ทางการต้องยุติการประหารชีวิตที่กำลังจะมาถึงของนักโทษเจ็ดคน
15 พฤจิกายน 2565
 
สืบเนื่องจากข่าวที่คูเวตวางแผนจะประหารชีวิตนักโทษ 7 คนในวันที่ 16 พฤศจิกายนหลังจากที่ได้มีการละเว้นการประหารชีวิตมานาน 5 ปี
แอมนา กูเอลลาลี รองผู้อำนวยการฝ่ายตะวันออกกลางและอเมริกาเหนือ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลกล่าวว่า
“ทางการคูเวตต้องยุติการประหารชีวิตเหล่านี้ในทันที โทษประหารชีวิตนับเป็นการละเมิดสิทธิในการมีชีวิตและเป็นความโหดร้ายถึงที่สุด ไร้มนุษยธรรมและเป็นการลงโทษที่ย่ำยีศักดิ์ศรี แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลคัดค้านโทษประหารชีวิตในทุกกรณีโดยไม่มีข้อยกเว้น โดยไม่คำนึงถึงลักษณะหรือพฤติการณ์ของอาชญากรรม ความผิด ความบริสุทธิ์ หรือ ลักษณะอื่น ๆ ของผู้กระทำความผิด หรือวิธีการที่รัฐใช้ในการประหารชีวิต”
“คูเวตจะต้องรีบเปลี่ยนโทษเหล่านี้และโทษประหารอื่นๆ ทั้งหมดให้เป็นการจำคุกและทบทวนกฎหมายของตัวเองเกี่ยวกับโทษประหารชีวิต โดยทางการต้องกำหนดข้อตกลงยุติการประหารชีวิตอย่างเป็นทางการในทันทีเพื่อเป็นการยกเลิกโทษประหารชีวิตอย่างสิ้นเชิง”
 
อ่านต่อ: https://bit.ly/3V88Ewu
 
———
 
 
ประเทศไทย :ทางการจะต้องยกเลิกการตั้งข้อหาต่อผู้ชุมนุมประท้วงที่เป็นเด็ก
18 พฤจิกายน 2565
 
ทางการไทยต้องยกเลิกการตั้งข้อหาต่อผู้ชุมนุมประท้วงที่เป็นเด็ก หลังจากที่พวกเขาได้เข้าร่วมการชุมนุมประท้วงที่มีผู้ร่วมชุมนุมประท้วงจำนวนมากระหว่างปี 2563 ถึง 2565 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว เมื่อวันที่ 18 พฤจิกายน ที่ผ่านมา ก่อนถึงวันเด็กโลก ในวันที่ 20 พฤศจิกายนนี้
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลได้ทำการติดตามอย่างใกล้ชิดและบันทึกผลกระทบของการปราบปรามผู้ชุมนุมประท้วงที่เป็นเด็กอย่างต่อเนื่องยาวนานหลายปี ซึ่งรวมถึงการข่มขู่ สอดแนม และการกำหนดให้กิจกรรมของพวกเขาเป็นสิ่งผิดกฎหมาย
ทางองค์กรยังได้บันทึกเหตุการณ์ที่ตำรวจไทยและเจ้าหน้าที่รัฐอื่นๆได้ติดตามและสอดแนมผู้ชุมนุมประท้วงที่เป็นเด็กหลายสิบคน กดดันให้สมาชิกในครอบครัวและทางโรงเรียนของเด็กๆเหล่านั้นกีดกันพวกเขาไม่ให้เข้าร่วมการชุมนุมประท้วง และมีการข่มขู่โดยตรงว่าจะฟ้องร้องพวกเขาและผู้ปกครอง
 
อ่านต่อ: https://bit.ly/3TO7Ziz
 
———
 
 
ปากีสถาน : การห้ามฉายภาพยนตร์เรื่อง Joyland ที่มีการแสดงตัวละครข้ามเพศจะต้องถูกยกเลิกในทันที
16 พฤจิกายน 2565
 
