สิทธิมนุษยชนรอบโลกประจำสัปดาห์ 5 - 11 พฤศจิกายน 2565

13 พฤศจิกายน 2565

Amnesty International Thailand

 
อินเดีย : รัฐสมาชิกสหประชาชาติต้องเรียกร้องความรับผิดชอบต่อรายงานสิทธิมนุษยชนของอินเดียในกระบวนการ UPR ที่จะเกิดขึ้น
9 พฤศจิกายน 2565
 
ก่อนกระบวนการทบทวนสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชน (Universal Periodic Review: UPR) รอบที่ 4 ของอินเดียในช่วงการประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติวันที่ 10 พฤศจิกายน
อาการ์ พาเทล ประธานคณะกรรมการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลอินเดีย กล่าวว่า
“กระบวนการทบทวนสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนครั้งที่สี่ของอินเดียมาถึงในช่วงเวลาที่สถาบันสิทธิมนุษยชนและสถาบันสิทธิวิพากษ์วิจารณ์ สำนักสื่ออิสระ และภาคประชาสังคมกำลังเผชิญกับการโจมตีอย่างเป็นระบบในประเทศ โดยการประเมินนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญกับรัฐสมาชิกสหประชาชาติในการพิจารณารายงานสิทธิมนุษยชนในอินเดียและเรียกร้องให้รับผิดชอบต่อทำร้ายและการละเมิด”
“แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนลขอเรียกร้องให้ทุกรัฐสมาชิกสหประชาชาติมีส่วนร่วมในบทสนทนาที่มีคุณค่ากับอินเดีย รวมถึงการติดตามคำแนะนำที่ผ่านมาและเสนอคำแนะนำที่เป็นรูปธรรมเพื่อยกระดับการเคารพสิทธิมนุษยชนในประเทศ”
 
อ่านต่อ: https://bit.ly/3WUbdni
 
 
อิตาลี : ทางการต้องอนุญาตให้ผู้รอดชีวิตลงจากเรือในกาตาเนียโดยด่วน
6 พฤศจิกายน 2565
สืบเนื่องจากการตัดสินใจของทางการในการปฏิเสธไม่ให้บางคนลงจากเรือในกาตาเนีย ซิซิลี และความพยายามที่จะดันพวกเขากลับลงทะเล
จูเลีย ฮอลล์ รองผู้อำนวยการ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประจำภูมิภาคยุโรปกล่าวว่า
“กฎหมายทะเลนั้นระบุชัดเจนว่าการช่วยเหลือจะสิ้นสุดลงก็ต่อเมื่อผู้รอดชีวิตทั้งหมดได้ลงจากเรือและขึ้นฝั่งในที่ปลอดภัย โดยไม่มีช่องว่างสำหรับการตีความกฎหมายอย่างสร้างสรรค์ เมื่อมีคนทุกข์ทรมานและบอบช้ำหลังจากเสี่ยงชีวิตกลางทะเล”
“การบังคับให้คนจำนวน 35 คนอยู่บนเรือ Humanity 1 ทำให้อิตาลีไม่เพียงแต่ละเมิดพันธกรณีระหว่างประเทศในการนำคนขึ้นฝั่งและคุ้มครองพวกเขาภายใต้กฎหมายสิทธิมนุษยชนและกฎหมายพาณิชยนาวี แต่ยังสร้างสถานการณ์ที่เสี่ยงอันตรายซึ่งเป็นอันตรายต่อทั้งผู้รอดชีวิตและลูกเรือของ Humanity 1 อีกด้วย เราขอเรียกร้องให้ทางการอิตาลีอนุญาตให้ทุกคนที่ยังคงอยู่บนเรือขึ้นฝั่งโดยเร็วที่สุด”
 
อ่านต่อ: https://bit.ly/3WRWMQF
 
 
ซาฮาราตะวันตก : นักโทษที่ถูกจำคุกเป็นเวลานานกำลังรอความยุติธรรม
8 พฤศจิกายน 2565
 
นักกิจกรรมซาห์ราวี 19 คน ทนทุกข์ในเรือนจำหลายปีหลังจากที่ศาลโมร็อกโกตัดสินลงโทษพวกเขาในกระบวนการที่ไม่เป็นธรรม ฮิวแมนไรท์วอทช์และแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
การพิพากษาลงโทษกลุ่มที่เรียกว่า Gdeim Izik เกิดจากการอ้างบทบาทในความรุนแรงที่ถึงแก่ชีวิตซึ่งปะทุในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2010 เมื่อตำรวจโมร็อกโกทำการรื้อค่ายที่พักผู้ประท้วงในซาฮาราตะวันตก การพิจารณาคดีถูกทำลายโดยการอาศัย "คำสารภาพ" เป็นหลัก ซึ่งจำเลยปฏิเสธเพราะถูกบังคับให้สารภาพจากการทรมาน
“ขณะนี้ชาย 19 คนได้ใช้เวลาในเรือนจำ 12 ปีแล้ว โดยยังเหลือเวลาที่ต้องรับโทษอีกหลายปี หลังจากการพิจารณาคดีที่เอนเอียงไปอย่างมากกับคำสารภาพที่มีมลทิน” ลามา ฟาคีฮ์ ผู้อำนวยการตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือของฮิวแมนไรท์วอทช์ กล่าว
 
