10 วิธีรณรงค์สิทธิมนุษยชนแบบไม่ต้องออกจากบ้าน

26 สิงหาคม 2560

เรื่อง: เทพดล ปัญญาธิปัตย์

 

เชื่อหรือไม่? นั่งๆ นอนๆ อยู่บ้านในวันหยุด คุณก็สามารถช่วยสนับสนุนสิทธิมนุษยชนและเรียกร้องความยุติธรรมได้ตั้งหลายวิธี เพียงแค่เสียเวลาไม่กี่นาทีและคลิ้กนิ้วไม่กี่ครั้ง ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้างที่คุณทำได้

 

 1.ลงชื่อออนไลน์

 

ทุกๆ วัน มีผู้คนมากมายที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนและต้องการเสียงสนับสนุนจากคุณ โชคดีที่เทคโนโลยีสมัยใหม่ช่วยให้ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือและผู้ให้ความช่วยเหลือเช่นคุณสื่อสารกันได้ง่ายขึ้น เพียงแค่ไม่กี่คลิ้ก พิมพ์ตัวหนังสือไม่กี่ตัว คุณก็สามารถสนับสนุนผู้คนที่ต่อสู้เพื่อสิทธิมนุษยชนทั่วโลกได้แล้ว การลงชื่อออนไลน์เรียกได้ว่าเป็นวิธีรณรงค์ที่สะดวกและได้ผลมากที่สุดวิธีหนึ่งในยุคนี้เลยก็ว่าได้

 

ลงชื่อรณรงค์ Write For Rights

 

2.ทวีต

 

ทวิตเตอร์เป็นโซเชียลเน็ตเวิร์กยอดฮิตสำหรับติดตามข่าวสารได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย แต่มันยังสามารถเป็นอีกช่องทางของการสนับสนุนสิทธิมนุษยชนได้ผ่านการทวิตข้อความโดยตรงไปยังตัวบุคคลหรือสถาบันที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน ยิ่งมีจำนวนทวิตมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งส่งผลให้การละเมิดสิทธิมนุษยชนเป็นที่รับรู้ในวงกว้างมากขึ้นเท่านั้น จนสามารถนำไปสู่การปรับปรุงแก้ไขในที่สุด

 

3.ติดแฮชแท็ก

 

การใช้แฮชแท็ก ไม่ว่าจะเป็นทางเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ หรือโซเชียลเน็ตเวิร์กอื่นๆ ช่วยให้ประเด็นสิทธิมนุษยชนต่างๆ ถูกแพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็วและทำให้คนทั่วไปสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายขึ้น ทำให้ดึงดูดผู้ที่สนใจและผู้สนับสนุนกลุ่มใหม่ๆ ได้ไม่ยาก

 

4.ส่งจดหมาย

 

แม้อินเทอร์เน็ตจะทำให้คุณร่วมรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชนได้ง่ายขึ้น แต่วิธีรณรงค์แบบดั้งเดิมของแอมเนสตี้อย่างการส่งจดหมายก็ยังเป็นวิธีหนึ่งที่สร้างผลกระทบได้ชัดเจนและหนักแน่น เพราะเป็นสิ่งจับต้องได้ และยิ่งจำนวนจดหมายมากเท่าใด ผู้ที่ละเมิดสิทธิหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบก็จะยิ่งรับรู้ถึงแรงกดดันมากขึ้นเท่านั้น นอกจากนี้ คุณยังสามารถส่งจดหมายเพื่อให้กำลังผู้ถูกละเมิสดิทธิได้อีกด้วย

 

5.โทรศัพท์

 

หลายคนอาจคาดไม่ถึงว่าการโทรศัพท์เป็นอีกวิธีสนับสนุนสิทธิมนุษยชนที่สะดวก รวดเร็ว และได้ผลดี เพราะทำได้ทุกที่ทุกเวลาและมีต้นทุนต่ำ หากคุณพบการละเมิดสิทธิมนุษยชน ก็สามารถยกหูรายงานแอมเนสตี้หรือหน่วยงานที่รับผิดชอบได้ทันที ส่วนการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่่เกิดขึ้นในต่างประเทศคุณก็สามารถโทรไปแสดงกังวลกับทางสถานทูตประเทศนั้นๆ เพื่อกดดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงได้เช่นกัน