สืบเนื่องจากการที่รัฐบาลปากีสถานสั่งห้ามฉายภาพยนตร์เรื่อง Joyland ที่ได้รับรางวัลมาเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งแสดงให้เห็นบุคคลข้ามเพศเป็นตัวละครหลักและการตัดสินใจของคณะกรรมการตรวจสอบที่ยังไม่สามารถตัดสินใจแน่นอนได้เกี่ยวกับการยกเลิกการห้ามฉายในวันที่ 16 พฤจิกายน ที่ผ่านมา
นาเดีย เราะห์มาน นักวิจัยและที่ปรึกษานโยบายด้านเพศของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า
“นี่เป็นกระแสที่น่าตกใจล่าสุดของการเซ็นเซอร์และการปราบปรามเสรีภาพในการแสดงออกในปากีสถาน การห้ามฉายภาพยนตร์เรื่อง Joyland นั้นขัดแย้งกับพื้นหลังของสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและสิทธิของคนข้ามเพศที่ถูกจำกัดอยู่แล้วกำลังถูกคุกคามในประเทศมากขึ้น เราหวังว่าการตัดสินใจที่น่าผิดหวังในการเพิกถอนใบอนุญาตการฉายภาพยนตร์เรื่องนี้ในปากีสถานจะถูกยกเลิกในทันทีและมีความพยายามที่จะผ่อนคลายในสิ่งที่ผู้คนสามารถอ่าน ดู พูด หรือทำได้”
 
อ่านต่อ: https://bit.ly/3EjZbLO
 
———
 
มาเลเซีย : รัฐบาลชุดต่อไปจะต้องส่งเสริมสิทธิมนุษยชน
17 พฤจิกายน 2565
 
จากความไม่แน่นอนทางการเมืองอย่างหนักและสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศที่ตกต่ำลงในระยะเวลาที่ผ่านมา รัฐบาลชุดต่อไปของมาเลเซียจะต้องให้ลำดับความสำคัญกับการเคารพและปกป้องสิทธิมนุษยชน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลกล่าวก่อนการเลือกตั้งทั่วประเทศในอาทิตย์นี้
“ทางการมาเลเซียต้องให้ความเคารพสิทธิมนุษยชนอย่างเต็มที่ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการเลือกตั้งที่จะมาถึง สิทธิมนุษยชนตกอยู่ภายใต้การโจมตีครั้งใหม่ ด้วยการชุมนุมอย่างสันติและเสรีภาพในการแสดงออกทางออนไลน์อยู่ภายใต้ข้อจำกัดที่เพิ่มขึ้น” ราเชล โชอา-ฮาวเวิร์ด นักวิจัยเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าว
ในปี 2022 ตำรวจได้ทำการสอบสวนผู้จัดกิจกรรมการชุมนุมสาธารณะ และแจ้งข้อหาต่อผู้ที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับราชวงศ์ เชื้อชาติหรือศาสนาหรือวิพากษ์วิจารณ์ทางการ
 
อ่านต่อ: https://bit.ly/3OhjTAs
 
———
 
ซาอุดีอาระเบีย : ความพยายามของรัฐบาลไบเดนในการอนุมัติให้มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมานพ้นจากภาระรับผิดชอบเป็นการทรยศอย่างลึกซึ้ง
18 พฤจิกายน 2565
 
สืบเนื่องจากข่าวการยื่นฟ้องทางกฎหมายของรัฐบาลสหรัฐฯ เรียกร้องให้ศาลสหรัฐฯ อนุมัติให้มกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมานพ้นจากภาระรับผิดชอบจากการถูกฟ้องร้องโดยคู่หมั้นของจามาล คาชอกกี นักข่าวที่ถูกสังหาร
แอกเนส คาลามาร์ด เลขาธิการ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า
“รัฐบาลสหรัฐควรต้องอับอาย นี่ไม่ใช่อะไรมากไปกว่าการทรยศหักหลังที่น่าสะอิดสะเอียนอย่างสิ้นเชิง ประการแรก หลักฐานที่แสดงว่ามกุฎราชกุมารมีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมของจามาล คาชอกกี ถูกเมินเฉยจากประธานาธิบดีทรัมป์ จากนั้นประธานาธิบดีไบเดนก็ไปชนกำปั้น ทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นถึงข้อตกลงที่ไม่ซื่อตรงที่เกิดขึ้นโดยตลอด”
“จากการที่รัฐบาลซาอุดีอาระเบียพยายามที่จะขยายความคุ้มกันแก่โมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน โดยแค่การประกาศว่าเขาเป็นนายกรัฐมนตรีมันมากกว่าการเหยียดหยาม มันเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังที่รัฐบาลสหรัฐฯได้ให้ผลกับอุบายทางกฎหมายนี้ สิ่งนี้ชี้ให้เห็นถึงความหมายที่น่าสลดใจว่า ผู้ที่อยู่ในอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นประมุขของรัฐ เจ้าหน้าที่รัฐที่มือเปื้อนเลือด นายพลที่ก่อการอาชญากรสงคราม รัฐมนตรีที่สั่งลักพาตัวและทรมาน ผู้บริหารที่ทุจริต มีอิสระในการดำเนินการเหนือกฎหมายโดยได้รับการยกเว้นโทษโดยสิ้นเชิง”
 
อ่านต่อ: https://bit.ly/3Olzcbk