อ่านต่อ: https://bit.ly/3A3Q6Fy
 
 
อียิปต์ : ผู้นำโลกที่ร่วมประชุม COP 27 ต้องเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักกิจกรรมชาวอียิปต์ - อังกฤษที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิต
9 พฤศจิกายน 2565
 
สืบเนื่องจากความกลัวอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับชะตากรรมของ อะลา อับเดล ฟัตตาห์ นักกิจกรรมชาวอียิปต์-อังกฤษที่ถูกคุมขัง ซึ่งได้ทำการอดอาหารประท้วงในคุกตั้งแต่เดือนเมษายนและเริ่มที่จะปฏิเสธการดื่มน้ำเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
แอกเนส คาลามาร์ด เลขาธิการ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า
“ทางการอียิปต์ปฏิเสธอย่างโหดเหี้ยมและดื้อรั้นที่จะปล่อยตัว อะลา ปฏิเสธแม้แต่จะบอกข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับความเป็นอยู่หรือตำแหน่งที่แน่นอนของเขาให้กับครอบครัว แม้ว่าแม่ของเขาได้รอเป็นเวลา 3 วันที่หน้าประตูเรือนจำ Wadi al-Natrun โดยหวังว่าจะได้รับจดหมายจากเขา ตอนนี้อะลา กำลังถูกคุมขังโดยไม่สามารติดต่อกับคนอื่นได้ หลังจากที่ทางการปฏิเสธไม่ให้เขาติดต่อกับครอบครัวและโลกภายนอก สิ่งนี้ได้เพิ่มสัญญาณความเสี่ยงอย่างน่าตกใจของการบังคับให้สูญหาย ตลอดจนการทรมานและการปฏิบัติที่โหดร้ายอื่นๆ”
“ผู้นำโลกและผู้แทนที่มาเยือนอียิปต์เพื่อร่วมประชุม COP27 จะต้องทำอย่างเต็มความสามารถเพื่อกดดันทางการให้ปล่อยตัว อะลา ในทันที และเรียกร้องอย่างเปิดเผยว่าพวกเขาคาดหวังการปล่อยตัวอย่างไม่มีเงื่อนไขเท่านั้น ทางการอียิปต์ต้องรับรองว่า อะลา จะได้รับการดูแลทางการแพทย์ที่เพียงพอตามหลักจริยธรรมทางการแพทย์ในสถานที่ซึ่งครอบครัวของเขาเลือก และรายล้อมไปด้วยครอบครัวและคนที่รัก ประชาคมโลกจะต้องไม่เพิกเฉยอีกต่อไปเมื่อ อะลา เสี่ยงต่อการถูกทรมานและถึงแก่ชีวิต เรื่องนี้จะทำให้ชื่อเสียงด่างพร้อยและแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ต้องแลกเมื่อไม่ได้นำสิทธิมนุษยชนมาเป็นศูนย์กลางของการทูต”
 
อ่านต่อ: https://bit.ly/3fZ8msD
 
 
ยูเครน : รัสเซียย้ายพลเรือนอย่างผิดกฎหมายเป็นอาชญากรรมสงครามและมีแนวโน้มว่าเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ – รายงานฉบับใหม่
10 พฤศจิกายน 2565
 
ทางการรัสเซียได้บังคับย้ายและเนรเทศพลเรือนออกจากพื้นที่ที่ถูกยึดครองของยูเครนซึ่งนับว่าเป็นอาชญากรรมสงครามและมีแนวโน้มว่าเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวในรายงานฉบับใหม่ที่เผยแพร่เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
รายงานชื่อว่า “Like a Prison Convoy”: Russia’s Unlawful Transfer of Civilians in Ukraine and Abuses During ‘Filtration’ ให้รายละเอียดว่ากองกำลังรัสเซียและกองกำลังที่รัสเซียควบคุมได้บังคับย้ายพลเรือนจากพื้นที่ที่ถูกยึดครองของยูเครนเข้าไปในพื้นที่ควบคุมของรัสเซียหรือไปยังรัสเซีย เด็กถูกแยกออกจากครอบครัวในระหว่างการดำเนินการ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ
 
อ่านต่อ: https://bit.ly/3UC1Neq