 

6.บริจาค

 

การบริจาคนับว่าเป็นปัจจัยสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการสนับสนุนสิทธิมนุษยชน เพราะหากไร้ซึ่งเงินทุน สนับสนุน การรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชนต่างๆ ก็จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะแอมเนสตี้ที่มีปนิธานแน่วแน่ว่าจะไม่รับเงินก้อนจากภาครัฐหรือเอกชนเพื่อรักษาความอิสระและเป็นกลางในการรณรงค์ เงินบริจาคเล็กๆ น้อยจากคนธรรมดาๆ เช่นคุณจึงมีค่าอย่างมาก

 

บริจาคสนับสนุนสิทธิมนุษยชนกับแอมเนสตี้

 

7.สมัครสมาชิก

 

การสมัครสมาชิกกลุ่มหรือองค์กรสิทธิมนุษยชนแสดงว่าคุณสนใจสิทธิมนุษยชนอย่างจริงจังมากขึ้นกว่าคนทั่วไป สำหรับแอมเนสตี้ สมาชิกจะมีสิทธิเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ ได้รับข้อมูลข่าวสารเป็นประจำ ตลอดจนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการกำหนดนโยบาย เลือกตั้งคณะกรรมการ และสมัครเป็นหนึ่งในคณะกรรมการทั้งในระดับประเทศและระดับสากลได้อีกด้วย

 

8.ศึกษา

 

การศึกษาสิทธิมนุษยชนอย่างจริงจังทำให้คุณเข้าใจสังคมและความเป็นไปของโลกมากขึ้น ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้เพื่อริเริ่มการรณรงค์ในประเด็นที่คุณสนใจต่อไปได้ และเทคโนโลยีสมัยใหม่ก็ทำให้การเรียนเป็นเรื่องง่ายมากขึ้นผ่านการเรียนรู้ด้วยตนเองและคอร์สออนไลน์ต่างๆ บนโลกอินเทอร์เน็ตมีข้อมูลมากมายให้เลือกสรร เหลือแต่คุณเท่านั้นที่จะหยิบมันมาใช้ให้เป็นประโยชน์

ลงทะเบียนเรียนออนไลน์กับแอมเนสตี้

 

9.ตอบคำถาม

 

หากคุณพบเห็นคนที่สงสัยเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนหรือการแสดงความคิดเห็นที่ส่งเสริมการละเมิดสิทธิมนุษยชนบนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะบนโซเชียลมีเดียหรือเว็บบอร์ดต่างๆ คุณก็สามารถรณรงค์ง่ายๆ ด้วยการเข้าไปตอบคำถามของพวกเขา เพื่อให้เกิดความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนที่ถูกต้องเพิ่มขึ้นได้ โดยคุณต้องใช้ข้อความที่สุภาพและไม่สร้างความเกลียดชังเสมอ

 

10.แชร์

 

คนจำนวนมากอ่านข่าวบนอินเทอร์เน็ตและจะสนใจเรื่องราวที่เพื่อนของพวกเขาเป็นคนแชร์ ดังนั้น การแชร์ข่าว ข้อความ หรือเรื่องราวเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนบนโซเชียลเน็ตเวิร์กส่วนตัวของคุณก็ถือว่าเป็นการรณรงค์อย่างหนึ่งแล้ว เพื่อนบางคนอาจได้รู้จักสิทธิมนุษยชนเป็นครั้งแรกจากโพสต์ของคุณ หรือเพื่อนบางคนที่เห็นโพสต์ของคุณแล้วอยากลุกขึ้นมาทำอะไรบางอย่างก็เป็นได้

 

ช่องทางการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์มีอีกมากมาย ขอแค่คุณเลือกทำในสิ่งที่เหมาะสมกับเวลาและความสามารถที่มีและมั่นใจในพลังของตัวเองเท่านั้น เพราะ “การกระทำเล็กๆ สร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ได้เสมอ”